เธอไม่ใช่ว่ารักเขาจนจะเป็นจะตายเหรอ? เคยทำเพื่อเขา แม้แต่ครอบครัว แม้แต่อนาคตของตัวเองเธอก็ไม่สนใจ ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแต่งเข้าตระกูลหิรัญชามา
หลังจากนั้น ตั้งครรภ์ลูกสามคน เกือบจะเสียชีวิตในห้องผ่าตัด ห้าปีให้หลังกลับมาอีกครั้ง ยังติดหนึบอยู่กับน้องชายของเธอ
ตอนนี้พูดว่าเกลียดก็เกลียดแล้วเหรอ?
แสงดาวไม่ค่อยเชื่อคำพูดแบบนี้: “เธอบ้าไปแล้วแล้วหรือเปล่า นั่นคือน้องชายของฉัน เธอไม่ต้องการเขาแล้วเหรอ”
“ไม่ต้องการ”
เส้นหมี่ตอบกลับมาเบาๆสามคำ ภายในใจ เหมือนมีเข็มนับไม่ถ้วน.....กำลังทิ่มแทง
แสงดาว:“……”
ในที่สุดเธอก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก มองดูหญิงสาวที่กำลังอารมณ์แปรปรวนอย่างกะทันหัน สิ่งเดียวที่เธอทำได้ คือรีบออกไป โทรหาน้องชายของเธอที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย
แต่เวลานี้ เส้นหมี่พูดตามหลังออกมา: “ถ้าคุณเอาเรื่องเหล่านี้ไปบอกกับเขา งั้นฉันก็จะหายตัวไปจากคุณ”
แสงดาว:“!!!!”
หญิงสาวผู้นี้ เป็นบ้าแปดส่วน!!
สุดท้ายแสงดาวก็เดินจากไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
เส้นหมี่ได้ยินเสียงปิดประตู มุมปากกระตุก อีกครั้งที่ได้นั่งอยู่คนเดียวก็ดีเหมือนกัน
ความจริงแล้วในตอนนี้ ไม่อยากเจอผู้ชายคนนั้น
เพราะว่า เกรงว่าได้เจอเขาแล้ว เธอจะไม่กล้าจากไป
ผู้ชายที่เธอหลงรักมาหลายปี ยังมี ลูกๆของพวกเขา พวกเขายังเล็ก เกรงใจอย่างมาก ถ้าเธอได้เจอแล้ว เธอจะทำใจจากไปได้อย่างไร? จะจากไปอย่างวางใจได้อย่างไร?
เส้นหมี่นั่งนิ่งอยู่ในความมืดอยู่นานแสนนาน ถึงได้หมุนล้อวีลแชร์ให้ค่อยๆเคลื่อนไปในความมืด คลำหาโทรศัพท์ในห้องนี้
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เมืองAที่ห่างออกไปปอร์เช่รับสายโทรศัพท์
“ฮัลโหล?”
“เช่ นี่พี่เอง ตอนนี้สถานการณ์ทางโน้นเป็นยังไงบ้าง”
เส้นหมี่ได้ยินเสียงจากสายโทรศัพท์นี้ ขอบตาเริ่มร้อนผ่าวขึ้นอย่างเสียมิได้ หยาดน้ำตาเกือบจะรินไหลออกมา
ปอร์เช่ได้ยินเสียงของพี่สาว รู้สึกดีใจมากขึ้นมาทันที
“พี่สาว คุณไม่เป็นไรจริงๆด้วย ดีจังเลย พวกเราสบายดี ตอนนี้บริษัทเปิดกิจการแล้ว คุณลุงก็ออกมาจากเรือนจำแล้ว”
“อืม……”
เส้นหมี่ได้ยินดังนั้น ทั้งดีใจ ทั้งเสียใจ
แต่ว่า แบบนี้เธอก็วางใจแล้ว
เธอเริ่มบอกกล่าวเรื่องต่างๆ: “เช่ ฉันอยู่ที่นี่คงกลับไปไม่ได้สักพัก คุณหาปากกาจดหน่อย ฉันจะบอกคุณว่า ตอนนี้พวกเรายังมีทุนอยู่เท่าไหร่ แล้วก็สามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง ฉัน...จะอธิบายให้คุณฟัง”
“ค่ะ คุณรอสักครู่ แป๊บเดียว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก