เส้นหมี่ไม่รู้ว่าตัวเองนั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์นี้มานานแค่ไหน จนปรอยฝนบนศีรษะเม็ดใหญ่ขึ้น ร่วงหล่นบนร่างของเธอ มีคนมาเห็น แล้วเดินเข้ามา
“แม่หนู เป็นอะไรหรือเปล่า ? อากาศหนาวๆแบบนี้ แล้วยังมาฝนตกอีก ทำไมมานั่งอยู่ที่นี่คนเดียวไม่กลับบ้านกลับช่องล่ะ?”
เมื่อเส้นหมี่ได้ยิน ก็ถึงได้เงยหน้าขึ้นจากหัวเข่าของตัวเอง มองไปยังบุคคลดังกล่าว
เธอคือหญิงวัยกลางคนที่อายุราวๆเลขสี่ได้ สวมใส่เสื้อโค้ตสีแดงเข้ม ที่บริเวณขอบเสื้อคลุม ก็มีผ้าเป็นขุยๆให้เห็น อยู่ห่างกันไกลก็ยังได้กลิ่นควันของน้ำมันที่ติดตัวมากับร่างกาย
ดูแล้ว คนคนนี้ก็อาจจะเป็นแม่ของใคร หรือภรรยาของใครสักคน
เส้นหมี่ส่ายหัว และพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ”
“ไม่เป็นไรแล้วทำไมถึงไม่กลับบ้าน คนที่บ้านคงเป็นห่วงแล้ว หรือขึ้นรถเมล์ไม่ทัน ? เฮ้อ แม่หนู ฉันจะบอกอะไรให้ ป่านนี้แล้วไม่มีรถเมล์วิ่งกันแล้ว ฉันจะช่วยโบกรถแท็กซี่ให้แล้วกันนะ ”
คุณน้าคนนี้มีน้ำใจมาก เมื่อเห็นเส้นหมี่ยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน ก็ยังจะช่วยเธอโบกรถอีก
เส้นหมี่ได้ยิน ก็รีบโบกมือให้ “คุณน้า ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้องจริงๆ……”
“เจ้าเด็กคนนี้ มีเรื่องคับข้องใจอะไรใช่ไหม ไม่เป็นไรหรอกนะ ชีวิตคนเรายังอีกยาวไกล ย่อมต้องมีอุปสรรคบ้าง แต่ถ้าเราก้าวข้ามมันไปได้ ก็จะดีขึ้นเอง เราต้องคิดถึงคนที่รักเรา และคนที่เขารอเราให้มากๆ หืม?”
คุณน้าที่ดูมีประสบการณ์อย่างมาก ราวกับมองอะไรออก ถอนหายใจและพูดปลอบ
เส้นหมี่ตะลึงงัน
คนที่รอเธอ ?
ใช่ เธอลืมมันไปได้ยังไง ? เธอยังมีคนที่รอเธออยู่ พ่อแม่จากเธอไปแล้ว ญาติก็แทบไม่มี แต่เธอยังมีคนที่รอเธอให้กลับไปหา นั่นก็คือลูกของเธอ! ลูกที่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด มีอะไรที่พวกเขาต้องการมากกว่าต้องการเธออีก ?
และแล้วเส้นหมี่ก็ราวกับตื่นขึ้นมาจากฝัน ทันทีทันใด เธอหยัดกายลุกขึ้นจากพื้น
“คุณน้า ขอบคุณนะคะ หนูเข้าใจแล้วค่ะ ”
“อืม เข้าใจก็ดี รีบกลับบ้านซะนะ ”
คุณน้ายิ้มให้ และบอกให้เธอรีบกลับบ้าน จากนั้นเธอก็เดินจากไปพร้อมกระเป๋าที่ถืออยู่ในมืออย่างรวดเร็ว และดูเหมือนคนที่กำลังรีบกลับบ้านยังไงอย่างนั้น
เส้นหมี่อยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นมาเป็นเวลานาน ริมฝีปากดำคล้ำ เนื้อตัวสั่นเทาอยู่ตรงนั้น จากนั้น ก็โบกรถแท็กซี่แล้วจากไป
เธอต้องรีบไปหาลูกชายคนโตของเธอ เขายังรอเธออยู่
ค่ำคืน ดึกมากแล้ว
ฝนในฤดูหนาวเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ค่ำคืนที่ลมหนาวพัดโชย ทำให้อากาศหนาวเย็นจนกัดกินไปถึงในกระดูก แม้จะแค่เหลือบมอง เส้นหมี่ที่นั่งอยู่บนรถก็รู้สึกถึงความหวานเย็นที่แทรกซึมผ่านเข้ามา อดไม่ได้ที่จะต้องห่อเสื้อผ้าตัวเอง และรู้สึกเปียกแฉะที่บริเวณศีรษะ เธอพยายามจะหาอะไรมาเช็ดออก ก็พบว่าในตอนที่ออกมานั้นรีบร้อนเกินไป นอกจากอุปกรณ์เข็มต่างๆ เธอก็ไม่ได้พกอะไรติดตัวมาด้วย
ช่างมัน ปล่อยมันไปแบบนี้แล้วกัน
ป่านนี้แล้ว ไม่รู้ว่าชินชินหลับไปหรือยัง ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก