ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 162

สรุปบท ตอนที่ 162 ข้ากลัวจริงๆ!: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอน ตอนที่ 162 ข้ากลัวจริงๆ! จาก ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 162 ข้ากลัวจริงๆ! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 162 ข้ากลัวจริงๆ!

โจวเจ๋อเห็นแล้วตกใจจริงๆ การจัดอย่างหรูหราแบบนี้มันอลังการเกินไป

แม้แต่ในผลงานละคร เหล่านักพรตก็จัดของเซ่นไหว้ไม่อลังการแบบนี้ การกราบไหว้ในวัดทั่วไปมีผลไม้นิดหน่อยและหัวหมูอีกหนึ่งหัวก็ถือว่ามีฐานะไม่เลวแล้ว

แต่ที่นี่ เป็นการเซ่นไหว้ด้วยคนเป็น คนเป็นยี่สิบกว่าคน ครอบครัวนี้ถูกจับมาขังไว้ที่นี่ให้เป็นเครื่องเซ่นไหว้ เพื่อกราบไหว้เทพเจ้าแห่งท้องทะเล!

โจวเจ๋อเจอเรื่องแปลกพิสดารมาเยอะ นรกก็เคยไป ทั้งสองภพชาติ ทั้งคนและผีก็เจอมาไม่น้อย หากจะพูดตามหลักการแล้ว เรื่องที่สามารถทำให้เขาตกใจได้มีไม่เยอะเลยจริงๆ

แต่ภาพที่อยู่ตรงหน้ากลับทำให้โจวเจ๋อสติหลุดลอยไปชั่วขณะ

ควรทราบว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่คนแก่ผมขาวผิวหนังเหี่ยวย่นเท่านั้น ยังมีเด็กเล็กด้วย คนพวกนี้เดิมทีควรจะมีชีวิตเป็นของตัวเอง เดิมทีควรจะสร้างเสียงหัวเราะและความสุขให้ตัวเอง แต่ตอนนี้ทุกคนกลับถูกขังไว้ที่นี่ กระทั่งพวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเหมือนปลา ได้แต่กระแทกไปทางโน้นทีไปทางนี้ทีอยู่ในกรงตามกระแสคลื่น

ถึงแม้ว่าจะตายไปแล้ว พวกเขาก็ยังถูกขังอยู่!

คนที่จัดพิธีเซ่นไหว้และจัดวางแบบนี้ ราวกับกลัวว่าของเซ่นไหว้ที่ตัวเองจัดเตรียมอย่างประณีตจะหลุดออกไป ทำให้เทพเจ้าแห่งท้องทะเลไม่สบายใจและกินไม่อิ่ม มีความใส่ใจถึงขั้นนี้เชียว

‘อึกๆ…’ ร่างกายที่อ่อนแอ ทำให้เวลาที่กลั้นหายใจได้ค่อนข้างสั้น โจวเจ๋อยื่นมือยกข้อมือของไป๋อิงอิงที่โอบเอวของตัวเองอยู่ เพื่อบอกให้เธอพาเขาขึ้นไปหายใจ

ทว่าไป๋อิงอิงกลับไม่สนใจ เหมือนไม่มีความรู้สึก โจวเจ๋อจึงหยิกมือของนาง แต่นางยังคงนิ่งไม่ขยับเหมือนเดิม

โจวเจ๋อจับแขนของเธอ เธอยังคงไม่รู้ตัวเหมือนเดิม โจวเจ๋อหันไปแล้วจ้องเธอ เขาพบว่าไป๋อิงอิงกำลังหลับตาอยู่!ข้ามองไม่เห็น ข้ามองอะไรไม่เห็นเลย

เล็บที่นิ้วชี้ข้างขวาของโจวเจ๋องอกออกมา ไป๋อิงอิงสั่นไปทั้งตัว แล้วจึงกอดโจวเจ๋อลอยขึ้นไปข้างบน

‘ฮู้ๆ..ฮู้ๆ…ฮู้ๆ…’

หลังจากเปลี่ยนอากาศหายใจแล้ว โจวเจ๋อรู้สึกสบายตัวขึ้นมาก เขาไม่ได้ถือสาความคิดเมื่อครู่ของไป๋อิงอิง พูดตามตรงว่า “ขึ้นข้างบนเถอะ”

“ได้เลย เถ้าแก่!”

ไป๋อิงอิงก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องเมื่อครู่นี้ จากนั้นนางก็เหมือนหุ่นยนต์ทรานฟอร์เมอร์ตัวเล็ก มือขวาโอบเอวของโจวเจ๋อแล้วอุ้มโจวเจ๋อขึ้นมาเหมือนตุ๊กตาผ้า จากนั้นใช้มืออีกข้างหนึ่งจับเรือ แล้วปีนขึ้นไปได้อย่างสบายและสวยงาม

โจวเจ๋อนั่งบนเก้าอี้ก่อน พยายามปรับลมหายใจและรอให้น้ำสะเด็ดจากเสื้อผ้าของตัวเอง ไม่อย่างนั้นเสื้อผ้าจะหนักเกินไป เวลาสวมใส่จะกินแรง

“เถ้าแก่ เมื่อครู่ข้างล่างเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“คุณไม่รู้เหรอ”

“ข้าจะรู้ได้ยังไง”

“นายหญิงของคุณเมื่อก่อนก็แอบเป็นชู้กับบัณฑิตหลังจากนั้นก็ถูกจับใส่กรงหมูถ่วงน้ำไม่ใช่เหรอ”

“เอ่อ…”

“มีคนเอาคนเป็นมาเป็นเครื่องเซ่นไหว้ เพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล” โจวเจ๋อพูด

“ใช้เป็นของเซ่นไหว้บูชาเหรอ” ไป๋อิงอิงตกใจมาก ถึงแม้จะเป็นผีดิบ แต่ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้โหดเหี้ยมเกินไป และน่าสังเวชเกินไปแล้ว

“อย่างนั้นตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น พวกเราอยู่ที่นี่ และกรงเหล็กที่อยู่ข้างล่างก็มีแต่ศพทั้งนั้น ต้องการจะทำอะไรกันแน่”

“ผมเองก็ไม่แน่ใจ แต่ผมมีลางสังหรณ์ว่า เรื่องนี้ บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับชายชราและผู้หญิงคนนั้น อย่างน้อยที่สุด ชายชราคนนั้นต้องมีส่วนร่วมแน่นอน”

ทำไมชายชราต้องมีส่วนร่วมแน่นอน สุนัขจิ้งจอกคนนั้นล่ะอาจจะเป็นข้อยกเว้นอย่างนั้นเหรอ

ไป๋อิงอิงคิดแบบนี้ในใจ

และในเวลานี้ลมก็ก่อตัวขึ้น ลมพัดแรงมาก ผิวทะเลที่เงียบสงบแต่เดิมเกิดคลื่นทันที ทำให้เรือสำราญลำนี้ส่ายไปมาไม่หยุด เหมือนจะคว่ำได้ทุกเมื่อ

โจวเจ๋อนั่งบนเก้าอี้ต่อ พูดตามจริง ตอนนี้เขารู้สึกจนปัญญาเหมือนกัน ถ้าหากตอนนี้ตัวเขาเป็นผู้พิพากษา ไม่แน่เขาอาจจะมีสิทธิ์เจรจากับอีกฝ่าย แต่ตัวเขาในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่เห็นอยู่ในสายตาเลย

แน่นอนว่าปัญหาที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ เทพเจ้าแห่งท้องทะเลตามความคิดโบราณ แท้จริงแล้วดีหรือไม่ดีกันแน่

เขาได้รับของเซ่นไหว้แล้ว ได้มอบสิ่งตอบแทนตามความเหมาะสมของผู้เซ่นไหว้แล้ว หรือว่าการกระทำเช่นนี้ของผู้เซ่นไหว้ทำให้เขารู้สึกถึงความโกรธและถูกเหยียดหยาม ดังนั้นจึงมาลงโทษเขาโดยเฉพาะเหรอ

เมื่ออยู่ในระดับแบบเขา ความคิดตามประเพณีที่เกี่ยวกับความถูก ผิด ดี ชั่ว ยากที่จะยับยั้งพฤติกรรมของเขาแล้วใช่ไหม

‘ครืนนน…’ น้ำทะเลซัดสาดเข้ามา ทำให้เรือสำราญลำนี้ยิ่งโอนเอนมากขึ้น ไป๋อิงอิงสองเท้ายืนนิ่ง มือหนึ่งจับไหล่ของโจวเจ๋อไว้ เพื่อช่วยให้เขายืนอยู่บนดาดฟ้าเรืออย่างมั่นคง

“เถ้าแก่ เรือลำนี้กำลังจะล่มแล้ว”

“ผมรู้”

โจวเจ๋อประคองตัวกับแขนของไป๋อิงอิงพยายามฝืนลุกขึ้นมา ตอนที่สายตาของเขามองไปข้างหน้า กลับพบว่าเบื้องหน้าเหมือนจะมีพื้นดิน ไม่สิ หากจะพูดให้ถูก น่าจะเป็นเกาะแห่งหนึ่ง เป็นเกาะที่มีพื้นที่ไม่น้อย

‘ซู่’ เสียงเครื่องกลเสียดสีแสบแก้วหู เรือลำนี้ในที่สุดก็ทนรับไม่ไหวแล้ว พลิกล่มไปทั้งลำ ไป๋อิงอิงมือไวตาไว จับโจวเจ๋อแล้วกระโดดลงไปในทะเลก่อนที่เรือสำราญจะล่ม

ดังนั้นสามารถพูดได้ว่า โจวเจ๋อโชคดีมาก หลายคนก่อนที่จะจมน้ำตาย พวกเขาก็หวังว่าจะมีคนเหมือนไป๋อิงอิงอยู่ข้างกาย

ไป๋อิงอิงพยายามว่ายน้ำและพยายามให้ศีรษะของโจวเจ๋ออยู่เหนือน้ำเพื่อรับอากาศที่บริสุทธิ์ โจวเจ๋อเหมือนลูกจิงโจ้น้อยที่อยู่ในกระเป๋าหน้าท้องของแม่จิงโจ้ ได้รับการปกป้องอย่างทะนุถนอม

เขาได้แต่เงยหน้าขึ้น แล้วหายใจพร้อมกับพ่นน้ำที่กระเซ็นเข้าปากและจมูกของตัวเองออกไป พลางมอง…ท้องฟ้า

ในที่สุดไป๋อิงอิงก็ถึงฝั่ง โจวเจ๋อนอนอยู่บนหาดทราย หายใจอย่างหนักหน่วง

“เถ้าแก่ ทางนั้นยังมีคนนอนอยู่ตรงนั้น” ไป๋อิงอิงพลันยื่นมือชี้ไปบนชายหาดทางนั้นแล้วพูด

โจวเจ๋อหันตัวไป และแล้วก็มีชายหนุ่มนอนอยู่ตรงนั้นจริงๆ เขาใส่เสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่ง ถ้าหากจะพูดว่าก่อนหน้านี้ตัวเองเหมือนปลาเค็มตัวหนึ่ง เช่นนั้นคนคนนั้นก็เป็นปลาเค็มที่ถูกย่างแล้ว

“ข้าจะไปฆ่าเขา” ไป๋อิงอิงพูดไปตามนโยบายขจัดสิ่งที่อันตรายทุกอย่าง

โจวเจ๋อยื่นมือกดไป๋อิงอิงไว้ แล้วส่ายหน้าพูดในขณะเดียวกัน “คุณไม่รู้สึกเหรอ ไอ้หมอนั่นหน้าตาคุ้นๆ”

“คุ้นหน้าเหรอ” ไป๋อิงอิงพยายามมองเต็มที่ ในที่สุดดูเหมือนเธอจะนึกอะไรออก จึงเอ่ยว่า “เขากับชายชราคนนั้นมีหน้าตาคล้ายกันมาก ลูกชายของชายชราคนนั้นเหรอ อ้อไม่ บางทีอาจจะเป็นหลานชาย”

“ไม่เหมือน ไม่น่าจะใช่” โจวเจ๋อพูดปฏิเสธ

เวลานี้ในน้ำทะเล มีงูเหลือมตัวหนึ่งกำลังเลื้อยออกมา งูเหลือมตัวนี้ โจวเจ๋อรู้สึกคุ้นตาอยู่บ้าง เหมือนกับตัวที่ตัวเองฆ่าก่อนหน้านี้ แต่งูตัวนั้นตอนนี้ดูแล้วตัวเล็กมาก เกล็ดตามตัวก็ยังไม่หนาขนาดนั้น

งูค่อยๆ เลื้อยเข้ามาอยู่บนตัวของชายหนุ่มคนนั้น บนตัวของมันไม่ความหิวหรือแรงอาฆาตใดๆ และมันเหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็นโจวเจ๋อกับไป๋อิงอิงที่อยู่ข้างกายตัวเองอย่างสิ้นเชิง มันจ้องมองเพียงคนที่อยู่ด้านล่างตัวเองเท่านั้น

“เถ้าแก่ งูตัวนี้ใกล้จะเป็นปีศาจแล้ว” ไป๋อิงอิงพลันเอ่ย

“ผมพอจะมองออก”

งูเหลือมตัวนี้ให้ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของคนที่มีความฉลาด มีความคล้ายเจ้าลิงตอนที่เจอกับโจวเจ๋อครั้งแรก

งูเหลือมอ้าปาก ไม่ได้กัดชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า แต่กัดที่ตัวของตัวเอง กัดตัวเองให้มีแผลออกมา จากนั้นตัวของงูก็เลื้อยไปบนตัวของชายหนุ่มคนนั้น แล้วเอาปากแผลที่ตัวเองกัดจ่อเข้าไปในปากของชายหนุ่ม

ตอนแรกเลือดของงูเหลือมค่อยๆ ไหลเข้าปากของชายหนุ่มอย่างช้าๆ ไม่นานนัก ชายหนุ่มเหมือนจะรู้สึกตัวขึ้น เริ่มดูดกลืนเลือดของงู สีหน้าของเขาเริ่มฟื้นฟูกลับมาอย่างช้าๆ

ในที่สุดชายหนุ่มก็ปล่อยมือ พ่นลมหายใจยาวออกมา จากนั้นเขาจึงลืมตา ทันทีที่มองเห็นงูเหลือมตัวนี้ ชายหนุ่มตกใจตัวสั่นระริกไปทั้งตัว

งูเหลือมไม่ได้อยู่ต่อ มันเลื้อยจากหาดทรายกลับเข้าไปในทะเล เหลือเพียงรอยเลือดที่ติดอยู่บนพื้น

หลังจากรอให้งูเหลือมเลื้อยลงทะเลออกไปไกลแล้ว ชายหนุ่มจึงคลานขึ้นมาแล้วมองไปทางงูเหลือมเอาศีรษะโขกพื้นติดต่อกันพร้อมกับท่องอะไรอยู่ จากนั้นเขายื่นมือเก็บเกล็ดงูชิ้นหนึ่งที่เหลืออยู่บนพื้นขึ้นมา

“เขากำลังตะโกนอะไร” ไป๋อิงอิงถาม เพราะภาษาท้องถิ่นของชายหนุ่มฟังยาก ไป๋อิงอิงฟังไม่ค่อยชัดเจน

“เขากำลังขอบคุณเทพเจ้าแห่งท้องทะเลที่ช่วยชีวิตของตัวเอง” โจวเจ๋อตอบ

“เขาสมควรตาย…” งูเหลือมพูด

“ที่บ้านของฉันเลี้ยงลิงไว้ตัวหนึ่ง พวกแกน่าจะใช้ภาษาเดียวกัน แต่สภาพของแกตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานก็ต้องดับสลายแล้ว น่าเสียดายจริงๆ”

“เขาสมควรตาย…” งูเหลือมเหมือนจะพูดเป็นแค่ประโยคนี้

โจวเจ๋อจริงๆ แล้วก็นึกถึงเจ้าลิงพอดี นึกถึงตอนที่ตัวเองต่อสู้กับเจ้าลิงในโรงพยาบาล รวมทั้งผลสรุปสุดท้าย รวมไปถึงจิตสำนึกของตัวเองที่ ‘ถูกกิน’ ในตอนนั้น

ตัวเลือกที่เหมือนกัน แต่ครั้งนี้โจวเจ๋อเลือกแตกต่างออกไป เขายกมือขึ้นแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ผู้หญิงคนนั้นไม่สมควรตาย”

งูเหลือมลังเลพักหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยแล้วตกลง จากนั้นโจวเจ๋อจึงวางมือลง แล้วมองไปทางอื่น

งูเหลือมพยักหน้าให้โจวเจ๋อ แล้วถูไถบนแขนของโจวเจ๋อเพื่อส่งสัญญาณ จากนั้นมันจึงเลื้อยร่างกายที่น่าสังเวชของตัวเองขึ้นไปบนบันได

ไป๋อิงอิงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร มองโจวเจ๋อแล้วถามว่า “เถ้าแก่ งูตัวนั้นช่วยเขาไม่ใช่เหรอ ตอนแรกมันช่วยเขา ทำไมตอนนี้มันจะไปฆ่าเขาล่ะเจ้าคะ”

“ง่ายมาก หกสิบปีก่อนหน้านั้น งูตัวนี้เริ่มมีความตื่นรู้ เพื่อสร้างบุญกุศล ดังนั้นมันจึงเป็นฝ่ายเข้าไปช่วยชายหนุ่มใกล้ตายที่ถูกพัดมาเกยตื้นบนชายหาด ชายหนุ่มรอดชีวิต จากนั้นก็เจริญรุ่งเรือง หาเงินได้มากมาย กลายเป็นคนมีฐานะและร่ำรวย จากนั้นชายหนุ่มกลายเป็นชายชราที่ป่วยใกล้ตาย แต่ชายชราไม่อยากตาย เขามีเงินเยอะมาก เขายังอยากเพลิดเพลินกับชีวิตของตัวเองต่อ

สำหรับคนอื่นแล้ว นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้วถ้าอยากมีชีวิตต่อนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่ชายชราไม่เหมือนกัน ตอนที่เขายังหนุ่มเคยเจอ ‘เทพเจ้าแห่งท้องทะเล’ เขาจึงนับถืองูที่เคยช่วยชีวิตเขาว่าเป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเล

ดังนั้นชายชราจึงอยากจะใช้วิธีนี้ต่ออายุตัวเอง เขารู้สึกว่าเมื่อหกสิบปีก่อน เทพเจ้าแห่งท้องทะเลเคยช่วยชีวิตตัวเองหนึ่งครั้ง เช่นนั้นหกสิบปีให้หลัง เทพเจ้าแห่งท้องทะเลก็น่าจะช่วยตัวเองอีกครั้งหนึ่ง เขาจึงไปหาหมอไสยศาสตร์…”

เมื่อพูดถึงบาทหลวงชาวญี่ปุ่น สายตาของโจวเจ๋อยิ่งมีความอาฆาตมากขึ้น

ไอ้หมอนั่น ครั้งนี้รอให้ตัวเองฟื้นฟูกำลังกลับมาก่อน จะต้องฆ่าเขาให้ได้ ไม่ว่าเมื่อไรตอนไหนก็ต้องฆ่าเขาให้ได้!

“บาทหลวงคนนั้น มอบวิชาการบูชาเซ่นไหว้ให้กับเขา นั่นก็คือเอาชีวิตของญาติพี่น้องของตัวเองมาต่อชะตาชีวิตของตัวเอง”

“อ๋า…” ไป๋อิงอิงร้องตกใจ “ดังนั้นครอบครัวที่จมน้ำตายบนเรือสำราญเมื่อห้าปีก่อน”

“คุณก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าถูกชายชราคนนั้นจับไปเซ่นไหว้โดยเฉพาะ เขาเอาภรรยาของตัวเอง ลูกชาย ลูกสาวหลานชาย หลานสาว เหลนชาย เหลนสาว และคนอื่นๆ ไปเป็นเครื่องเซ่นไหว้เพื่อต่อชะตาชีวิตของตัวเองทั้งหมด”

“หลังจากนั้นล่ะ”

“เขาทำสำเร็จแล้ว เพราะในมือของเขามีเกล็ดอันหนึ่ง และวิธีของบาทหลวงคนนั้นใช่ว่าจะไม่มีมูลความจริงดังนั้นเขาจึงทำสำเร็จ คุณไม่เห็นเหรอ ชายชราเมื่อห้าปีก่อนนั่งบนรถเข็นจะตดออกมาตอนไหนก็ได้ แต่หลังจากนั้นห้าปีกลับเดินเองได้ กระทั่งยังสามารถใช้ชีวิตเหมือนสามีภรรยาทั่วไปได้ตลอดเวลา เขาทำสำเร็จแล้ว สำเร็จจริงๆ”

“อย่างนั้นก็หมายความว่างูเหลือมตัวนี้กับชายชราคนนั้นได้ทำสัญญาตกลงกัน” ไป๋อิงอิงถาม “อย่างนั้นทำไมงูเหลือมตัวนี้ถึงมาฆ่าเขาหลังจากห้าปีให้หลัง”

โจวเจ๋อส่ายหน้า “ตกลงสัญญาไม่สำเร็จ งูเหลือมถูกเอาเปรียบ ถูกชายชราคนนั้นเอาเปรียบหนักมาก มันเดิมทีบำเพ็ญเพียรใกล้จะถึงวาระแล้ว เดินบนเส้นทางปกติ แต่เป็นเพราะชายชราเอาเกล็ดของมันไปเซ่นไหว้ ทำให้มันถูกจับเข้ามาอยู่ในเส้นทางของเทพชั่วร้ายที่สร้างหายนะให้แก่มนุษย์ ความพยายามร้อยปีก่อนหน้านั้นเป็นอันล้มเหลว

ก็เหมือนกับการดื่มนมพิษ งูเหลือมกำลังกลิ้งไปมาอยู่ในน้ำนมนี้อย่างงุนงง กระทั่งงูเหลือมตัวนั้นตอนแรกอาจจะมีปัญหาเพราะเหตุนี้ จึงใช้เวลาห้าปีถึงสามารถแก้ไขได้บางส่วน จากนั้นจึงยอมแลกทุกอย่าง พยายามให้ตัวเองสู้อย่างไม่คิดชีวิต ไม่ว่ายังไงก็ต้องขึ้นมาบนบกเพื่อแก้แค้นชายชราให้ได้! ตอนแรกมันช่วยชีวิตเขา แต่เขากลับทำร้ายมัน”

ไป๋อิงอิงพยักหน้าเหมือนครุ่นคิดบางอย่าง “ดังนั้น จึงไม่มีเทพเจ้าแห่งท้องทะเลอย่างสิ้นเชิง”

“ผมไม่แน่ใจ”

“อย่างนั้นเถ้าแก่ปล่อยมันไปครั้งนี้เพื่อให้มันขึ้นไปแก้แค้นเหรอ” ไป๋อิงอิงถาม

ความหมายแฝงก็คือ คราวที่แล้วกับเจ้าลิง ท่านไม่ได้ทำแบบนี้

“ผมเจ็บหนักมาก สู้มันไม่ไหว ผมไม่อยากเอาชีวิตของตัวเองเข้าไปเสี่ยง” โจวเจ๋ออธิบาย

ไป๋อิงอิงบุ้ยปาก ยื่นมือชี้มาที่ตัวเอง ความหมายก็คือ งูที่ถูกท่านตีจนเกือบแย่ ข้าสามารถจัดการได้

“คุณเป็นเด็กสาว แม้แต่แมลงสาบกับหนูยังกลัว จะสู้มันได้ยังไง ใช่ไหมล่ะ”

ไป๋อิงอิงได้ยินดังนั้น จึงเข้าใจทันที นางกำหมัดทั้งสองข้างแล้วจับหน้าอกของตัวเอง แล้วพูดเสียงสั่นว่า “ฮือๆๆจริงด้วย ข้ากลัวจังเลย”

…………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล