ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 224

สรุปบท ตอนที่ 224 หน้ามึนงง: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

อ่านสรุป ตอนที่ 224 หน้ามึนงง จาก ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 224 หน้ามึนงง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 224 หน้ามึนงง

ฉันปลูกต้นไม้ต้นหนึ่ง ในที่สุดมันก็ออกดอกออกผล วันนี้ช่างเป็นวันที่ยอดเยี่ยมเสียจริง…

ในเวลานี้ ผลไม้ถูกเคี้ยวละเอียดและกลายเป็นควันสีเขียว แผ่ซ่านกระจายออกจากหู ตา จมูก ปากของโจวเจ๋ออย่างช้าๆ จากนั้นปกคลุมลงมาตามลำตัวอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้คอของโจวเจ๋อเกือบจะขาดแล้ว แต่เขาก็ยังกินผลไม้อยู่ เห็นได้ชัดว่าเขารู้ดีผลไม้ลูกนี้ไม่จำเป็นต้องผ่านหลอดอาหารไปย่อยโดยตรง

ส่วนรากไม้นั้นหลังจากสูญเสียผลไม้ที่เดิมทีซ่อนอยู่ในส่วนลึกที่สุดไป ก็เริ่มเหี่ยวเฉาอย่างช้าๆ มันแฝงไปด้วยความไม่ยินยอมอย่างแรงกล้า และแฝงไปด้วยความเคียดแค้นยากที่จะพรรณนาได้

มันไม่คิดไม่ฝันเลยด้วยซ้ำ ว่าจนถึงตอนท้ายที่สุดแล้ว จุดจบกลับกลายเป็นอย่างนี้ไปได้

สวรรค์ลงโทษ

แก้แค้น

ผลกรรม

สุดท้ายกลายเป็นประโยคที่ไร้สาระสิ้นดี อย่างน้อยสำหรับมันแล้วเป็นเช่นนี้จริงๆ

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้เอง

ทันใดนั้นร่างพังเละก็สั่นสะท้านขึ้นมาอีกครั้ง และพุ่งตรงไปหาโจวเจ๋อ รากไม้แก่ใช้เศษเสี้ยวแก่นแท้สุดท้ายของชีวิตแปลงเป็นเปลวไฟแห่งการแก้แค้นโหมรุนแรง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม มันต้องการให้โจวเจ๋อตาย!

เพียงแต่ว่า เมื่อตอนที่ร่างพังเละนั้นเข้าไปใกล้โจวเจ๋อ จู่ๆ มันก็หยุดนิ่ง ไม่เพียงหยุดนิ่งเท่านั้น มันยังเอื้อมมือไปประคองศีรษะของโจวเจ๋อที่ใกล้จะขาดร่วงลงมาก่อนหน้านี้ และปล่อยให้แสงสีเขียวล้อมรอบตรงนั้นเอาไว้

“ร่างนี้…เจ้าทิ้งไว้…ให้…ตัวเจ้าเองเหรอ”

น้ำเสียงของโจวเจ๋อแฝงไปด้วยการหยอกล้อ ราวกับเป็นหมากล้อมกระดานหนึ่ง เขาได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว และตอนที่คู่ต่อสู้หมดหนทางแล้ว ค่อยแสดงความคิดเห็นสักหน่อย สาแก่ใจมากทีเดียว

“เขา…เป็นคนสวน…ที่ข้าทิ้งไว้เอง”

ร่างพังเละเอื้อมมือมาก่อน จากนั้นฉีกกระชากใบหน้าอีกครึ่งหนึ่งของมันออกไป การเคลื่อนไหวทั้งหมดกระด้างกระเดื่องมาก จากนั้นเอานิ้วสอดเข้าไปในเบ้าตาของมันและจัดการดึงหญ้าข้างในออกมาอย่างแรง

แม้ว่าสิ่งที่กระชากออกมาจะเป็นต้นหญ้า แต่ความรู้สึกของฉากนี้ก็ไม่ได้น้อยไปกว่าการฉีกเลือดเนื้อของมันเองเลย

การโต้กลับเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์

แสงสีเขียวในดวงตาของโจวเจ๋อกำลังจางลงอย่างช้าๆ แต่ตรงคอของเขานั้นกลับมีเนื้องอกขึ้นมาใหม่ด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

“หืม”

น้ำเสียงแสดงถึงความสงสัยเปล่งออกมาจากตัวโจวเจ๋อ

“เจ้า…กำลังทรยศข้าเหรอ”

คล้ายกับกำลังพูดกับตัวเอง จริงๆ แล้ว ก็คุยกับตัวเองจริงๆ นั่นแหละ

“ไม่มีข้า เจ้าคงตายไป…ไม่รู้กี่ครั้ง…ไปตั้งนานแล้ว…”

น้ำเสียงเหมือนกับตอนที่เผชิญหน้ากับรากไม้ก่อนหน้านี้ทุกประการ

ทันใดนั้น แสงสีเขียวในดวงตาของโจวเจ๋อเริ่มสั่นระริกไม่หยุด บางครั้งก็ชัดเจน บางครั้งก็สับสนระคนสงสัย บางครั้งก็โกรธแค้น และบางครั้งก็ดูเหมือนลังเลมาก

“เจ้าเกิด…มาจากสติปัญญาของข้า…แต่เจ้า…ต้องรู้ว่า…เจ้าเองก็เป็นส่วนหนึ่ง…ของข้าเช่นกัน!”

‘วืด!’

ตัวของโจวเจ๋อเริ่มสั่นสะท้าน การต่อต้านที่เกิดจากภายในแบบนี้แฝงไปด้วยท่าทีที่ไม่ยอมใครง่ายๆ

วินาทีต่อมา

แสงสีเขียวในเบ้าตาของโจวเจ๋อเริ่มมลายหายไป จากนั้นร่างกายเริ่มลอยขึ้นไปอย่างเชื่องช้า

แต่ร่างพังเละนั้นกลับซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำอย่างเงียบเชียบ และค่อยๆ ดำดิ่งลงไปอย่างช้าๆ พร้อมกับรากไม้เก่าที่ผุกร่อนและเหี่ยวเฉา

เห็นได้ชัดว่าความลึกของน้ำน่าพิศวงนัก ในเวลานี้มันเหมือนกลายเป็นเหวลึกที่น่ากลัว กลืนกินทั้งสองเข้าไปพร้อมกัน และไม่รู้ว่าสุดท้ายมันจะตกลงไปที่ไหนกันแน่

โลก มีกฎเกณฑ์ของโลก สิ่งใดที่ไม่ใช่ของโลกล้วนแล้วแต่ถูกยับยั้งและลบล้างไป คนธรรมดามีเส้นทางชีวิตของตัวเอง ใครก็ตามที่บังอาจแตะต้องสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง ก็จำเป็นต้องได้รับการลงทัณฑ์เช่นกัน

เมื่อแปดสิบปีก่อน

ชาวญี่ปุ่นที่แทบจะเสียสติไปแล้วได้พบร่างพังเละนี้ และส่งมันมาที่นี่ พยายามจะเพิ่มพลังที่เหนือขีดจำกัดความคิดของมนุษย์ ผลสุดท้ายซากศพกลับคลุ้มคลั่ง จนเปลี่ยนสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นนรกบนดิน

ท่ามกลางความมืดมิด

ราวกับมีมือข้างหนึ่ง กำลังปรับเปลี่ยนและแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่างในความมืด

มันให้ความสำคัญกับสิ่งหนึ่งและแยกความแตกต่างอย่างชัดเจน

‘บุ๋ง…บุ๋ง…บุ๋ง…’

น้ำ น้ำอีกแล้ว เป็นเจ้าน้ำนี่อีกแล้ว

ตอนนี้โจวเจ๋อเกลียดน้ำเอามากๆ เกลียดเข้าไส้ เขาเบื่อเสียงของเหลวที่อื้ออึงอยู่ในแก้วหูของเขา และเกลียดความรู้สึกหายใจไม่ออกตอนที่ปอดของเขาถูกบีบอัดเต็มทีแล้ว

เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ

เขามองเห็นตัวเองนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ ไป๋อิงอิงสวมชุดว่ายน้ำกำลังอาบน้ำขัดเนื้อขัดตัวให้เขาอยู่

อีกอย่าง

ไป๋อิงอิงหันหลังให้กับเขา กำลังช่วยเช็ดเขาด้วยผ้าและนวดตรงต้นขาให้เขาในน้ำร้อน

ใครที่มีความรู้ทางการแพทย์เล็กน้อยจะรู้ดีว่า ถ้าคนคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานานจะเกิดแผลกดทับได้ง่ายมาก กระทั่งสามารถนำไปสู่โรคอื่นๆ ตามร่างกายได้

มีลูกกตัญญูนอนเฝ้าหน้าเตียงผู้ป่วยเรื้อรังหรือไม่นั้น สามารถดูได้จากบนตัวผู้ป่วยว่ามีแผลกดทับหรือไม่

ในขณะที่โจวเจ๋อกำลังจะขยับนั้น จู่ๆ ความรู้สึกเจ็บแปลบชัดเจนและรุนแรงมากก็ส่งมาจากทั่วร่างกาย ความรู้สึกเจ็บแปลบแบบนี้ไม่ได้มาจากเนื้อหนัง แต่มาจากเส้นประสาท

‘พรืด…’

เมื่อร่างกายสั่นสะท้าน โจวเจ๋อก็ลื่นลงไปในอ่างอาบน้ำทันที พาไป๋อิงอิงที่กำลังเขย่งเท้าขึ้นเช็ดตัวให้โจวเจ๋อล้มลงมาด้วย

ถังซือพยักหน้า โจวเจ๋อถูกย้ายจากตรงริมหน้าต่างไปที่เตียง

“คุณฟื้นแล้ว ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม” ถังซือถาม “คุณสลบไปยี่สิบวันเต็ม นานพอตัวจริงๆ”

“ทำไมคุณยังไม่กลับเซี่ยงไฮ้ไปอีกล่ะ” โจวเจ๋อเอ่ยถาม

เรื่องราวได้รับการจัดการแล้ว ทำไมคุณยังอยู่ที่นี่อีก

คุณอยู่ที่นี่แล้ว ก็ช่างเถอะ ผมรู้ว่าคุณจะไม่ช่วยต้อนรับแขกและไม่ก็ช่วยหาเงินด้วย และเป็นเรื่องดีแค่ไหนแล้วที่คุณไม่เอาปากกาแทงลูกค้าตาย แต่คุณอยู่ที่นี่แล้วไม่พอ ยังดื่มกาแฟขี้แมวของผมอีกน่ะเหรอ

ถังซือไม่ได้ตอบคำถามนี้ นิสัยของเธอก็เป็นอย่างนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะโจวเจ๋อช่วยชีวิตเธอเอาไว้ที่ศูนย์วิจัยในคืนนั้น เธอรู้สึกว่าเธอควรจะอยู่ที่นี่รอให้โจวเจ๋อฟื้นขึ้นมา ไม่อย่างนั้นก็จะรู้สึกแย่เล็กน้อย แต่ถ้าจะให้เธอพูดออกมาน่ะ ยาก

“หรือจะให้ฉันไปเรียกไป๋อิงอิงล่ะ” ถังซือถาม

“ยังไม่ต้อง ผมมีเรื่องอยากถามคุณนิดหน่อยน่ะ” โจวเจ๋อพูด

“เรื่องอะไร”

“ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในตัวผม”

“เห็นแล้วละ เหมือนกับแปลงร่างเป็นอุลตร้าแมนอย่างไรอย่างนั้นเลย” ถังซือจิบกาแฟอีกครั้ง

“คืนนั้น คุณตกลงไปแล้วคุณก็ลอยขึ้นมา จากนั้นเรื่องราวก็ถูกแก้ไขเรียบร้อยแล้ว”

ในใจของโจวเจ๋อเหมือนมีเลือดหยด

“เป็นอะไรไป คนธรรมดาทั่วไปเขาอิจฉากันจะตายไป ผนึกเก้าหางของนารูโตะ การแปลงร่างของอุลตร้าแมน ใครบ้างไม่อยากให้มีพลังที่ยิ่งใหญ่ผนึกเอาไว้ในร่างกาย”

ถังซือพูดพลางเกี่ยวนิ้วก้อยเล่น “ท่าทีของคุณที่มีต่อฉันเปลี่ยนไป ไม่ได้เป็นเพราะว่าคุณอาศัยความแข็งแกร่งของพลังนั้นหรือไง”

“ประเด็นสำคัญก็คือ มันกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง”

โจวเจ๋อเอ่ยขึ้นอย่างจริงจังมาก

“ตอนแรก ผมสามารถสัมผัสมันได้ มันไม่มีจิตสำนึก เป็นสิ่งที่ไม่มีสติสัมปชัญญะ ไม่สำคัญอะไรใช่ไหมล่ะ ผมอยากจะใช้เมื่อไรก็เอามาใช้ได้เลย ผลข้างเคียงไม่มีอะไรมากไปกว่าการนอนซมเป็นเวลาครึ่งเดือน

แต่ตอนนี้ จำนวนครั้งที่ใช้เพิ่มมากขึ้น ผมพบว่ามันเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ผมรับรู้ถึงจิตสำนึกของมันอย่างชัดเจน จนกระทั่งรู้สึกได้ว่าจิตสำนึกและความคิดของมันพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อผมกระตุ้นให้มันตื่นครั้งแล้วครั้งเล่า มันก็กำลังซ่อมแซมตัวมันเองเช่นกัน

คล้ายกับมนุษย์ มันต้องการการรักษาอย่างต่อเนื่อง และฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง

ทุกครั้งในตอนที่ผมใช้มันรับมือเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย ในขณะที่มันช่วยผมจัดการปัญหาเหล่านั้นก็ได้รับอาหารเสริมบำรุงตัวมันเองในเวลาเดียวกันด้วย ศัตรูและคู่ต่อสู้ส่วนใหญ่ของผมล้วนกลายเป็นเสบียงของมัน”

เมื่อถังซือได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เริ่มเคร่งขรึมขึ้นมา ขณะเดียวกันก็เอ่ยขึ้น

“ดังนั้น คุณก็เลยกังวลอย่างนั้นเหรอ”

“ใช่ ผมกังวล กระทั่งเริ่มรู้สึกกลัว เพราะมันเป็นไปได้ว่า เมื่อผมปล่อยให้มันฟื้นขึ้นมาในครั้งต่อไปนั้น จะเป็นตอนที่มันเข้ามาแทนที่ตัวผมอย่างสมบูรณ์”

……………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล