สรุปตอน ตอนที่ 147 วนลูป – จากเรื่อง ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet
ตอน ตอนที่ 147 วนลูป ของนิยายActionเรื่องดัง ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 147 วนลูป
นักพรตเฒ่าอ้วกจนหน้ามืดตาลายอยู่ข้างๆ ของที่เพิ่งกินเข้าไปกลับคืนออกมาทั้งหมด น่าเวทนาจับใจ ทั้งสีแดง สีขาว สีเหลือง พื้นเต็มไปด้วยหลากสีสัน ราวกับเปิดร้านขายน้ำจิ้ม
น้ำตาคลอเบ้า ความเสียใจและความเกลียดชังอัดแน่นอยู่ในหัวใจของนักพรตเฒ่า ทำไมเขาถึงได้โชคร้ายอย่างนี้
ระมัดระวังสุดใจขาดดิ้น นึกว่าตัวเองหลบหลุมพรางพ้นแล้วเสียอีก แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ เขาดันกระโดดลงไปในหลุมพลางที่ใหญ่กว่าเดิมเสียเองด้วยความโง่เขลา
ในขณะที่กระโดดก็ตะโกนร้องไปด้วย
เลื่อนลอยมาก!
“ออกไปจากร่างเธอแล้วไปกับผม”
โจวเจ๋อเร่งเร้า เหลือแค่เขาเพียงคนเดียวแล้ว ส่งเขากลับนรกได้ โจวเจ๋อก็จะเปลี่ยนเป็นพนักงานประจำได้แล้ว
บางทีนี่ก็คือการพยายามหาแทบตายไม่เจอ แต่พอเลิกหาเลิกสนใจกลับได้มาง่ายๆ แบบคาดไม่ถึง เขายุ่งวุ่นวายอยู่ในโรงเรียนนานมาก แม้กระทั่งสิ่งที่เรียกว่าเจ้าหนี้ในชาติที่แล้วยังโผล่มา แต่ปรากฏว่าจับผีจริงๆ ไม่ได้สักตัว ทว่าระหว่างทางกลับดันเจอกับเขา (เธอ) เสียได้
หญิงสาวคอตกราวกับยอมรับชะตากรรม แต่เธอก็ยังเอ่ยปากพูด
“ผมอยากอยู่กับเธออีกพักหนึ่ง เธอก็ยินยอมด้วย เรายังสามารถพบกันในฝันทุกคืน ผมยังสามารถเห็นลูกๆ ทั้งสามคนของผมอยู่”
โจวเจ๋อเมินเฉย คนตายทุกคนล้วนแล้วแต่มีความคิดถึงและความยึดติดของตนในโลกมนุษย์ นี่เป็นลักษณะเฉพาะของสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญา มักจะมีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดที่ผลักดันให้คว้าโอกาสที่อยู่รอบตัวอยู่เสมอ
แม้แต่โจวเจ๋อเองก็เหมือนกัน แต่ความเข้าใจก็คือความเข้าใจ กฎก็ต้องเป็นกฎ
ยิ่งไปกว่านั้น วิญญาณของสามีดวงนี้สิงอยู่ในร่างของหญิงสาวมาตลอด อีกไม่นานร่างกายของหญิงสาวก็จะรับไม่ไหวและมีปัญหา สุดท้ายแล้วก็เป็นเพียงการทำร้ายตัวเองและผู้อื่นเท่านั้น
‘โครม!’
จู่ๆ หญิงสาวก็ผลักแผงลอยตรงหน้าออกไป เข่งทั้งหลายแหล่คว่ำมาทางฝั่งโจวเจ๋อ หลังจากนั้นเธอก็หันหลังเตรียมจะวิ่งหนี เธอคิดจะหนี เธอไม่อยากถูกจับไป
โจวเจ๋อผลักเข่งตรงหน้าออกไป และใช้ปลายนิ้วคว้าจับไปข้างหน้าเบาๆ มวลหมอกดำที่คนธรรมดามองไม่เห็นถูกปล่อยออกมา แล้วตรงเข้าไปพันรอบๆ ตัวหญิงสาวเอาไว้
หญิงสาวคร่ำครวญและล้มลงกับพื้น
โจวเจ๋อก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวก็มาถึงตรงหน้าหญิงสาว เขานั่งยองๆ ยื่นมือวางบนหน้าผากหญิงสาว จากนั้นโจวเจ๋อก็จับเอาวิญญาณสีดำดวงหนึ่งออกมา
นี่เป็นใบหน้าของชายหนุ่ม ชายหนุ่มยังคงดิ้นรนขัดขืนพลางคำรามด้วยความโกรธ ซึ่งแฝงไปด้วยความรู้สึกไม่ยินยอมและควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้อย่างรุนแรง
“เธอยอม เธอเต็มใจที่จะอยู่กับผมต่อไป เธอบอกผมในความฝันตอนกลางคืนว่าเราจะเลี้ยงลูกด้วยกัน เธอเต็มใจ!”
ชายคนนั้นกำลังโต้เถียงเพื่อตัวเอง แล้วจ้องโจวเจ๋อด้วยความโกรธ
“เธอยินยอมอย่างเต็มใจ ทำไมคุณต้องเข้ามายุ่งด้วย!”
“ผมต้องการผลงานน่ะ”
“…” ชายหนุ่ม
โจวเจ๋อบอกไปตามความจริง ว่ากันถึงแก่นแท้แล้วเขาต้องการผลงาน และตอนนี้มันขาดอีกเพียงแค่แต้มเดียว เขาเองก็รอมาหลายวันแล้ว จึงต้องเอาคุณกลับไปเพื่อแลกกับการเป็นพนักงานประจำเท่านั้น
ชายหนุ่มตะลึงไปครู่หนึ่ง ท่าทีของโจวเจ๋อที่ยืดอกยอมรับว่าทำไปเพื่อผลประโยชน์แบบนี้ทำให้เขาไม่อาจตอบโต้ได้ เพราะเขารู้ ไม่ว่าตัวเขาจะตอบโต้หรือโต้แย้งไปมากแค่ไหน ก็ไม่ทำให้อีกฝ่ายใจอ่อน
“ให้ผมกลับบ้านไปหาลูกๆ ทั้งสามคนของผมอีกครั้งเถอะนะ”
ชายหนุ่มวิงวอน
“คราวนี้ผมสัญญาว่าจะไม่หายไปหรือคิดหลบหนีอีก”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาพูดเรื่องเงื่อนไขกับผม และผมก็ไม่ได้มาถ่ายรายการด้วย”
“ในบ้านผม…ยังมีผีอีก…หนึ่งตน!”
“งั้นก็ได้ ก่อนคุณจะจากไปกลับบ้านไปเยี่ยมเยียนสักหน่อยก็เป็นเรื่องที่สมควร นอกเหนือจากกฎเกณฑ์ยังมีน้ำใจของมนุษย์อยู่ ว่าไหมครับ”
พอนักพรตเฒ่าที่เพิ่งอ้วกเสร็จได้ยินคำพูดเหล่านี้ จู่ๆ ก็รู้สึกอยากอ้วกขึ้นมาอีกครั้ง แต่เขาอดทนไว้ ไม่มีความกล้าหรอก
หญิงสาวฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่มีความรู้สึกมึนๆ งงๆ เล็กน้อย นักพรตเฒ่าช่วยประคองเธอกลับไปพร้อมกัน แม้ว่าผีที่สิงร่างจะเป็นสามีของเธอก็ตาม แต่ก็ทำให้ร่างกายและจิตใจเสียหายไปไม่น้อยเลย
ตามคำบอกทางของผีหนุ่ม โจวเจ๋อเริ่มเดินไปทางบ้านของเขา
นักพรตเฒ่าเป็นเจ้าแห่งผู้อยู่ไม่สงบนิ่ง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยล้อหมั่นโถวไซส์ใหญ่ของคนอื่นมาก่อน แต่ในเวลานี้เขาก็ไม่คิดจะถือโอกาสนี้แต๊ะอั๋งคนอื่น คนอื่นน่าสงสารพออยู่แล้ว ตัวเขาเองไม่อาจจะทำเรื่องเลวร้ายซ้ำเติมอีก ดังนั้นเขาก็เลยคุยเล่นกับผีไปซะเลย
“น้องชาย เป็นคนที่ไหนล่ะ ฟังสำเนียงภรรยาของเจ้าแล้วไม่ใช่คนที่นี่”
ภาษาถิ่นทงเฉิงนั้นแยกออกได้ง่ายมาก การแยกแยะนั้นอยู่ในระดับที่ง่ายเกินไป เพราะโดยทั่วไปแล้วมันไม่ได้อยู่สายเดียวกับภาษาจีนกลาง บางครั้งภาษาถิ่นในบางพื้นที่ก็คล้ายกับตระกูลภาษาจีนกลางมากเกินไป ดังนั้นตอนที่คนในท้องถิ่นพูดภาษาจีนกลางก็จะติดสำเนียงท้องถิ่นมาโดยไม่รู้ตัว
“คนเสฉวน” ชายหนุ่มตอบ
ในเวลานี้เขารู้สึกกระจ่างขึ้นมาบ้างแล้ว และก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย สิ่งสำคัญคือท่าทีของโจวเจ๋อ มันแตกต่างจากพระสงฆ์หรือพวกนักพรตที่มักเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเปี่ยมไปด้วยเมตตาที่เขาเคยดูทางทีวีมาก่อนจริงๆ
นั่นเป็นเพราะเขาไม่สามารถดำเนินชีวิตตามจังหวะปกติของคนธรรมดาได้จริงๆ
“งั้นในเมื่อเจ้าบอกว่าหมู่บ้านทางโน้นทำอย่างนี้กันทั้งนั้น ก็น่าจะรู้ว่าการเสพของพรรค์นี้อันตรายต่อร่างกาย แล้วทำไมถึงยังเสพอยู่” นักพรตเฒ่าถามด้วยความไม่เข้าใจ
“ถ้าคนทั้งหมู่บ้านเสพ คุณก็จะไม่รู้สึกอะไรเลย สภาพแวดล้อมต่างกัน” ชายหนุ่มพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “เหมือนกับพ่อ อา พี่ชาย และเพื่อนร่วมงานของคุณสูบบุหรี่ แม้ว่าบนกล่องบุหรี่จะพิมพ์ข้ออันตรายต่อสุขภาพของการการสูบบุหรี่ไว้ แต่คุณก็ยังรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ถึงอย่างไรทุกคนก็เสพมันอยู่ดี”
นักพรตเฒ่าพยักหน้าและครุ่นคิด
นักพรตเฒ่าถามอีกครั้งทันที “แล้วเงินของเจ้าล่ะ ก่อนเจ้าตายก็เสียเงินพวกนั้นไปทั้งหมดเหรอ”
“ผมทิ้งเงินไว้มากมาย” ชายหนุ่มพูด “ผมไม่ได้ทำผิดต่อครอบครัวผม ผมไม่ได้ทำผิดต่อภรรยาและลูกๆ ของผม”
“ฮ่าๆ” นักพรตเฒ่าขำ
ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ในห้องโรงรถ…ในชุมชน ชั้นล่างเดิมทีเป็นโรงรถของคนอื่น ซ่อมแซมและปรับปรุงทำเป็นห้องชุดก็สามารถปล่อยเช่าได้แล้ว
หญิงสาวถูกประคองเข้ามาในห้อง ในห้องยังมีเด็กอีกสามคน ทุกคนเบิกตากว้างจ้องมองโจวเจ๋อ นักพรตเฒ่า และแม่ของพวกเขา
ลูกชายสองคนและลูกสาวหนึ่งคน ทั้งหมดน่าจะยังอยู่ในวัยประถมศึกษา และหนึ่งในนั้นยังพันผ้าพันคอสีแดง
เสื้อผ้าของเด็กทั้งสามคนดูเก่าไปหน่อย แต่ใบหน้าสะอาดสะอ้าน สภาพจิตใจก็ดีไม่น้อย แม้ว่าสภาพความเป็นอยู่จะไม่ค่อยดีนัก แต่แม่ของพวกเขาน่าจะจัดการได้เป็นอย่างดี
แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร ครอบครัวนี้ก็ไม่เหมือนกับที่ชายคนนั้นพูดไว้ว่าหลังจากเขาตายได้ทิ้งเงินไว้มากมาย
“นี่ เจ้าหาเงินมาได้เยอะไม่ใช่เหรอ ทำไมภรรยาและลูกของเจ้าถึงมาอยู่ที่ทงเฉิงได้ล่ะ แถมยังอยู่ที่นี่อีก” นักพรตเฒ่าถาม
“เธอพาลูกๆ มาที่นี่ เธอไม่อยากอยู่ในหมู่บ้านเดิม” ชายหนุ่มตอบ
ในเวลานี้ โจวเจ๋อก็เอ่ยขึ้น “ผีอีกตนอยู่ที่ไหนล่ะ”
เถ้าแก่โจวคิดว่าทำผลงานได้มากเท่าไรก็ยิ่งดีมาตลอด เขาไม่มีกะจิตกะใจจะมาทำคอลัมน์ทางอารมณ์และไม่ได้ใจบุญสุนทานอะไร
สายตาของผีหนุ่มมองไปยังผ้าม่านที่มุมด้านใน
โจวเจ๋อเดินเข้ามาเลื่อนม่านเปิดออก หลังม่านมีอ่างอาบน้ำพลาสติกเล็กๆ มีเด็กหนุ่มที่ดูอ่อนวัยนั่งขดตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำ เขาตัวสั่นงันงก มีรอยจ้ำแดงๆ สะดุดตาตรงหน้าอก
“เขาเป็นลูกชายของผม หลังผมตายก็ใช้เงินที่ผมทิ้งไว้ให้ครอบครัวไปจนหมด จากนั้นเมื่อเงินหมดเขาเดินตามรอยของผม ทั้งเสพทั้งขาย แต่โชคร้ายโดนจับได้น่ะ จำนวนที่ส่งไปหรงเฉิงมันมากเกินไปหน่อย ก็เลยถูกยิงตาย”
…………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล