ตอนที่ 239 น้ำตื้นคนเลวเยอะ
โจวเจ๋อกลับมาที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ รินน้ำให้ตัวเองหนึ่งแก้ว เพิ่งจะดื่มได้สองคำ นักพรตเฒ่าก็เข้ามาแล้ว
“แปะแล้วเหรอ”
“แปะแล้ว เถ้าแก่”
นักพรตเฒ่าเกาศีรษะแกรกๆ แล้วถามว่า “เถ้าแก่ ทำไมหลังรถของพวกเขามีพวงหรีดเยอะขนาดนั้น” และนั่นไม่ใช่พวงหรีดจริง ถ้าหากไม่ถูน้ำตาวัวคงมองไม่เห็นด้วยซ้ำ
คนจีนต่างรู้ดี พวงหรีดมีไว้ใช้สำหรับคนตาย สำหรับคนเป็นคือสิ่งที่เป็นอัปมงคลมาก ด้านหลังรถจู่ๆ มีของพวกนี้มากมาย ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้จะพูดว่าหนุ่มเทศกิจสองคนเกือบจะทำให้ตัวเองซวยโดนเถ้าแก่เล่นงานแล้ว แต่พวกเขาช่วยเพราะความหวังดี นักพรตเฒ่าจึงยอมให้ยันต์กระดาษที่ซ่อนอยู่ในเป้ากางเกงด้วยความสมัครใจ
“ถูกคนด่าลับหลังบ่อยๆ จึงเยอะเป็นธรรมดา” โจวเจ๋อหัวเราะ ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร เขาอยากจะให้ไป๋อิงอิงชงน้ำชาให้ตัวเอง แต่เพิ่งนึกได้ว่าไป๋อิงอิงกำลังเล่นเกมสงครามเลือดสาดอยู่ในร้านอินเทอร์เน็ต
“ช่วยชงน้ำชาให้ผมหน่อย”
“อ้อ ได้เลย” นักพรตเฒ่าก็คล่องแคล่วมาก ตอนที่ชงน้ำชาก็ดูชำนาญ จริงๆ แล้วเขารู้เรื่องหลายอย่างและชอบเรียนรู้ ก่อนหน้านั้นโจวเจ๋อเคยเห็นนักพรตเฒ่าทำค็อกเทลให้ลูกค้าตอนที่สวี่ชิงหล่างไม่อยู่
“เถ้าแก่ ที่บอกว่าถูกคนด่าเยอะคืออะไร”
“หลังจากมีคนเห็นรถของเทศกิจ มักจะชอบถ่มน้ำลายใส่ท้ายรถ แล้วก็ด่าอีกว่า ‘รีบตายรีบไปผุดไปเกิดซะ’ ไม่นานพวงหรีดจึงเยอะขึ้นเรื่อยๆ”
“แช่งเหรอ”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”
“แต่หนุ่มเทศกิจสองคนนั้นก็ไม่เลวนะ”
“ครูที่กระโดดตึกฆ่าตัวตายคนนั้นก็ไม่เลว”
“เอ่อ…อันนี้…”
“วางใจได้ พวงหรีดนั่นไม่ทำให้คนตายหรอก อย่างมากก็แค่ดวงอ่อนนิดหน่อย หลังจากที่คุณแปะยันต์กระดาษไปแล้ว น่าจะไม่มีปัญหาอะไร”
“เฮ้อ ข้ารู้สึกเสียใจแทนเด็กสองคนนั้น ถือสิทธิ์อะไรทำไมต้องให้พวกเขาแบกรับชื่อเสียงที่ไม่ดีของเทศกิจด้วย”
“เพราะว่าคนส่วนใหญ่ชอบยกชามข้าวกินวางตะเกียบด่าคน ถ้าหากตัวเองขับรถหรือตอนที่เดินอยู่บนถนนถูกพ่อค้าหาบเร่ขวางทางก็จะด่า แต่พอเห็นวิดีโอในอินเทอร์เน็ตที่เทศกิจ ‘ตี’ คน แล้วรายงานข่าวว่า ‘รังแก’ พ่อค้า ก็จะด่าอีก”
“เฮ้อ คำพูดคนน่ากลัว คำพูดของคนน่ากลัวจริงๆ เถ้าแก่ ชงน้ำชาเสร็จแล้ว”
นักพรตเฒ่าส่งน้ำชาไปให้ จากนั้นจึงหยิบผ้ามาเช็ดตรงนั้นทีตรงโน้นทีอย่างจริงจัง ถึงแม้เดดพูลจะเก็บกวาดร้านสะอาดสะอ้านแล้ว แต่นักพรตเฒ่ายังหวั่นใจ กลัวโจวเจ๋อจะเอาเรื่อง ‘ลูกชาย’ มาพูดอีก
เถ้าแก่โจวกลับนอนลงบนโซฟา เขาเพิ่งจะนอนลง สวี่ชิงหล่างก็เดินลงมาข้างล่าง
“ตอนกลางวันไปกินข้าวข้างนอกมาเหรอ” สวี่ชิงหล่างซักถามเหมือนอยากติโทษ
“ใช่”
“เหอะๆ”
นักพรตเฒ่าเดินออกไปไกลอีกหน่อยอย่างรู้กาลเทศะ
“เหล่าโจว ออกไปข้างนอกกับผมหน่อย ช่วยผมหนึ่งเรื่อง” สวี่ชิงหล่างพูดกับโจวเจ๋อ
โจวเจ๋อลืมตาอย่างจนใจอยู่บ้าง มองสวี่ชิงหล่างที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว ลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยังพยักหน้า
ในฐานะเพื่อน ในเมื่อเขาเอ่ย คุณจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร โดยเฉพาะตอนนี้คุณยังนอนอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางที่ไม่มีอะไรทำ อยากจะหาข้ออ้างก็หาไม่เจอ นอกจากนี้ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็แล้วแต่ ที่ผ่านมาเหล่าสวี่ได้ช่วยเหลือโจวเจ๋อเยอะมาก
สวี่ชิงหล่างขับรถ โจวเจ๋อนั่งข้างคนขับ รถมุ่งหน้าไปอำเภอเหมินไห่บ้านเกิดของสวี่ชิงหล่าง แต่ไม่ไกลมาก ทงเฉิงถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุโดยทั่วไปแล้วรถไม่ติดเลย คาดว่าคงใช้เวลาขับรถไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
“เรื่องก็เป็นแบบนี้ ปัญหาที่เจอตอนย้ายหลุมศพครั้งที่แล้ว ตอนนี้เริ่มกลายเป็นปัญหาสะสมแล้ว” สวี่ชิงหล่างเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้โจวเจ๋อฟังก่อน
โจวเจ๋อรู้เรื่องนี้เหมือนกัน ตอนนั้นสวี่ชิงหล่างต้องออกจากร้านหนังสือกลับบ้านเกิดไม่ใช่แค่หนึ่งครั้งเท่านั้น ก็เพราะเรื่องย้ายหลุมศพนี่แหละ ถึงแม้ระดับวิชาอาคมของสวี่ชิงหล่างในสายตาของโจวเจ๋อกับสาวน้อยโลลิจะนับว่ารู้แค่งูๆ ปลาๆ เท่านั้น แต่ระดับของเขาเมื่อเทียบกับพวกที่รับจัดงานศพในชนบทรวมทั้งนักพรตที่เดินทางไปทั่วถือว่าสูงกว่าเยอะ ดังนั้นสวี่ชิงหล่างจึงเป็นคนจัดการเรื่องย้ายหลุมฝังศพเอง เขาคำนวณตำแหน่งและวันที่ แล้วทำการเคลื่อนย้ายตามขั้นตอนทุกอย่าง แต่ปัญหาก็ยังเกิดขึ้นจนได้
อย่างแรกมีน้ำไหลออกมาจากหลุมศพของบรรพบุรุษ จากคำพูดของสวี่ชิงหล่างดูเหมือนจะเป็นน้ำพุร้อนใต้ดินที่ไหลซึมออกมา และน้ำก็มีควันสีขาวพวยพุ่งออกมา ร้อนมาก
หลังจากขุดหลุมไปแล้ว ดินก็ถล่มลงมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ถึงแม้จะไม่มีใครเสียชีวิต แต่ชาวบ้านที่รับผิดชอบขุดสุสานก็ตื่นตระหนกตกใจไปตามๆ กัน
สุดท้ายไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว จึงได้แต่ช่วยกันขุดออกมา เจอพวกโครงกระดูกเป็นกอง มีโลงศพบางโลงที่อยู่มานานจนผุพังแล้ว กระดูกจมฝังอยู่ในกองดิน มีบางศพเมื่อก่อนยากจน ตอนที่ทำพิธีฝังศพไม่มีแม้แต่โลงศพ ต้องใช้เสื่อฟางห่อเพื่อนำไปฝัง
นอกจากหลุมที่หลายปีมานี้ป้ายหลุมฝังศพยังดีอยู่ โครงกระดูกที่เหลือก็ไม่รู้ว่าเป็นบรรพบุรุษของบ้านไหนเพราะแยกไม่ออก แต่ไม่ว่าอย่างไรหมู่บ้านนี้ส่วนใหญ่ก็ใช้แซ่เดียวกัน จึงไม่เป็นไร จากนั้นจึงย้ายไปฝังรวมกันอีกที่หนึ่งโดยไม่ได้คิดอะไร
ส่วนหลุมฝังศพเก่าจะมีโครงกระดูกที่ไม่ได้ถูกย้ายหลงเหลืออยู่ไหมก็ไม่มีใครสนใจอีก และระดับการค้นหาก็ยากเกินไป หากจะใช้เครื่องขุดดินขุดที่ดินผืนนี้อีกรอบก็คงทำไม่ได้ใช่ไหมล่ะ
แต่หลังจากนั้นเรื่องแปลกๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น ของในหมูบ้านเริ่มหาย และสัตว์ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ก็เริ่มล้มตายอย่างไม่มีสาเหตุ แล้วก็มีคนที่ฝันว่าปู่ย่าตาทวดของครอบครัวตัวเองมาร้องทุกข์ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทำเอาหมู่บ้านแห่งนี้เริ่มอยู่ไม่สุขกลัวแม้กระทั่งต้นไม้ใบหญ้า
สวี่ชิงหล่างคิดหาวิธีแก้ไขแล้วก็ไร้ประโยชน์ จึงได้แต่ขอความช่วยเหลือจากโจวเจ๋อ
ตอนที่สวี่ชิงหล่างมาถึงหมู่บ้านเป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่าแล้ว ถึงแม้จะพูดว่าเป็นหมู่บ้านชนบท แต่ทุกครัวเรือนล้วนเป็นบ้านสองชั้นสไตล์ตะวันตก ด้านนอกที่อยู่ไม่ไกลเป็นถนนใหญ่ แต่ในหมู่บ้านเป็นถนนคอนกรีต และมีรถดีๆ จำนวนไม่น้อยจอดอยู่ในลานบ้าน
พื้นที่แถบชนบทของมณฑลเจียงซู เจ้อเจียง และเซี่ยงไฮ้แตกต่างจากชนบทในพื้นที่แถบตะวันตกเฉียงใต้เป็นอย่างมาก สาเหตุแรกเป็นเพราะการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สาเหตุที่สองเป็นเพราะสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ เมื่อพัฒนาแล้วมีความสะดวกสบายมากกว่าสภาพแวดล้อมในพื้นที่เขตภูเขาทางตะวันตกเฉียงใต้เป็นอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล