ตอนที่ 174 เกิดเรื่องขึ้นแล้ว!
ในสถานการณ์เช่นนี้ หากเป็นคนธรรมดาคงจะตกใจและหมดสติไปทันที หรือไม่ก็จะเริ่มแหกปากร้องลั่นและตีโพยตีพาย
แต่โชคดีที่สวี่ชิงหล่างเองนับว่าเป็นผู้ฝึกเต๋าคนหนึ่ง แม้ว่าจะรู้เพียงผิวเผิน แต่ก็ไม่ถึงกับถูกสิ่งที่เรียกว่า ‘ของสกปรก’ พวกนี้ทำให้ตกใจกลัวจนอลหม่านวุ่นวายไปหมด
เขาเพียงแค่รู้สึกจนใจ คนเขาแช่น้ำพุร้อนอย่างเรียบร้อยอยู่ดีๆ ปรากฏว่าเถ้าแก่โจวที่ออกเดินทางไปตามหาพวกคุณกลับไม่เจอพวกคุณ ส่วนผมอยู่รอที่นี่อย่างเรียบร้อยไม่ได้ก่อความวุ่นวายอะไร พวกคุณดันมาหาถึงที่เสียได้
สวี่ชิงหล่างสงบสติทำอารมณ์ของเขาให้คงที่อยู่เงียบๆ เขารู้ดีว่าวิญญาณธรรมดานั้น พวกมันต้องหาช่องโหว่ในใจของคุณเพื่อโจมตีคุณ ตราบใดที่คุณไม่ตื่นตระหนกก็จะสามารถยับยั้งผลกระทบจากวิญญาณที่มีต่อตัวคุณเองได้มากทีเดียว
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้สวี่ชิงหล่างรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยคือ ดูเหมือนว่าครอบครัวนี้ไม่ได้อยากทำให้เขาลำบากใจ พวกเขาเริ่มนั่งยองๆ ลงกับพื้น ใช้สองมือคลำหาบนพื้นห้องน้ำไม่หยุด ราวกับว่ากำลังตามหาอะไรบางอย่าง
ตอนแรกยังไม่เข้าใจ แต่ไม่นานสวี่ชิงหล่างก็เข้าใจทันที พวกเขากำลังหา ‘ศีรษะ’ อยู่!
ใช่แล้ว ตอนแรกพวกเขามีศีรษะ แต่ตอนนี้ศีรษะไม่อยู่แล้ว พวกเขาถึงได้ตามหาศีรษะอย่างไรล่ะ
ตามรายงานข่าวเกี่ยวกับรายละเอียดของคดียังระบุอีกด้วยว่าตำรวจพบร่างของพวกเขาแล้ว แต่จนถึงวันนี้ยังหาศีรษะของพวกเขาทั้งครอบครัวไม่พบ
คนโบราณให้ความสำคัญกับการฝังทั้งตัวไว้ในดินเพื่อความสงบสุข แม้แต่ขันทีโบราณก็ยังขอให้ช่างตัดเสื้อเย็บสมบัติของตัวเองฝังไว้ในหลุมศพด้วยกันหลังจากเขาเสียชีวิต ยิ่งไม่ต้องพูดถึงศีรษะมนุษย์เลย
ฉวยโอกาสตอนพวกเขากำลังคลำหาอยู่บนพื้น สวี่ชิงหล่างค่อยๆ ย่องออกจากห้องน้ำกลับไปยังห้องนั่งเล่น
หลังจุดบุหรี่ ความตึงเครียดก่อนหน้านี้ได้หายไปแล้ว บางทีความไม่รู้คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด ความตึงเครียดมากมายพวกนั้นที่ก่อตัวขึ้นทั้งหมดก่อนหน้านี้ ความจริงมันเกิดจากความไม่รู้นั่นเอง ตอนนี้หลังจากที่รู้ว่าใครเป็นคนทำกลับสบายใจขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อเหลือบมองโทรศัพท์อีกครั้งก็พบว่ายังไม่มีสัญญาณตามเดิม ไม่มีทางที่จะติดต่อโจวเจ๋อได้ สวี่ชิงหล่างถอนหายใจ ขดขางอเข้ามาและเปิดทีวี
บังเอิญว่าในทีวีเป็นช่องเด็กเล็กพอดี กำลังฉายการ์ตูน ‘คู่หูหมีตัวป่วน’
สวี่ชิงหล่างมองไปด้านข้าง เขาไม่ได้กลัวจนวิ่งหนีออกจากบ้านหลังนี้ไป เขารู้ดีว่าสิ่งที่โจวเจ๋อตามหาอยู่ก็คือพวกเขา บวกกับสถานการณ์ในปัจจุบันถึงอย่างไรครอบครัวนี้ก็เป็นผู้เคราะห์ร้าย พวกเขาหมกมุ่นอยู่กับการตามหาศีรษะของตัวเองมากกว่าสิ่งใด และยังไม่มีความก้าวร้าวและขุ่นเคืองที่ร้ายแรงอะไร
หลังจาก ‘คู่หูหมีตัวป่วน’ ฉายจบแล้ว ต่อไปก็เริ่มฉาย ‘ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน’
สวี่ชิงหล่างขมวดคิ้วและเปลี่ยนช่อง ดูโคนันในเวลานี้ มักจะรู้สึกแปลกๆ พิกล
แต่ที่บังเอิญยิ่งกว่านั้นคือ หลังจากเปลี่ยนเป็นช่องสถานีท้องถิ่นแล้ว กลับกำลังออกอากาศเกี่ยวกับคดีฆ่ายกครัวที่เขาเจียงจวินในครั้งนี้ รวมไปถึงการตามหาตัวผู้ต้องสงสัยและเร่งค้นหาศีรษะผู้เสียชีวิตของทางตำรวจ
นี่มันยิ่งน่าหงุดหงิดเข้าไปอีก วิญญาณผู้เสียชีวิตสามคนทั้งครอบครัวอยู่ในบ้านหลังนี้ ยังมีการถ่ายทอดสดที่สดกว่านี้อีกไหม
สวี่ชิงหล่างอยากเปลี่ยนช่องหนีอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่าทั้งสามคนในครอบครัวนั้นคลานมาหยุดที่หน้าทีวี ราวกับกำลังดูข่าวด้วยเสียอย่างนั้น
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตัดสินใจไม่เปลี่ยนช่อง
…
เมื่อรอจนโจวเจ๋อกับนักพรตเฒ่ากลับมา สวี่ชิงหล่างนอนหลับสนิทบนโซฟาในห้องนั่งเล่นไปแล้ว
“อื้อหือ ท่าทางยั่วยวนพอตัวเลยนะ”
นักพรตเฒ่าเดินไปข้างหน้าอยากจะตบขาสวี่ชิงหล่างเรียกให้เขาตื่นสักป้าบ แต่เมื่อคิดๆ แล้วก็ช่างมันเถอะ เขากลัวว่าตัวเองจะเบี่ยงเบนเสียเอง นักพรตเฒ่าให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของตัวเองมาก รักษาภาพลักษณ์ ‘รู้ว่าลำบากแต่ยังสู้ต่อไป’ มาได้ตั้งเจ็ดสิบปี ไม่อยากจบลงด้วยการหลงทางในตอนสุดท้าย
“เฮ้ ตื่นๆ” โจวเจ๋อเรียก
แต่เรียกแล้วไร้การตอบสนอง โจวเจ๋อรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย หลับลึกขนาดนี้เลยเหรอ
ขณะที่โจวเจ๋อเดินเข้าไปใกล้สวี่ชิงหล่างสองก้าว ก็พบว่ามีหมอกสีดำจางๆ ปกคลุมระหว่างคิ้วของสวี่ชิงหล่าง นี่โดนผีสิงไปแล้วเหรอ
โจวเจ๋อขยายเล็บและใช้เล็บนิ้วชี้ของตัวเองจิ้มไปที่ระหว่างคิ้วของสวี่ชิงหล่าง ระหว่างคิ้วของสวี่ชิงหล่างถูกเจาะและมีเลือดสีดำไหลออกมาสองสามหยด จากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมกับบิดขี้เกียจไปหนึ่งที
“บ้านหลังนี้มีปัญหาอะไรใช่ไหม” โจวเจ๋อเอ่ยพลางมองไปรอบๆ
เมื่อครู่นี้เห็นได้ชัดว่าสวี่ชิงหล่างถูกวิญญาณร้ายเข้าแทรกซึมร่าง แต่ถึงอย่างไรสวี่ชิงหล่างก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เพียงเท่านี้ก็มากพอแล้วที่จะบ่งบอกว่า เมื่อครู่นี้มีบางสิ่งที่ชั่วร้ายอยู่ในบ้านหลังนี้
“ผมเห็นครอบครัวนั้นอยู่ในบ้านหลังนี้”
สวี่ชิงหล่างเอ่ยพูด
“อะไรนะ” นักพรตเฒ่าสะดุ้ง รีบวิ่งไปข้างๆ โจวเจ๋อทันที ทำท่าทีเตรียมพร้อมสำหรับการคุ้มกัน
ก่อนหน้านี้คนที่บอกว่าจะสืบคดีเพื่อเป็นการล้างแค้นให้ทั้งครอบครัวนี้ก็คือนักพรตเฒ่า คนที่หวาดกลัวในขณะนี้ก็ดันเป็นเขาเสียอีก เขาจัดเป็นคนประเภทปากอย่างใจอย่าง
“ทั้งสามคนในครอบครัวนั้นอยู่ที่นี่เหรอ” โจวเจ๋อรู้สึกงุนงงเล็กน้อย “ไม่น่าใช่นะ ก่อนหน้านี้ฉันถามแผนกต้อนรับแล้ว ทั้งสามคนในครอบครัวนั้นพักอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ไม่ใช่หลังเดียวกับพวกเรา อีกอย่างตอนนี้บ้านพักหลังนั้นหยุดให้บริการชั่วคราว บอกว่ากำลังรอให้สถานการณ์ผ่านไปสักระยะหนึ่ง แล้วจะเชิญพระกับนักพรตมาประกอบพิธีทางศาสนา”
“จริงแท้แน่นอน ทั้งสามคนในครอบครัวนั้นคลานไปคลานมาอยู่ในบ้านหลังนี้ ตามหาศีรษะน่ะ” สวี่ชิงหล่างกล่าวยืนยัน “เมื่อครู่นี้ผมหลับไปเหรอ”
“อืม” นักพรตเฒ่าตอบ
“งั้นน่าจะเป็นเพราะผมใช้เวลาอยู่กับพวกเขานานเกินไปจนถูกวิญญาณร้ายแทรกซึมร่าง” สวี่ชิงหล่างสะบัดหน้า เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขายังไม่ได้สติดี
ในทางการแพทย์แผนจีนมีคำกล่าวไว้ว่า หากพลังงานชั่วร้ายแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เป็นหวัดเป็นไข้ อาการของสวี่ชิงหล่างในตอนนี้ก็คล้ายคลึงกัน และมีแนวโน้มว่าจะเป็นหวัดรุนแรง
“แต่ว่าทั้งสามคนในครอบครัวนั้นไม่ได้ทำอะไรผม พวกเขาแค่ตามหาศีรษะของตัวเอง จะตามล่าหาตัวฆาตกรเจอหรือไม่ค่อยว่ากัน ถ้าหากไม่มีศีรษะ พวกเขาก็ลงนรกไม่ได้อยู่ดี” สวี่ชิงหล่างเดา
“แต่ปัญหาก็คือก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันเข้ามาในบ้านหลังนี้ครั้งแรกและเข้ามาในบ้านหลังนี้เป็นครั้งที่สองในตอนนี้ ฉันไม่รู้สึกแปลกอะไรเลยแม้แต่น้อย” โจวเจ๋อพูดด้วยความสงสัยเล็กน้อย “ถ้าวิญญาณของทั้งสามคนในครอบครัวนั้นวนเวียนอยู่ที่นี่จริง ไม่มีทางที่ฉันจะมองไม่เห็น อย่างน้อยๆ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทันสังเกตเห็นเลยแม้สักนิด”
ในฐานะที่เป็นยมทูต ถ้าแม้แต่บอกไม่ได้ว่ามีผีอยู่ในห้องหรือไม่ อย่างนั้นก็สมควรเกษียณแล้วจริงๆ
“แต่ผมมองเห็นพวกเขาจริงๆ” สวี่ชิงหล่างยืนยัน ทันใดนั้นเขาคิดๆ แล้วก็หัวเราะเยาะตัวเอง “หรือบางที ผมอาจจะมีพรสวรรค์ที่แม้แต่ตัวผมเองยังไม่ค้นพบละมั้ง”
“นี่มันเป็นไปไม่ได้หรอก”
นักพรตเฒ่าบุ้ยปาก คร้านจะมองคนหลงตัวเองอย่างสวี่ชิงหล่าง จึงเอ่ยขึ้นทันที “เถ้าแก่ ข้าว่าเหล่าสวี่สามารถมองเห็นในสิ่งที่เรามองไม่เห็น อันที่จริงแล้วสาเหตุมันง่ายมาก
มันจะต้องมีเรื่องอะไรที่เหล่าสวี่ทำแล้วพวกเราไม่ได้ทำแน่ๆ ดังนั้นจึงก่อให้เกิดเงื่อนไขที่ต่างกัน ทำให้มองเห็นบางอย่างต่างกันไปด้วย”
“ถ้าอย่างนั้น มีเรื่องอะไรที่เขาทำแล้วเราไม่ได้ทำ” โจวเจ๋อถาม
“ดูแลผิวเอย ทาครีมบีบีเอย มาส์กหน้า…” นักพรตเฒ่านับนิ้ว
เป็นเรื่องจริงที่เครื่องสำอางของสวี่ชิงหล่างมีมากกว่าไป๋อิงอิงพอสมควร แน่นอนว่าผีดิบสาวนั้นเป็นข้อยกเว้น ถึงอย่างไรนางก็ยังคงเยาว์วัยเสมอ อายุสิบหกปีตลอดชีวิต ไม่จำเป็นจะต้องแต่งหน้าขาวโบ๊ะอะไร
ในขณะที่พูดดูเหมือนว่านักพรตเฒ่าจะนึกอะไรบางอย่างออก
จากนั้นชี้ไปที่บ่อน้ำพุร้อนในลานนอกบ้านแล้วพูดขึ้น
“แช่น้ำพุร้อน มีเพียงเขาที่แช่ไปแล้ว พวกเรายังไม่ได้แช่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล