ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 173

ตอนที่ 173 รีสอร์ตน้ำพุร้อน!

สวี่ชิงหล่างเป็นคนขับรถ ไม่ใช่ว่าโจวเจ๋อจะต้องมาพร้อมกับสวี่ชิงหล่าง แต่เป็นเพราะว่าเขากับนักพรตเฒ่าต่างก็ไม่มีใบขับขี่

ลองนึกภาพดู ถ้าหากหลังจากเขากับนักพรตเฒ่าสองคนขับรถออกไปแล้ว ระหว่างทางดันเจอกับตำรวจจราจรเข้า แล้วโดนกักตัวไว้เพราะไม่มีใบขับขี่ ก็น่าจะบันเทิงเอามากๆ เลย

ครั้งที่แล้วนักพรตเฒ่าลองแหกกฎไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้จะต้องระวังตัวไว้เสมอ

ไป๋อิงอิงอยู่เฝ้าร้านหนังสือกับสไปเดอร์แมน โจวเจ๋อไม่ได้ให้พวกเขาตามมาด้วย

เขาเจียงจวินตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของทงเฉิง และติดกับหยางโจวที่อยู่ใกล้เคียง ขับรถไปก็ยังไกลพอสมควร ตั้งแต่ออกจากร้านหนังสือ ถ้าระหว่างทางไม่มีอะไรมาเตะถ่วงไว้ ก็จะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึงที่หมาย

พื้นที่ราบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีไม่มีภูเขา หรือถึงแม้จะมีก็เป็นแค่เขาเล็กๆ หากตั้งอยู่ในเขตมณฑลเสฉวนและทางตะวันออกเฉียงเหนือที่มีภูเขามากมาย ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง

มันก็เหมือนกับคนภาคใต้ที่ไม่เคยเห็นหิมะเลยพอได้มาเห็นก็จะตื่นเต้นมาก ดังนั้นเมื่อคุณปล่อยให้คนในพื้นที่ราบขับรถเข้าไปในเขาเป็นครั้งแรกก็จะตื่นเต้นมากเช่นกัน

เขาเจียงจวินได้รับการพัฒนาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เปิดรีสอร์ตน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ระดับไฮเอนด์หลายแห่งด้านบน นับว่าดึงดูดนักท่องเที่ยวได้บางส่วนเลยทีเดียว อีกทั้งชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงบางคนยังทำโฮมสเตย์ขนาดเล็ก แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะทำขนาดใหญ่

สวี่ชิงหล่างขับรถตรงไปยังที่พักที่มีชื่อว่า ‘เวินหย่ารีสอร์ตน้ำพุร้อน’ เขาจองห้องพักไว้ที่นี่ อันที่จริงในตอนนั้นครอบครัวที่ถูกฆ่าตายก็พักอยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่ได้เสียชีวิตข้างใน แต่เสียชีวิตอยู่ระหว่างทางลงภูเขา

แต่ถึงจะเป็นอย่างนี้ก็ตาม ผลกระทบของเหตุการณ์นี้ต่อกิจการโรงแรมแห่งนี้ก็น่ากลัวที่สุดเช่นกัน

สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ เดิมทีที่สวี่ชิงหล่างจองเป็นวิลลาขนาดเล็กพร้อมลานบ่อน้ำพุร้อนในร่มคืนละหนึ่งพันห้าร้อยหยวน แต่พนักงานต้อนรับอัปเกรดเป็นเรือนสี่ประสานคืนละห้าพันหยวนให้เขาไปเลยฟรีๆ อย่างมีน้ำใจไมตรี

และไม่ว่าจะเป็นแผนกต้อนรับหรือการต้อนรับแขก ท่าทางในการบริการก็ดีมากจนเหมือนได้เจอพ่อแม่แท้ๆ ของตัวเองอย่างไรอย่างนั้น มีไมตรีจิตกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

ต่อมา โจวเจ๋อเพิ่งรู้ว่าในตอนนี้ดูเหมือนทั้งโรงแรมจะมีพวกเขาเป็นแขกเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นในรอบนี้

หลังจากเข้าไปในห้อง สวี่ชิงหล่างขอให้พนักงานเติมน้ำลงไปในบ่อน้ำพุร้อน เขาตั้งใจจะลงไปแช่ตัวก่อน ตอนที่โจวเจ๋อเรียกเขาออกมาด้วยก่อนหน้านี้ได้ตกลงกันไว้แล้วว่า เขารับผิดชอบแค่การขับรถเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้นไม่ขอยุ่ง ก็ตอนที่โจวเจ๋อเรียกเขาออกมาเขากำลังทำทรีตเมนต์ความงามอยู่นี่นา

กลับกันกับนักพรตเฒ่าที่ใส่ใจและสืบค้นข้อมูลคดีบนอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง ส่วนโจวเจ๋อนั้นนั่งบนเก้าอี้หวายวางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะน้ำชาตรงหน้า

จะให้เถ้าแก่โจวไปตามหาเบาะแส ตามหาเส้นสนกลในทั่วทุกสารทิศเหมือนตำรวจ มันไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง อีกอย่างตำรวจก็เชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้มากกว่าเขาเสียอีก ถึงอย่างไรแต่ละอาชีพก็ต้องมีความชำนาญเฉพาะตน เถ้าแก่โจวรับผิดชอบเพียงรับสายโทรศัพท์ก็พอแล้ว

อันที่จริง โจวเจ๋อไม่ได้เต็มใจจะทำอะไรมากมาย และก็ไม่ได้อยากจะข้องเกี่ยวกับปัญหาพวกนี้เลย แต่เสียงกรีดร้องของเด็กน้อยปลายสายที่ดังลอยมานั้นช่างน่าอึดอัดจริงๆ

กอปรกับมีความเป็นไปได้สูงที่ครั้งนี้จะเป็น ‘ผีโทรเข้า’ ในเมื่อผีเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ถ้าเขาจะลงมือจัดการ ก็สามารถทำได้อย่างชอบธรรม

เพียงแต่หลังจากที่โจวเจ๋อถึงเขาเจียงจวินแล้ว สายที่โทรเข้ามาถี่ๆ ติดต่อกันหลายครั้งก่อนหน้านี้นั้นกลับเงียบกริบและเงียบสนิทมาก

สวี่ชิงหล่างลงไปในบ่อเริ่มแช่ตัวแล้ว เขายังเติมน้ำมันดอกกุหลาบให้ตัวเองอีกต่างหาก นอนอยู่ในน้ำมีน้ำกระเซ็นเป็นฟองฝอยเป็นระยะ แถมยังเหยียดต้นขาตัวเองออกมาลูบไล้เบาๆ อีก ท่านี้ช่างคล้ายกับฉากแสนงดงามในภาพยนตร์ผู้ใหญ่ของฮ่องกงในช่วงยุคสมัยแรกๆ

เร่าร้อน มันช่างเร่าร้อนจนเกินไปจริงๆ

ถ้าไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้ชายก็ไม่เป็นไร คุณยังสามารถชมเชยมันได้

แต่พอคุณรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายก็จะรู้สึกว่ามันน่าขยะแขยงมาก

“เถ้าแก่ หรือว่าเราจะลองไปดูที่เกิดเหตุก่อนดีไหม” นักพรตเฒ่าเป็นฝ่ายเอ่ยก่อน

โจวเจ๋ออยากปฏิเสธมาก แต่ถ้ายังมองแม่นางสวี่ยั่วยวนอยู่ในโรงแรมต่อไปก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องทรมานยิ่งกว่า จึงพยักหน้าทันทีทันใด หลังจากบอกสวี่ชิงหล่างแล้วก็ออกจากโรงแรมไปกับนักพรตเฒ่า

สวี่ชิงหล่างรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่ออยู่ในห้องคนเดียว โดยทั่วไปแล้ว น้ำในบ่อน้ำพุร้อนจะดีหรือไม่นั้น ต้องดูว่าแช่น้ำไปสักพักแล้วที่มือและเท้าผิวลอกเป็นขุยขาวหรือเปล่า ถ้าเป็นขุยขาวแสดงว่าน้ำก็ไม่ได้ต่างอะไรจากโรงอาบน้ำใหญ่เลย

เหล่าสวี่เพลิดเพลินไปกับการแช่ตัวคนเดียว สองแขนกางออกในท่าสบายๆ ด้านข้างมีไวน์แดงถูกๆ ที่ทางโรงแรมมอบให้วางอยู่ อย่างน้อยๆ สวี่ชิงหล่างก็สามารถปลดปล่อยอารมณ์แบบนั้นออกมาได้

‘ติ๊งต่อง…ติ๊งต่อง…’

เสียงกริ่งประตูดังขึ้น

สวี่ชิงหล่างขึ้นจากบ่ออย่างไม่เต็มใจเล็กน้อย หลังจากสวมเสื้อคลุมอาบน้ำแล้วเปิดประตู สวี่ชิงหล่างก็เห็นพนักงานคนหนึ่งยกนมสามแก้วและขนมจำนวนหนึ่งมาเสิร์ฟ

“คุณผู้ชายครับ นี่เป็นของที่ทางโรงแรมมอบให้ครับ”

“โอเค ขอบคุณครับ”

หลังจากรับของแล้ว สวี่ชิงหล่างก็ปิดประตู และนำของไปวางไว้บนโต๊ะน้ำชา จากนั้นถอดเสื้อคลุมอาบน้ำเดินลงไปในสระอีกครั้ง

แช่ตัวไปเรื่อยๆ และเมื่อตอนที่เขาใกล้จะหลับไปนั้น จู่ๆ สวี่ชิงหล่างก็ได้ยินเสียง ‘กรอบแกรบ’ คล้ายกับมีหนูกำลังแทะของอย่างไรอย่างนั้น

ตอนแรกสวี่ชิงหล่างคิดว่าเขาหูฝาดไปเอง อาจจะแช่ตัวในน้ำพุร้อนนานไป รู้สึกว่าตัวลอยเล็กน้อย แต่เสียงนี้กลับยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่อง

เมื่อหันกลับไปมองห้องนั่งเล่นในห้องตรงนั้น สวี่ชิงหล่างก็ไม่เห็นใครหรือหนูสักตัว

‘กุกกัก กุกกัก…’

เสียงนั้นยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ต้องอยู่ในห้องนั่งเล่นนี่แหละ

สวี่ชิงหล่างเม้มปาก เดินออกมาจากในบ่ออีกครั้ง และสวมเสื้อคลุมอาบน้ำใหม่อีกรอบ

แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนธรรมดา และการพักที่นี่ความจริงก็ไม่มีอะไรต้องกลัวเช่นกัน แต่ถึงอย่างไรตอนนี้โจวเจ๋อก็ไม่อยู่ ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดกับเขาก็จะลำบากอยู่บ้าง

เมื่อหัวหน้าครอบครัวไม่อยู่ ก็เหมือนกับไม่มีกระดูกสันหลัง

หลังจากตรวจดูห้องนั่งเล่นไปรอบหนึ่งแล้ว สิ่งที่ทำให้สวี่ชิงหล่างรู้สึกงงเล็กน้อยก็คือ ตอนที่เขาเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เสียงที่ดังอยู่ก่อนหน้านี้ดันเงียบหายไปอีกครั้ง

สวี่ชิงหล่างนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น จากนั้นสายตามองไปยังโต๊ะน้ำชาตรงหน้า บนโต๊ะน้ำชามีขนมและนมที่พนักงานเพิ่งจะนำมามอบให้ แต่ขนมตรงนั้นกลับหายไปชิ้นใหญ่

โดนหนูขโมยไปเหรอ

สวี่ชิงหล่างหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเงียบๆ เขารู้สึกว่ามันแปลกๆ แม้ว่าครอบครัวนั้นจะไม่ได้เสียชีวิตในโรงแรมแห่งนี้ และโรงแรมแห่งนี้ก็ยังเปิดบริการตามปกติ แต่จะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าโรงแรมแห่งนี้จะใสสะอาดจริงๆ

เพียงแต่ถ้าตัวเองโทรหาโจวเจ๋อและเรียกให้เขากลับมา ถ้าเกิดว่ามันเป็นหนูหรือสัตว์เล็กๆ ที่ขโมยของกินจริงๆ ถึงตอนนั้นจะไม่ถูกหัวเราะเยาะเหรอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล