ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 225

ตอนที่ 225 หยุดโวยวาย

โจวเจ๋อฟื้นแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้สร้างผลกระทบในร้านหนังสือแห่งนี้มากนัก

สวี่ชิงหล่างยังคงมาส์กหน้าและนวดหน้าให้ตัวเองอยู่

นักพรตเฒ่ายังคงถ่ายทอดสด และเจ้าลิงก็ช่วยเขาถ่ายทำ

เดดพูลยังคงนั่งอยู่ที่มุมร้านหนังสือ เว้นเสียแต่ร้านจะสกปรก ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ลุกไปไหนเลย

แม้แต่ไป๋อิงอิงก็ยังเล่นเกมพับจีอยู่ในห้องของนาง รอจนกว่าจะเล่นจบตาถึงได้ถอดหูฟังออกและเข้ามาในห้องนอนเดี่ยวของโจวเจ๋อ

เถ้าแก่ฟื้นแล้ว ทำอย่างไรได้ล่ะ แต่ไม่เป็นไรถึงอย่างไรเถ้าแก่ก็หลับแบบนี้บ่อยๆ

คุณจะตำหนิพนักงานของร้านที่เย็นชาจนเกินไปไม่ได้นะ หากเป็นคุณที่อยู่ในบริษัทที่เถ้าแก่มักจะหายไปเป็นเวลาครึ่งเดือนหรือไม่ตื่นขึ้นมานานหนึ่งเดือน คุณก็จะกลายเป็นคนหละหลวมไร้ระเบียบและ…เหลวแหลกเหมือนพวกเขา

ภายใต้ความช่วยเหลือของไป๋อิงอิง โจวเจ๋ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วมานั่งตรงตำแหน่งที่คุ้นเคยริมหน้าต่างชั้นล่าง

แสงแดดสดใส น่าพอใจเป็นที่สุด แต่โจวเจ๋อดูเหมือนจะรู้สึกตัวแล้วว่าก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจะ ‘ฟื้น’ ขึ้นมาได้ไม่นาน

สถานการณ์ที่สลบกะทันหันเป็นเวลาครึ่งเดือนแบบนี้อีกหน่อยต้องเบาลงหน่อยแล้ว ไม่อย่างนั้นคนอื่นๆ ใช้ชีวิตไปแล้วหนึ่งเดือน แต่ตัวเองเพิ่งจะใช้ชีวิตไปแค่สองวัน เห็นได้ชัดว่าอายุขัยเท่ากัน แต่เขามักจะรู้สึกว่าใช้ชีวิตอย่างเสียเปรียบมหันต์

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ โจวเจ๋อชักจะไม่กล้าปลุกให้จิตสำนึกนั้นฟื้นขึ้นมาอีก

ขณะอิงแอบความอบอุ่นของแสงแดด โจวเจ๋อขบคิดเรื่องนี้

เงื่อนไขข้อแรกที่จะทำให้เขาไม่ต้องปล่อยให้จิตสำนึกนั้นฟื้นขึ้นมาก็คือ เขาจะต้องไม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกและอันตรายมาก ต้องไม่เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เกินกว่าความสามารถในการจัดการแก้ไขของเขาในตอนนี้

ไม่ปล่อยให้ตัวเองตกไปอยู่ในสถานการณ์ที่หมดปัญญาต่อสู้ คอยเตือนสติตัวเองให้รู้เท่าทันพอที่จะหลีกเลี่ยงอันตรายและความยุ่งยาก

และเงื่อนไขที่จะทำให้เขาไม่ปล่อยให้ตัวเองสร้างปัญหามากเกินไปก็คือ เขาต้องใจเย็นมากพอ รู้จักหลีกเลี่ยงปัญหา ไม่ปล่อยให้ปัญหาย้อนกลับมาหาเขา

ดังนั้นก็ต้องเป็นคนไม่เอาไหนน่ะสิ

ความไม่เอาไหนนี่แหละถึงจะเป็นราชา

ต้องเป็นคนไม่เอาไหนด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อไป

ไม่มอง ไม่ฟัง ไม่ออกนอกบ้าน

อาบแสงแดดและดื่มกาแฟอย่างสบายใจเฉิบในทุกวัน ไม่สร้างเรื่องและไม่ปล่อยให้เรื่องมาวุ่นวายกับตัวเองเด็ดขาด

ก่อนหน้านี้เถ้าแก่โจวเพียงแค่รู้สึกว่าการไม่เอาไหนนั้นสบายมาก และเป็นการเลือกของตัวเขาเอง

แต่ตอนนี้การเป็นคนไม่เอาไหนกลายเป็นเกณฑ์ในการเอาชีวิตรอดไปแล้วจริงๆ

แต่ทว่า ตอนที่โจวเจ๋อเพิ่งฟื้นและไป๋อิงอิงกำลังช่วยชงกาแฟให้โจวเจ๋อนั้น เรื่องราวได้วิ่งเข้ามาหาเขาแล้ว

คนที่เข้าประตูมาคือจางเยี่ยนเฟิง

ตอนที่อาบน้ำได้ยินไป๋อิงอิงบอกว่า เขามาที่นี่ทุกๆ สองวันในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขาเอาแต่อ้างว่าเถ้าแก่ออกไปทำธุระต่างเมือง

ครั้งนี้ จางเยี่ยนเฟิงเพิ่งเข้าประตูมาก็เห็นโจวเจ๋อทันที จากนั้นก็รีบเดินเข้ามา

โจวเจ๋อก้มหน้า นอนตะแคงบนโซฟาและหลับตาลง ไม่อยากเจอเขาน่ะสิ

“เห็นข่าวหรือยัง การขุดค้นที่นั่นสิ้นสุดลงแล้ว และการก่อการกระทำที่ผิดกฎหมายของชาวญี่ปุ่นในจีนถูกเปิดโปง ก่อให้เกิดความโกลาหลไปทั่วประเทศ” ขณะที่พูดไปเรื่อยๆ สีหน้าของจางเยี่ยนเฟิงกระอักกระอ่วนเล็กน้อย “เพียงแต่ชาวญี่ปุ่นที่เสียชีวิตอย่างอนาถในซากปรักหักพังของศูนย์วิจัย ทำให้การประชาสัมพันธ์ที่ถูกต้องตามหลักนี้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเล็กน้อย”

“มีซากกระดูกของญาติคุณบ้างไหม”

“มันหายากแล้วละ การตรวจดีเอ็นเอทีละคนคงจะเป็นงานที่หนักจนเกินไป และมีค่าใช้จ่ายสูงด้วย แถมตรงนั้นยังมีเตาเผาอยู่อีกต่างหาก บางทีญาติของผมอาจจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปนานแล้วก็ได้”

“คุณคิดได้อย่างนั้นก็ดีแล้ว”

“ในวันที่งานขุดค้นเสร็จสิ้น เมื่อผมฝันในตอนกลางคืนก็พบว่าโซ่ตรวนบนข้อเท้าหายไปแล้ว เหมือนกับว่าได้คลายปมในใจ” จางเยี่ยนเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม

“ยินดีด้วยนะ”

“อ้อ ใช่สิ ช่วงนี้คุณไปที่ไหนมาเหรอ ผมมาหาคุณตั้งหลายครั้ง พนักงานของคุณเอาแต่บอกว่าคุณไม่อยู่”

“ไปหากู้ยืมเงินน่ะ คุณน่าจะรู้ว่าการเปิดร้านหนังสือที่ถนนหนานต้านั้นไม่ดีเลยจริงๆ ผมก็ดันรู้สึกผูกพันกับร้านหนังสือแห่งนี้เสียด้วยสิ ดังนั้นจึงต้องการกู้ยืมเงินเพื่อรักษาไว้และหมุนเวียนให้ร้านแห่งนี้อยู่ได้น่ะ เฮ้อ แต่ก็กู้ยืมมาได้ไม่เท่าไรหรอก”

“เอ่อ…” จางเยี่ยนเฟิงลูบหลังมือของตัวเองด้วยความลำบากใจเล็กน้อยและพูดขึ้น “น่าเสียดาย ผมไม่ได้รวยมีเงินถุงเงินถังอะไร ไม่อย่างนั้นจะต้องให้คุณยืมอย่างแน่นอน”

ในเวลานี้เอง ไป๋อิงอิงยกกาแฟของโจวเจ๋อมาเสิร์ฟลงบนโต๊ะ

จางเยี่ยนเฟิงนึกว่าเป็นกาแฟที่เตรียมไว้ให้เขา หลังจากเอ่ย ‘ขอบคุณ’ แล้ว ก็ยกมันขึ้นมาดื่มเอง

มุมปากโจวเจ๋อกระตุก เลือดไหลหยดในใจ

“ผมจะออกไปยืมเงินแล้ว รอช้าไม่ได้ และก็รับรองคุณไม่ได้ด้วย”

โจวเจ๋อเอ่ยไล่แขกออกไปทันที

“เอ่อ ที่ผมมาหาคุณเพราะมีเรื่องน่ะ”

ผมรู้ว่าคุณมีเรื่อง ถึงได้ไล่คุณกลับไปน่ะ!

โจวเจ๋อยกมือทั้งสองข้างกุมขมับและพูดขึ้นด้วยความเจ็บปวด

“ปวดหัว ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว เงิน กู้ยืมเงินไม่ได้ ทุกข์จัง เศร้าจัง ยากลำบากจังเลย…”

“เรื่องเงินน่ะอย่าเพิ่งรีบเลย”

“…” โจวเจ๋อ

โจวเจ๋ออยากจะชี้จมูกอีกฝ่ายแล้วดุด่ามาก เรื่องเงินไม่รีบร้อนอย่างนั้นเหรอ

ผมเชื่อว่าคุณเป็นตำรวจที่ดีและเสียสละเพื่อประชาชน แต่คุณพูดแบบนี้ มโนธรรมของคุณยังไหวเหรอ

“ตอนแรกที่ผมมาหาคุณก็เพื่อเรื่องการขุดค้น หลังจากนั้นก็เป็นเพราะว่าผมนึกถึงคดีในมือที่ค้างคามานานและไม่มีความคืบหน้า ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกผมว่า ถ้าผมเจอคดีที่น่าสงสัยก็ให้ลองมาหาคุณดู ผมก็…”

“ผมเคยพูดอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ” โจวเจ๋อรีบถามขึ้น

“คุณเคยบอกที่สวนสาธารณะในวันนั้น”

“นั่นไม่เป็นความจริงหรอก อีกอย่างตอนนั้นผมเพิ่งจะถูกคุณจับไปไว้ที่ห้องขัง ผมกลัวอำนาจทางการของคุณ ก็เลยพูดไปเรื่อยเปื่อยน่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล