ตอนที่ 236 ช่วยเกมด้วย!
เช้าวันนี้เถ้าแกโจวนั่งอยู่ที่เดิมเหมือนปกติ พร้อมด้วยแสงแดด หนังสือพิมพ์ และกาแฟ เอนตัวนอนสบายๆ ใช้ชีวิตแบบปลาเค็ม หนึ่งวันของเถ้าแก่โจวได้เริ่มต้นแล้ว
ถึงแม้เมื่อวานจะเกิดเรื่องราวมากมายแค่ไหน โจวเจ๋อหลังจากตื่นขึ้นมาก็ลืมไปหมด เพลิดเพลินเจริญใจกับความมีชีวิตชีวาและความแจ่มใสยามเช้าของตัวเอง
ไป๋อิงอิงนั่งอยู่ข้างๆ เหม่อมองเศษกระจกที่แตกเป็นกองเล็กกองน้อยนั่นด้วยสีหน้าเศร้าเล็กน้อย
นักพรตเฒ่าเดินผ่านมาจากด้านข้าง กวาดตามองหนึ่งทีแล้วพูดว่า “นี่คือกระจกที่แตกเพราะความหล่อของเถ้าแก่เมื่อวานใช่ไหม” ขณะที่พูด นักพรตเฒ่าจงใจเน้นเสียงสูงเพราะกลัวว่าเถ้าแก่จะไม่ได้ยิน
ไป๋อิงอิงเงยหน้า เบ้ปาก นางกลั้นอยู่นานแต่ก็ยังหัวเราะพรืดออกมา จริงๆ แล้วนางยังเสียใจและเศร้าใจกับเรื่องกระจกแตกเมื่อวานอยู่ นางรู้ว่าเถ้าแก่ของตัวเองยากจน ไม่มีของดีอะไร กว่าจะได้ของดีๆ มาสักชิ้นไม่ง่ายเลย แต่เล่นไม่ทันไรกลับถูกตัวเองทำแตกเสียแล้วแล้ว
นักพรตเฒ่าถอนหายใจ ก่อนจะกระซิบพูดเบาๆ “จริงๆ แล้วกระจกบานนี้ร้องไห้เพราะความขี้เหร่ของเถ้าแก่ เจ้าดูรอยแตกนี่สิ เหมือนน้ำตาไหม”
‘พรึ่บ…’ โจวเจ๋อปิดหนังสือพิมพ์ในมือ นักพรตเฒ่าตื่นตกใจ “ในหนังสือพิมพ์บอกว่า เมืองทงเฉิงกำลังอยู่ในช่วงแข่งขันเมืองอารยธรรม”
“หืม” นักพรตเฒ่าไม่ค่อยเข้าใจ แต่เขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง
“นักพรตเฒ่า”
“ว่าไง ข้าอยู่นี่”
“ออกไปช่วยสักแรงเถอะ เก็บกวาดถนนหน้าประตูร้านหน่อย”
“…” นักพรตเฒ่า
นักพรตเฒ่าเดินคอตกแบกไม้กวาดกับไม้ถูพื้นออกไป โจวเจ๋อก็ลุกขึ้นเดินตามออกไปเหมือนกัน
เขาจุดบุหรี่หนึ่งมวน ก่อนจะบิดขี้เกียจ ในตอนนี้เองตรงถนนฝั่งตรงข้ามมีคนมารวมตัวกันกลุ่มหนึ่ง มีผู้หญิงเป็นคนนำทีมตะโกนเสียงดังมากปากจัดสุดๆ
ตอนเช้าตรู่ บนถนนหนานต้าเดิมทีมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามามากมายอยู่แล้ว เวลานี้มีชาวมุงเข้ามารวมกันไม่น้อย
ฝั่งตรงข้ามน่าจะเป็นร้านอินเทอร์เน็ตห่งหนึ่ง เพิ่งจะเปิดไม่นาน เถ้าแก่โจวคีบบุหรี่เดินเข้าไปอย่างช้าๆ มองจากเงาหลังแล้ว เขาเหมือนไอ้หนุ่มขี้เกียจสันหลังยาวที่วันๆ ไม่ทำอะไรแต่ชอบเดินไปบ้านคนโน้นคนนี้เป็นประจำ
“ลูกชายของฉันคะแนนสอบกลางภาคไม่ดี คุณครูก็เรียกผู้ปกครองไปพบ บอกว่าเขาไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไร ฉันก็กลุ้ม ที่ไหนได้ วันนี้จับได้แล้ว! บอกกับฉันว่าจะไปฝึกอ่านหนังสือตอนเช้าที่โรงเรียน ที่แท้กลับวิ่งมาเล่นเกมที่ร้านอินเทอร์เน็ต! ให้ตายเถอะ ใครเป็นคนคิดเกมนี้ขึ้นมา! ทำไมประเทศไม่จับคนที่คิดเกมกับร้านอินเทอร์เน็ตเข้าคุกไปให้หมด นี่ไม่ใช่จงใจทำลายลูกของฉันหรอกเหรอ! เด็กจะไปเข้าใจอะไร เขามีเกมให้เล่น เขาก็รู้สึกว่าสนุก ของพวกนี้เหมือนยาเสพติดซึ่งเด็กไม่รู้เลยด้วยซ้ำ!” ผู้หญิงวัยกลางคนตะคอกปาวๆ
มีชายหนุ่มคนหนึ่งใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ชายหนุ่มใส่แว่นตากรอบสีดำ ดูสุภาพเรียบร้อยเป็นอย่างมาก ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นพูด เขายืนตรงข้ามผู้หญิงพลางยิ้มเล็กน้อย ไม่ตอบโต้และไม่ตะโกน ด้านข้างพวกเขาทั้งสองคน มีเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปลายผมยุ่งเหยิงคนหนึ่ง กำลังก้มหน้าแก้มแดงมาก เห็นได้ชัดว่าแม่ของตัวเองร้องตะโกนโหวกเหวกต่อหน้าคนมากมายทำให้เขารู้สึกอับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก
ผู้หญิงคนนั้นเหนื่อยแล้วจึงหยุดพูดในที่สุด ถือว่าพักยก สุดท้ายผู้ชายที่ดูสุภาพเรียบร้อยคนนั้นจึงมีโอกาสพูดแทรก เขาพูดด้วยความสุภาพอ่อนโยนว่า “คุณผู้หญิงครับ ถ้าหากคุณอยากอบรมสั่งสอนลูกชายของคุณ สามารถพาเขากลับไปที่บ้านหรือไม่ก็พากลับไปที่โรงเรียนแล้วค่อยๆ อบรมพร้อมกับคุณครูก็ได้ พวกเราเป็นร้านอินเทอร์เน็ต เป็นสถานที่ทำกิจการ คุณมาเอะอะโวยวายในร้านมีผลกระทบต่อธุรกิจของพวกเราครับ”
“ถุย! คุณยังกล้าพูดว่ากิจการ! เถ้าแก่ร้านอินเทอร์เน็ตอย่างพวกคุณ ไม่มีคนดีสักคน มีแต่พวกหลอกกินเงินของเด็ก ทุกคนช่วยกันตัดสินหน่อย ฉันเพิ่งจะเข้าไปดู มีแต่คนมาเล่นเกมทั้งนั้น แต่ละคนจ้องหน้าจอตาไม่กะพริบ มีหลายคนหน้ามันเยิ้ม มองทีเดียวก็รู้ว่าเล่นทั้งคืน ไม่ไปทำงาน และไม่ไปเรียน คิดจะเล่นเกมท่าเดียว! ถ้าหากพ่อแม่ของพวกเขามาเห็นพวกเขาในสภาพนี้ จะเสียใจแค่ไหน!”
“คุณผู้หญิงครับ ลูกชายของคุณโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขามาเล่นอินเทอร์เน็ต พวกเราห้ามไม่ได้…”
“เป็นผู้ใหญ่บ้าบออะไร ลูกชายของฉันเป็นนักเรียน ปีหน้าจะสอบเอ็นทรานซ์แล้ว! ฉันก็คิดอยู่ว่าทำไมลูกชายของฉันเกรดตก ที่แท้ก็มาเล่นเกมนี่เอง เป็นเพราะร้านอินเทอร์เน็ตทำให้เสียคน! รัฐบาลน่าจะสั่งปิดบริษัทเกมทั้งหมด เพราะทำให้เด็กเสียคน ทำให้ผู้ปกครองอย่างพวกเราต้องกังวล!” ผู้หญิงยังคงพูดปาวๆ ไม่หยุด
ชายหนุ่มที่ดูสุภาพเรียบร้อยขยับกรอบแว่นของตัวเอง ก่อนจะส่ายหน้า แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมจะกดเบอร์โทรออก
“คุณหมายความว่ายังไง ฉันกำลังพูดเหตุผลกับคุณอยู่นะ! คุณโทรไปเรียกพรรคพวกใช่ไหม คุณคิดจะทำตัวเป็นมาเฟียกับฉันเหรอ เอาเปรียบลูกของฉัน ทำให้ลูกของฉันบ้าเกมผลการเรียนตกต่ำแล้วยังจะเรียกคนมาตีฉันอีก ฉันจะบอกคุณนะ ฉันไม่ได้ตกใจ ฉันเองก็เป็นคนท้องถิ่น ฉันจะดูว่าคุณกล้าเรียกคนอื่นมาจัดการฉันหรือเปล่า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล