ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 177

สรุปบท ตอนที่ 177 เกมซ่อนหา: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอน ตอนที่ 177 เกมซ่อนหา จาก ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 177 เกมซ่อนหา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 177 เกมซ่อนหา

ดังนั้นจะบอกว่าตอนที่ว่างๆ อย่าไปส่องกระจกมั่วซั่วบ่อยๆ

ความเคยชินแบบนี้มันไม่ดีจริงๆ

เพราะคุณไม่รู้หรอกว่าคนในกระจกจะเป็นภาพสะท้อนของคุณจริงๆ หรือเป็นเพียงกลไกที่ติดตามทุกการเคลื่อนไหวของคุณโดยอัตโนมัติกันแน่

หรือว่ามันแค่ทำเหมือนคุณเป็นคนโง่ ล้อคุณเล่น และเมื่อเห็นว่าคุณยังหาตัวตนของมันไม่เจอก็จะแอบหัวเราะเยาะเย้ยลับหลังอยู่เงียบๆ

หลังจากผ่านไปได้ประมาณเจ็ดถึงแปดวินาที คนในกระจกถึงได้หยุดตบหน้าของมัน

มันยืนอยู่ในกระจก ตอนแรกยังคิดจะเลียนแบบท่าทางของสวี่ชิงหล่างในตอนนี้ต่อไป

แต่พอมาคิดดูแล้ว เมื่อมองเห็นสีหน้าท่าทางของโจวเจ๋อและสวี่ชิงหล่างในตอนนี้แล้ว มันรู้ดีว่าหากตัวเองยังแสร้งทำต่อไป ก็ไม่สนุกเสียแล้ว

ก่อนหน้านี้ตัวเองทำเหมือนคนอื่นเป็นคนโง่ ตามผู้ชายคนหนึ่งมาทาผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ตบๆ หน้า รู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก แต่ถ้าตอนนี้ยังแสร้งทำต่อไป มันจะทำให้ตัวเองดูเป็นคนโง่

มันถอยออกไปอย่างเงียบๆ ร่างค่อยๆ ถอยห่างไปไกลเรื่อยๆ และเล็กลงเรื่อยๆ มันอยากออกไปจากที่นี่

โจวเจ๋อเชื่อว่า ถึงแม้โรงเรียนตำรวจจะสอนวิธีการจับกุมและไล่ล่าคนร้าย แต่ไม่ได้สอนวิธีจับคนร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในกระจกอย่างแน่นอน

แต่ตอนนี้เขามีปัญหานี้

อย่างแรกเลย เป็นไปไม่ได้ที่จะทุบกระจกแตก เดาว่าคนข้างในก็อยากให้ทำอย่างนี้ แต่จะให้ทะลุเข้าไปในกระจกอย่างนั้นเหรอ

โจวเจ๋อลองเอื้อมมือออกไป แต่มือของเขาไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ เห็นได้ชัดว่าความพยายามนี้ล้มเหลว แน่นอนว่าเดิมทีโจวเจ๋อไม่ได้หวังอะไรมาก

หากว่ามีใครสักคนสามารถทะลุเข้าไปในกระจกได้ง่ายๆ แบบนี้จริงๆ ถ้าอย่างนั้นเด็กที่ไม่ทันระวังตกหล่นหายไปในกระจกทุกปีจะต้องมากกว่าเด็กที่ลงไปว่ายน้ำแล้วจมน้ำอย่างแน่นอน

เจ้าบ้าในกระจกนั่นยิ่งหนียิ่งตัวเล็กลงเรื่อยๆ กระทั่งมันหันหน้ากลับมาด้วยความสนใจและทำท่า ‘หักคอ’ ใส่โจวเจ๋อและคนอื่นๆ ช่างอวดดีเหลือเกินจริงๆ

“สวรรค์และโลกไร้ขอบเขต ใจลึกล้ำคือธรรมะ!”

สวี่ชิงหล่างประกบสองมือ เกราะหัวใจถูกเขาตบลงไปบนพื้นผิวกระจก

ต้องบอกว่า ไม่ว่าเหล่าสวี่จะทำท่าทางประกบมือหรือท่าทางตอนดึงเกราะหัวใจออกมาต่างเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ เผยให้เห็นถึงระดับสูงของนักอภิปรัชญา แต่หลังจากที่เกราะหัวใจแนบลงไป คนในกระจกเพียงแค่เอียงหัวเหมือนกำลังยิ้มอยู่ เห็นได้ชัดว่าวิธีของเหลาสวี่ใช้ไม่ได้ผล

“นักพรตเฒ่า เป้ากางเกง!”

โจวเจ๋อตะโกนเรียก

นักพรตเฒ่ายื่นมือไปลูบเป้ากางเกงของตัวเองโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเขาหยิบยันต์ออกมาหนึ่งแผ่นจริงๆ!

ควรรู้ไว้ว่าตอนนี้นักพรตเฒ่าไม่ได้สวมชุดนักพรต แต่สวมเสื้อคลุมอาบน้ำอยู่ นี่มันหมายความว่าหลังจากนักพรตเฒ่าเปลี่ยนเสื้อผ้าไปแล้วยังเคลื่อนย้ายยันต์มาด้วย!

“เทพอยู่เบื้องสูงคำสั่งศักดิ์สิทธิ์ พระผู้เป็นเจ้าโปรดฟังคำขอข้า!”

เมื่อร่ายคาถาที่ไม่เข้าท่าแล้ว นักพรตเฒ่านำยันต์ของเขาแปะลงบนกระจกโดยตรง

ยันต์เปล่งแสงแดงวาบครู่หนึ่ง ภาพในกระจกบิดเบี้ยวไปครู่หนึ่งเช่นกัน คนข้างในดูเหมือนจะกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แต่มันก็ยังไม่ออกมา และดูเหมือนว่าเป็นเพราะถูกยันต์กระตุ้น ทำให้มันที่เดิมทีอยากจะเสแสร้งแกล้งทำอยู่ที่เดิม เริ่มเตรียมที่จะหลบหนีจริงๆ ขึ้นมาแล้ว

“ยังมีอีกไหม” โจวเจ๋อเร่งนักพรตเฒ่า

ไม่เชื่อหรอกว่าถ้าแปะมันลงไปบนกระจกบานนี้สักแปดหรือสิบแผ่น เจ้าสิ่งนั้นที่อยู่ข้างในหากไม่ถูกบีบให้ออกมามันก็คงจะแปลกน่าดู

ไม่มีของอย่างอื่นแล้ว

“ไม่มีแล้วเถ้าแก่ วันนี้เอามาด้วยแค่แผ่นเดียว”

เวลานี้ ชายในกระจกเหลือเพียงจุดดำเล็กๆ จนเกือบจะเลือนหายไปแล้ว

โจวเจ๋อหลับตา กางแขนทั้งสองข้างออก เล็บได้งอกยาวออกมาทั้งหมดแล้ว มวลหมอกสีดำเริ่มก่อตัวขึ้นกลางฝ่ามือของเขาเป็นชั้นๆ สำหรับโจวเจ๋อแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะลองได้

ในการเผชิญหน้ากับเรื่องราวที่ไร้เหตุผล ดูเหมือนว่าจะต้องลองใช้วิธีที่ไร้เหตุผลเช่นเดียวกันดู

ท่ามกลางสายตาราวกับกำลังมองคนโง่ของนักพรตเฒ่าและสวี่ชิงหล่างที่อยู่อีกด้าน โจวเจ๋อใช้สองมือจับตรงหน้าเอาไว้ แล้วเริ่มทำท่าชักเย่อขึ้นมา

อันที่จริง ตัวโจวเจ๋อเองไม่ได้จับอะไรเลย แต่กระนั้นก็ยังดึงไปข้างหลัง ราวกับว่าเขากำลังจับอะไรบางอย่างไว้จริงๆ อีกทั้งยังดึงอย่างยากลำบากด้วย

จำเป็นต้องเกินจริงขนาดนี้เลยเหรอ

จำเป็นต้องมีจินตนาการล้ำขนาดนี้เลยเหรอ

มุมปากของนักพรตเฒ่ากระตุก อยากจะบอกเถ้าแก่ว่าวิธีนี้ของเจ้ามันยิ่งไม่ได้เรื่องเข้าไปใหญ่ แต่เพียงไม่นานมุมปากของนักพรตเฒ่าก็แข็งทื่อขึ้นมา เพราะเขาเห็นชายในกระจกที่เดิมทีเหลือเพียงจุดเล็กๆ คนนั้นดันวิ่งกลับมาอย่างช้าๆ

โอ้มายก็อด!

ถูกเถ้าแก่จับกลับมาจริงๆ ด้วยสินะ!

ทันใดนั้นนักพรตเฒ่าก็รู้สึกว่าเขาช่างไม่เข้าใจโลกใบนี้เลยสักนิด แบบนี้ก็ได้เหรอ

“ช่วยผม!” โจวเจ๋อตะโกน

ช่วยเจ้าอย่างนั้นเหรอ

อันที่จริง ว่ากันไปตามแก่นแท้แล้วก็เป็นเพราะนักพรตเฒ่าและสวี่ชิงหล่างต่างก็ยังเป็นมนุษย์ มนุษย์ที่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ให้ความสำคัญกับการเกิด แก่ เจ็บ ตาย มีวิทยาศาสตร์ มีหลักการและเหตุผล มีกฎเกณฑ์ที่พูดกันได้ และด้วยเหตุนี้ บางครั้งสายตาของพวกเขายังเปิดโลกกว้างไม่เท่ากับของโจวเจ๋อเลยด้วยซ้ำ

สำหรับคนที่เคยไปนรกมาแล้วนั้น ไม่มีเรื่องอะไรที่รับไม่ได้ และไม่มีเรื่องอะไรที่เป็นไปไม่ได้

ขั้นตอนการค้นหานั้นยุ่งยากมากและก็ซับซ้อนมากเช่นกัน เพราะว่าของที่สามารถสะท้อนแสงได้ในที่นี้มีมากเกินไป ต้องตรวจสอบยืนยันไปทีละอย่าง และยังต้องเผื่อในกรณีที่อีกฝ่ายเคลื่อนย้ายตำแหน่งไปอีก แม้ว่าโจวเจ๋อจะกำหนดขอบเขตไว้ในวิลลาเล็กๆ แห่งนี้แล้ว แต่การที่จะจับสิ่งนั้นออกมาจริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เช่นกัน

นักพรตเฒ่าหาจนทั่วแล้วก็ยังหาไม่เจอ และไม่มีร่องรอยใดๆ เขารู้สึกว่าตัวเองใกล้จะบ้าเต็มทีแล้ว ทั้งสมองมีแต่กระจก ทนไม่ไหวจนตัวเองจะกลายเป็นกระจกอยู่แล้ว

สวี่ชิงหล่างหาจนทั่วแล้วก็หาไม่เจอเช่นกัน พวกเขาก็ไม่กล้าไปถามโจวเจ๋อว่ารั้งเจ้าสิ่งนั้นเอาไว้ได้จริงๆ หรือไม่ ถ้าเกิดว่าเจ้าสิ่งนั้นมันไม่อยู่ในวิลลาแต่หนีออกไปตั้งนานแล้วจะทำอย่างไร

“ใช่แล้ว น้ำพุร้อน!”

นักพรตเฒ่าวิ่งออกไปที่ริมบ่อน้ำพุร้อน น้ำในบ่อน้ำพุร้อนระบายออกไปแล้ว แต่ยังมีน้ำขังอยู่หลายแอ่ง มันก็สามารถสะท้อนแสงได้และใช้เป็นกระจกได้เช่นกัน!

นักพรตเฒ่ากระโดดลงไปก้นบ่อน้ำพุร้อน มองหาแอ่งน้ำทีละแอ่ง แต่ก็ยังหาไม่เจออยู่ดี

นักพรตเฒ่าที่เหนื่อยล้า ได้นั่งจ้ำลงไปตรงก้นบ่อน้ำพุร้อน

หาไม่เจอเลย เจ้าสิ่งนั้นสามารถทะลุกระจกได้ พระเจ้าทรงทราบดีว่ามันหนีไปที่ไหน อมิตาภพุทธ ขอเทียนจุนอำนวยพร พระผู้เป็นเจ้าทรงเมตตา โปรดสำแดงแสนยานุภาพของพวกท่านทั้งหลายให้ข้าหามันจนเจอเถิด

โจวเจ๋อที่อยู่ในห้องน้ำเริ่มต้านเอาไว้ไม่อยู่แล้ว เอาแต่ตะโกนในห้องน้ำว่าหาเจอหรือยังไม่หยุด

มันสร้างแรงกดดันให้นักพรตเฒ่ามากยิ่งขึ้นไปอีก

แม่งเอ๊ย ถ้าสามารถโทรแจ้งตำรวจแล้วให้ตำรวจช่วยหาได้ก็คงจะดี นักพรตเฒ่าคิดฟุ้งซ่านอยู่ในใจ จากนั้นเขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ล้วงโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาจากกระเป๋า

หน้าจอโทรศัพท์มือถือก็เป็นกระจกนี่นา มันก็สามารถสะท้อนแสงได้เช่นกัน!

อีกทั้งมันยังอยู่กับตัวของเขาตลอดเวลา ยิ่งง่ายต่อการไม่เป็นจุดสนใจ!

นักพรตเฒ่ารีบสัมผัสหน้าจอโทรศัพท์มือถือทันที หน้าจอสว่างขึ้นมาแล้ว เดิมทีภาพล็อกหน้าจอของนักพรตเฒ่าเป็นภาพคลาสสิกลมพัดกระโปรงมาริลิน มอนโรเบาๆ แต่ตอนนี้ใต้กระโปรงของมาริลิน มอนโรบนหน้าจอมีเงาดำๆ เพิ่มเข้ามา เหมือนกับเพิ่มโมเสกลงไปชั้นหนึ่ง อีกทั้งกำลังขยับอยู่อีกด้วย

นักพรตเฒ่าดีใจจนพ่นฟองผุดขึ้นบนจมูก

เห็นได้ชัดว่าตื่นเต้นมาก

รีบเอื้อมมือไปจับ ‘โมเสก’ นั้นเอาไว้ พลางเอ่ยพึมพำในปากอย่างตื่นเต้นดีใจ

“อมิตาภพุทธ นับว่าข้าหาเจ้าจนเจอแล้วสินะ ฮ่าๆๆ!”

…………………………………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล