ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 162

ตอนที่ 162 ข้ากลัวจริงๆ!

โจวเจ๋อเห็นแล้วตกใจจริงๆ การจัดอย่างหรูหราแบบนี้มันอลังการเกินไป

แม้แต่ในผลงานละคร เหล่านักพรตก็จัดของเซ่นไหว้ไม่อลังการแบบนี้ การกราบไหว้ในวัดทั่วไปมีผลไม้นิดหน่อยและหัวหมูอีกหนึ่งหัวก็ถือว่ามีฐานะไม่เลวแล้ว

แต่ที่นี่ เป็นการเซ่นไหว้ด้วยคนเป็น คนเป็นยี่สิบกว่าคน ครอบครัวนี้ถูกจับมาขังไว้ที่นี่ให้เป็นเครื่องเซ่นไหว้ เพื่อกราบไหว้เทพเจ้าแห่งท้องทะเล!

โจวเจ๋อเจอเรื่องแปลกพิสดารมาเยอะ นรกก็เคยไป ทั้งสองภพชาติ ทั้งคนและผีก็เจอมาไม่น้อย หากจะพูดตามหลักการแล้ว เรื่องที่สามารถทำให้เขาตกใจได้มีไม่เยอะเลยจริงๆ

แต่ภาพที่อยู่ตรงหน้ากลับทำให้โจวเจ๋อสติหลุดลอยไปชั่วขณะ

ควรทราบว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่คนแก่ผมขาวผิวหนังเหี่ยวย่นเท่านั้น ยังมีเด็กเล็กด้วย คนพวกนี้เดิมทีควรจะมีชีวิตเป็นของตัวเอง เดิมทีควรจะสร้างเสียงหัวเราะและความสุขให้ตัวเอง แต่ตอนนี้ทุกคนกลับถูกขังไว้ที่นี่ กระทั่งพวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเหมือนปลา ได้แต่กระแทกไปทางโน้นทีไปทางนี้ทีอยู่ในกรงตามกระแสคลื่น

ถึงแม้ว่าจะตายไปแล้ว พวกเขาก็ยังถูกขังอยู่!

คนที่จัดพิธีเซ่นไหว้และจัดวางแบบนี้ ราวกับกลัวว่าของเซ่นไหว้ที่ตัวเองจัดเตรียมอย่างประณีตจะหลุดออกไป ทำให้เทพเจ้าแห่งท้องทะเลไม่สบายใจและกินไม่อิ่ม มีความใส่ใจถึงขั้นนี้เชียว

‘อึกๆ…’ ร่างกายที่อ่อนแอ ทำให้เวลาที่กลั้นหายใจได้ค่อนข้างสั้น โจวเจ๋อยื่นมือยกข้อมือของไป๋อิงอิงที่โอบเอวของตัวเองอยู่ เพื่อบอกให้เธอพาเขาขึ้นไปหายใจ

ทว่าไป๋อิงอิงกลับไม่สนใจ เหมือนไม่มีความรู้สึก โจวเจ๋อจึงหยิกมือของนาง แต่นางยังคงนิ่งไม่ขยับเหมือนเดิม

โจวเจ๋อจับแขนของเธอ เธอยังคงไม่รู้ตัวเหมือนเดิม โจวเจ๋อหันไปแล้วจ้องเธอ เขาพบว่าไป๋อิงอิงกำลังหลับตาอยู่!ข้ามองไม่เห็น ข้ามองอะไรไม่เห็นเลย

เล็บที่นิ้วชี้ข้างขวาของโจวเจ๋องอกออกมา ไป๋อิงอิงสั่นไปทั้งตัว แล้วจึงกอดโจวเจ๋อลอยขึ้นไปข้างบน

‘ฮู้ๆ..ฮู้ๆ…ฮู้ๆ…’

หลังจากเปลี่ยนอากาศหายใจแล้ว โจวเจ๋อรู้สึกสบายตัวขึ้นมาก เขาไม่ได้ถือสาความคิดเมื่อครู่ของไป๋อิงอิง พูดตามตรงว่า “ขึ้นข้างบนเถอะ”

“ได้เลย เถ้าแก่!”

ไป๋อิงอิงก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องเมื่อครู่นี้ จากนั้นนางก็เหมือนหุ่นยนต์ทรานฟอร์เมอร์ตัวเล็ก มือขวาโอบเอวของโจวเจ๋อแล้วอุ้มโจวเจ๋อขึ้นมาเหมือนตุ๊กตาผ้า จากนั้นใช้มืออีกข้างหนึ่งจับเรือ แล้วปีนขึ้นไปได้อย่างสบายและสวยงาม

โจวเจ๋อนั่งบนเก้าอี้ก่อน พยายามปรับลมหายใจและรอให้น้ำสะเด็ดจากเสื้อผ้าของตัวเอง ไม่อย่างนั้นเสื้อผ้าจะหนักเกินไป เวลาสวมใส่จะกินแรง

“เถ้าแก่ เมื่อครู่ข้างล่างเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“คุณไม่รู้เหรอ”

“ข้าจะรู้ได้ยังไง”

“นายหญิงของคุณเมื่อก่อนก็แอบเป็นชู้กับบัณฑิตหลังจากนั้นก็ถูกจับใส่กรงหมูถ่วงน้ำไม่ใช่เหรอ”

“เอ่อ…”

“มีคนเอาคนเป็นมาเป็นเครื่องเซ่นไหว้ เพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล” โจวเจ๋อพูด

“ใช้เป็นของเซ่นไหว้บูชาเหรอ” ไป๋อิงอิงตกใจมาก ถึงแม้จะเป็นผีดิบ แต่ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้โหดเหี้ยมเกินไป และน่าสังเวชเกินไปแล้ว

“อย่างนั้นตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น พวกเราอยู่ที่นี่ และกรงเหล็กที่อยู่ข้างล่างก็มีแต่ศพทั้งนั้น ต้องการจะทำอะไรกันแน่”

“ผมเองก็ไม่แน่ใจ แต่ผมมีลางสังหรณ์ว่า เรื่องนี้ บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับชายชราและผู้หญิงคนนั้น อย่างน้อยที่สุด ชายชราคนนั้นต้องมีส่วนร่วมแน่นอน”

ทำไมชายชราต้องมีส่วนร่วมแน่นอน สุนัขจิ้งจอกคนนั้นล่ะอาจจะเป็นข้อยกเว้นอย่างนั้นเหรอ

ไป๋อิงอิงคิดแบบนี้ในใจ

และในเวลานี้ลมก็ก่อตัวขึ้น ลมพัดแรงมาก ผิวทะเลที่เงียบสงบแต่เดิมเกิดคลื่นทันที ทำให้เรือสำราญลำนี้ส่ายไปมาไม่หยุด เหมือนจะคว่ำได้ทุกเมื่อ

โจวเจ๋อนั่งบนเก้าอี้ต่อ พูดตามจริง ตอนนี้เขารู้สึกจนปัญญาเหมือนกัน ถ้าหากตอนนี้ตัวเขาเป็นผู้พิพากษา ไม่แน่เขาอาจจะมีสิทธิ์เจรจากับอีกฝ่าย แต่ตัวเขาในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่เห็นอยู่ในสายตาเลย

แน่นอนว่าปัญหาที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ เทพเจ้าแห่งท้องทะเลตามความคิดโบราณ แท้จริงแล้วดีหรือไม่ดีกันแน่

เขาได้รับของเซ่นไหว้แล้ว ได้มอบสิ่งตอบแทนตามความเหมาะสมของผู้เซ่นไหว้แล้ว หรือว่าการกระทำเช่นนี้ของผู้เซ่นไหว้ทำให้เขารู้สึกถึงความโกรธและถูกเหยียดหยาม ดังนั้นจึงมาลงโทษเขาโดยเฉพาะเหรอ

เมื่ออยู่ในระดับแบบเขา ความคิดตามประเพณีที่เกี่ยวกับความถูก ผิด ดี ชั่ว ยากที่จะยับยั้งพฤติกรรมของเขาแล้วใช่ไหม

‘ครืนนน…’ น้ำทะเลซัดสาดเข้ามา ทำให้เรือสำราญลำนี้ยิ่งโอนเอนมากขึ้น ไป๋อิงอิงสองเท้ายืนนิ่ง มือหนึ่งจับไหล่ของโจวเจ๋อไว้ เพื่อช่วยให้เขายืนอยู่บนดาดฟ้าเรืออย่างมั่นคง

“เถ้าแก่ เรือลำนี้กำลังจะล่มแล้ว”

“ผมรู้”

โจวเจ๋อประคองตัวกับแขนของไป๋อิงอิงพยายามฝืนลุกขึ้นมา ตอนที่สายตาของเขามองไปข้างหน้า กลับพบว่าเบื้องหน้าเหมือนจะมีพื้นดิน ไม่สิ หากจะพูดให้ถูก น่าจะเป็นเกาะแห่งหนึ่ง เป็นเกาะที่มีพื้นที่ไม่น้อย

‘ซู่’ เสียงเครื่องกลเสียดสีแสบแก้วหู เรือลำนี้ในที่สุดก็ทนรับไม่ไหวแล้ว พลิกล่มไปทั้งลำ ไป๋อิงอิงมือไวตาไว จับโจวเจ๋อแล้วกระโดดลงไปในทะเลก่อนที่เรือสำราญจะล่ม

ดังนั้นสามารถพูดได้ว่า โจวเจ๋อโชคดีมาก หลายคนก่อนที่จะจมน้ำตาย พวกเขาก็หวังว่าจะมีคนเหมือนไป๋อิงอิงอยู่ข้างกาย

ไป๋อิงอิงพยายามว่ายน้ำและพยายามให้ศีรษะของโจวเจ๋ออยู่เหนือน้ำเพื่อรับอากาศที่บริสุทธิ์ โจวเจ๋อเหมือนลูกจิงโจ้น้อยที่อยู่ในกระเป๋าหน้าท้องของแม่จิงโจ้ ได้รับการปกป้องอย่างทะนุถนอม

เขาได้แต่เงยหน้าขึ้น แล้วหายใจพร้อมกับพ่นน้ำที่กระเซ็นเข้าปากและจมูกของตัวเองออกไป พลางมอง…ท้องฟ้า

ในที่สุดไป๋อิงอิงก็ถึงฝั่ง โจวเจ๋อนอนอยู่บนหาดทราย หายใจอย่างหนักหน่วง

“เถ้าแก่ ทางนั้นยังมีคนนอนอยู่ตรงนั้น” ไป๋อิงอิงพลันยื่นมือชี้ไปบนชายหาดทางนั้นแล้วพูด

โจวเจ๋อหันตัวไป และแล้วก็มีชายหนุ่มนอนอยู่ตรงนั้นจริงๆ เขาใส่เสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่ง ถ้าหากจะพูดว่าก่อนหน้านี้ตัวเองเหมือนปลาเค็มตัวหนึ่ง เช่นนั้นคนคนนั้นก็เป็นปลาเค็มที่ถูกย่างแล้ว

“ข้าจะไปฆ่าเขา” ไป๋อิงอิงพูดไปตามนโยบายขจัดสิ่งที่อันตรายทุกอย่าง

โจวเจ๋อยื่นมือกดไป๋อิงอิงไว้ แล้วส่ายหน้าพูดในขณะเดียวกัน “คุณไม่รู้สึกเหรอ ไอ้หมอนั่นหน้าตาคุ้นๆ”

“คุ้นหน้าเหรอ” ไป๋อิงอิงพยายามมองเต็มที่ ในที่สุดดูเหมือนเธอจะนึกอะไรออก จึงเอ่ยว่า “เขากับชายชราคนนั้นมีหน้าตาคล้ายกันมาก ลูกชายของชายชราคนนั้นเหรอ อ้อไม่ บางทีอาจจะเป็นหลานชาย”

“ไม่เหมือน ไม่น่าจะใช่” โจวเจ๋อพูดปฏิเสธ

เวลานี้ในน้ำทะเล มีงูเหลือมตัวหนึ่งกำลังเลื้อยออกมา งูเหลือมตัวนี้ โจวเจ๋อรู้สึกคุ้นตาอยู่บ้าง เหมือนกับตัวที่ตัวเองฆ่าก่อนหน้านี้ แต่งูตัวนั้นตอนนี้ดูแล้วตัวเล็กมาก เกล็ดตามตัวก็ยังไม่หนาขนาดนั้น

งูค่อยๆ เลื้อยเข้ามาอยู่บนตัวของชายหนุ่มคนนั้น บนตัวของมันไม่ความหิวหรือแรงอาฆาตใดๆ และมันเหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็นโจวเจ๋อกับไป๋อิงอิงที่อยู่ข้างกายตัวเองอย่างสิ้นเชิง มันจ้องมองเพียงคนที่อยู่ด้านล่างตัวเองเท่านั้น

“เถ้าแก่ งูตัวนี้ใกล้จะเป็นปีศาจแล้ว” ไป๋อิงอิงพลันเอ่ย

“ผมพอจะมองออก”

งูเหลือมตัวนี้ให้ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของคนที่มีความฉลาด มีความคล้ายเจ้าลิงตอนที่เจอกับโจวเจ๋อครั้งแรก

งูเหลือมอ้าปาก ไม่ได้กัดชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า แต่กัดที่ตัวของตัวเอง กัดตัวเองให้มีแผลออกมา จากนั้นตัวของงูก็เลื้อยไปบนตัวของชายหนุ่มคนนั้น แล้วเอาปากแผลที่ตัวเองกัดจ่อเข้าไปในปากของชายหนุ่ม

ตอนแรกเลือดของงูเหลือมค่อยๆ ไหลเข้าปากของชายหนุ่มอย่างช้าๆ ไม่นานนัก ชายหนุ่มเหมือนจะรู้สึกตัวขึ้น เริ่มดูดกลืนเลือดของงู สีหน้าของเขาเริ่มฟื้นฟูกลับมาอย่างช้าๆ

ในที่สุดชายหนุ่มก็ปล่อยมือ พ่นลมหายใจยาวออกมา จากนั้นเขาจึงลืมตา ทันทีที่มองเห็นงูเหลือมตัวนี้ ชายหนุ่มตกใจตัวสั่นระริกไปทั้งตัว

งูเหลือมไม่ได้อยู่ต่อ มันเลื้อยจากหาดทรายกลับเข้าไปในทะเล เหลือเพียงรอยเลือดที่ติดอยู่บนพื้น

หลังจากรอให้งูเหลือมเลื้อยลงทะเลออกไปไกลแล้ว ชายหนุ่มจึงคลานขึ้นมาแล้วมองไปทางงูเหลือมเอาศีรษะโขกพื้นติดต่อกันพร้อมกับท่องอะไรอยู่ จากนั้นเขายื่นมือเก็บเกล็ดงูชิ้นหนึ่งที่เหลืออยู่บนพื้นขึ้นมา

“เขากำลังตะโกนอะไร” ไป๋อิงอิงถาม เพราะภาษาท้องถิ่นของชายหนุ่มฟังยาก ไป๋อิงอิงฟังไม่ค่อยชัดเจน

“เขากำลังขอบคุณเทพเจ้าแห่งท้องทะเลที่ช่วยชีวิตของตัวเอง” โจวเจ๋อตอบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล