ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 105

ตอนที่ 105 ท้ายที่สุดข้าก็กลับมา!

แมวสีขาวมีขนขาวราวหิมะ เป็นสีขาวที่บริสุทธิ์และสวยงามที่สุดในโลกนี้ มาพร้อมกับความสดใสน่ารัก แต่เงาของมันเป็นสีดำ เป็นสีดำแห่งความสิ้นหวัง เหมือนกับแขนของปีศาจที่ขยายยาวออกมาจากพื้นดิน แผ่ขยายออกไปไม่หยุด ปกคลุมไปทั่วอย่างต่อเนื่อง

สิ่งที่มาพร้อมกันก็คือ คำสาปแห่งความสิ้นหวัง!

นัยน์ตาของแมวเปล่งประกาย เป็นลักษณะที่เหมือนกับส่วนลึกในนัยน์ตาของเหลียงชวนก่อนหน้านั้นไม่ผิดเพี้ยน ระดับของความแดงเหมือนกับแมกมาที่ไหลไปมา ทำให้คนหายใจไม่ออก!

หากมองดีๆ ดูเหมือนว่าในนัยน์ตาของแมว พอจะมองเห็นร่างเงาของผีมากมายนับไม่ถ้วนกำลังโหยหวน รวมทั้งกองกระดูกเท่าภูเขา

นัยน์ตาคู่นั้นของแมว ตราตรึงด้วยภาพสุดสยองในส่วนลึกสุดของนรกภูมิ นั่นคือแดนชำระ นั่นคืออสูร นั่นคือสถานที่พักผ่อนอย่างสงบสุขของสรรพสิ่งรวมทั้งสถานที่แห่งความบ้าคลั่งสุดท้าย นั่นคือจุดกำเนิดของชีวิต นั่นคือที่พึ่งพิงสุดท้ายของทุกสิ่ง! และสถานที่แห่งนั้น แม้แต่ยมทูตทั่วไปก็ไม่มีสิทธิ์เข้าใกล้

เพราะที่นั่นยมทูตกับวิญญาณทั่วไป ไม่ได้มีคุณสมบัติแตกต่างกันมาก

‘เมี้ยว!’

เสียงร้องของแมวดังสะท้อนไปทั่วถนนเหล่าเจีย ทำให้พวกยมทูตที่กรูกันเข้ามาหัวใจสั่น เวลานี้พวกเขาเกือบลืมไปแล้วจริงๆ ว่าตัวเองกำลังอยู่บนโลกมนุษย์ แต่ดูเหมือนว่าตัวเองได้กลับไปนรกภูมิแล้ว กลับไปยังดินแดนอันมืดมนไร้ความหวัง

ในโลกมนุษย์ พวกเขาเปรียบเสมือนสิ่งมีอยู่ที่ลึกลับในสายตาของมนุษย์ทั้งหลาย พวกเขาที่มีตัวตนอยู่ในนิทานปรัมปราและตำนานเทพ เมื่อเทียบกับเทพเซียนจีนที่อยู่บนภูเขาสูงเหล่านั้น ก็ไม่แตกต่างอะไร กระทั่งพวกเขามีความใกล้ชิดกับมนุษย์ทั่วไปมากกว่า ผู้คนหวาดกลัวพวกเขาเหมือนดั่งเสือ!

แต่ในยมโลก ในนรก พวกเขาเป็นแค่ข้าราชการระดับล่างสุดเท่านั้น

ในขณะที่เสียงแมวร้อง สีแดงในนัยน์ตาของเหลียงชวนที่ดับไปเริ่มฟื้นฟูกลับมา ไม่มีเลือดไหลออกมาจากเบ้าตาอีก และส่วนที่ไหลออกมาก็ได้แห้งเหือดไปแล้ว แต่สีแดงชาดนั้นกลับก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง

ถึงขั้นที่เหนือกว่าครั้งก่อน! หัวข้อของคืนนี้คือการแก้แค้น ก่อนหน้านั้นเป็นแค่การโหมโรง! จากนี้ไปถึงจะเป็นเนื้อเพลงจริง!

เพื่อนของฉันที่ตายไป ฉันจะนำดวงวิญญาณของพวกแกมาร่วมเป็นสักขีพยานทั้งหมดในคืนนี้! เลือดของฉันแห้งหมดแล้ว ต่อไปถึงตาพวกแกที่ต้องเลือดไหลบ้าง…

เหลียงชวนเริ่มขยับนิ้วทั้งสิบอีกครั้ง ข้อนิ้วที่ซีดขาวเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล เขากำลังบรรเลง เขากำลังแสดงโชว์เขากำลังเล่นโน้ตเพลงที่เป็นของตัวเองตอนเที่ยงคืน

ทุกคนที่ได้ฟังล้วนต้องตาย!

ยมทูตที่อยู่ในนั้น เพียงชั่วขณะก็มียมทูตสามตนที่ตาแดงขึ้นมาพร้อมกัน จากนั้นได้โจมตีเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกายตนเองอย่างไม่ลังเลเลยสักนิดเดียว

พวกคุณจับผม พวกคุณใช้ชีวิตคนสนิทของผมมาบังคับผม พวกคุณคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายยุติธรรม พวกคุณหยิ่งยโสโอหังมองไม่เห็นหัวใคร พวกคุณดูถูกมดที่แอบหนีออกมาอย่างผม พวกคุณคิดว่าตัวเองสูงส่ง พวกคุณคิดว่าตัวเองมีเกียรติยิ่งกว่าใคร พวกคุณคิดว่าปณิธานของตัวเองเป็นสิ่งที่ถูกต้อง อย่างนั้นวันนี้ ผมอยากจะดูว่า พวกคุณจะสูงส่งไปถึงไหน!

ผมอยากจะดูว่า พวกคุณร้องไห้เป็นไหม พวกคุณเจ็บเป็นไหม พวกคุณตื่นตระหนกเป็นไปไหม พวกคุณจะเหมือนมนุษย์ทั่วไปหรือไม่ หลังจากที่ถอดเสื้อคลุมและฐานะของพวกคุณออกแล้วจะรู้สึกกลัวเหมือนกันหรือไม่!

สิบนิ้วพลิ้วไหวสอดประสานกัน ความถี่ของการสั่นสะเทือนเร็วกว่าเดิมสองเท่า โน้ตเพลงแห่งความตายไหลพุ่งออกมาท่ามกลางร้านของชำคนตาย เหล่ายมทูตเริ่มฆ่ากันเองยุ่งเหยิงพัลวัน

มีคนถูกควบคุมในเสี้ยววินาทีก่อนหน้านั้น เริ่มโจมตีสหายของตนเองไปหนึ่งที หลังจากนั้นหนึ่งวินาทีต่อมา เขาก็หลุดจากการควบคุมอีก ตอนที่ยังเคลิบเคลิ้มอยู่นั้น สหายที่ถูกโจมตีเมื่อครู่ได้โจมตีเขากลับเช่นกัน

ยมทูตแต่ละคน เวลานี้ราวกับว่ากลายเป็นหุ่นเชิดที่อยู่ตรงหน้าของเหลียงชวน เขาอยากเล่นตัวไหนก็ขยับตัวนั้น กลั่นแกล้งพวกเขา หยอกล้อพวกเขา คอยดูพวกเขาฆ่ากันเองท่ามกลางความหวาดกลัวและลังเล

นี่คือของขวัญที่ผมมอบให้พวกคุณ!

พวกคุณพูดว่าผมอยากเป็นผู้พิพากษา ทำผิดกฎใหญ่หลวง อย่างนั้นวันนี้ ผมก็สมดังสิ่งที่พวกคุณปรารถนาแล้วจะตัดสินความเป็นความตายของพวกคุณ!

ตรงมุมหนึ่งของร้านชำคนตาย สาวน้อยโลลิที่กำลังใช้ลิ้นเลียแผลของตัวเอง มองทุกอย่างด้วยความอึ้งอ้าปากค้าง เธอเห็นเพื่อนร่วมงานที่อยู่ตรงหน้าตัวเองกำลังฆ่ากันเองอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีความปรานีเลยสักนิด

เธอเห็นสีแดงในดวงตาของพวกเขาส่องประกายอย่างต่อเนื่อง เธอมองเห็นผู้ชายที่พวกเขาตามฆ่ากำลังยืนพิงขอบประตู ตาแดงฉาน แต่กลับยิ้มมุมปากเล็กน้อย คอยชื่นชมทุกอย่าง!

ทั้งหมดทั้งมวลดูไม่สมจริง เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง นี่คือความฝัน ต้องเป็นความฝันแน่ๆ ข้ากำลังอยู่ในฝันแน่นอน จะต้องอยู่ในความฝันเป็นแน่!

ใช่แล้ว นี่ไม่ใช่ความจริง ไม่ใช่ความจริงเด็ดขาด นี่จะเป็นความจริงไปได้อย่างไร!

ถ้าหากโจวเจ๋ออยู่ที่นี่ตอนนี้ มองเห็นฉากที่สาวน้อยโลลิกำลังตกใจเหม่ออย่างสิ้นเชิง คาดว่าคงจะรู้สึกปลงอนิจจังสุดๆ สาวน้อยโลลิที่น่าเกรงขามในสายตาของเขาก่อนหน้านี้ เวลานี้กลายเป็นสาวน้อยโลลิธรรมดาขี้ตกใจ ขดตัวอยู่ตรงนั้น ตัวสั่นงันงก

เสียดายที่เธอมีแต่วิญญาณ ไม่มีกายเนื้อ ไม่อย่างนั้นถ้าหากโจวเจ๋ออยู่ที่นี่ละก็ คงจะไปเปิดกระโปรงดูว่าเธอตกใจจนฉี่ราดหรือเปล่า

แน่นอนว่า เมืองทงเฉิงอยู่ห่างจากเมืองหรงเฉิงสองพันกว่ากิโลเมตร แต่โจวเจ๋อใช่ว่าจะรับรู้ไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ฝ่ามือข้างขวาของเขา ตรงตำแหน่งที่มีตราประทับนั้นมีความปวดแสบไม่หยุด เจ็บจนโจวเจ๋อแทบจะทนไม่ไหว และได้แต่กำหมัดของตัวเองให้แน่น

ถึงแม้จะไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่โจวเจ๋อมีลางสังหรณ์บางอย่าง นั่นก็คือถ้าหากคนนั้นกลับไปเมืองหรงเฉิงแล้วหาเรื่องสาวน้อยโลลิที่นำความยุ่งยากมาสู่ตัวเอง ตอนนี้เธอคงกำลังเจอปัญหาใหญ่ และกุญแจแห่งนรกที่เธอทิ้งไว้ให้เขากำลังเคลื่อนย้าย นี่หมายความว่า เธอกำลังสูญเสียการควบคุมกุญแจดอกนี้อย่างช้าๆ!

ถ้าหากเธอกลับมาไม่ได้จริงๆ กุญแจดอกนี้ ก็จะเป็นของเขา และเป็นของเขา…อย่างสิ้นเชิง!

มีสมุดอยู่ในมือแล้ว กุญแจก็มีแล้ว ดังนั้นตัวเขาจึงเป็นยมทูตได้อย่างเหมาะสม!

เมืองหรงเฉิง ถนนเหล่าเจีย วุ่นวายแล้วๆ วุ่นวายจริงๆ ทั่วทั้งถนนเหล่าเจียต่อสู้กันจนเละตุ้มเป๊ะ

“ตอนที่ข้าลงนรก

ใช้โครงกระดูกปูทางเดินเล็กๆ

ตอนที่ข้าลงนรก

เด็ดดอกพลับพลึงแดงที่สวยที่สุด”

เหลียงชวนมองฉากบ้าระห่ำที่อยู่ตรงหน้าแล้วหัวเราะอย่างมีความสุขมาก เขาฮัมเพลงเบาๆ ทำตัวราวกับผู้บรรยายเรื่องตลกที่น่าเวทนาและบ้าระห่ำนี้ กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นแทบจะหยดลงมาเป็นเสียงพากย์ของละครเวทีเรื่องนี้

ปลายเล็บยังคงพลิ้วไหว ทำนองเพลงยังคงไหลพุ่งออกมา มันยังไม่จบ และยังหยุดไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล