ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 252

สรุปบท ตอนที่ 252 สัตว์โลกน่ารักของเถ้าแก่โจว: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอน ตอนที่ 252 สัตว์โลกน่ารักของเถ้าแก่โจว จาก ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 252 สัตว์โลกน่ารักของเถ้าแก่โจว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 252 สัตว์โลกน่ารักของเถ้าแก่โจว

อาหารเดลิเวอรี่มาถึงแล้ว โจวเจ๋อจึงดื่มน้ำดอกพลับพึงแดงสองคำแล้วเริ่มกินอย่างเอร็ดอร่อย

เถ้าแก่โจวชาติที่แล้วมัวแต่ยุ่งอยู่กับการทำงาน ไม่ค่อยพิถีพิถันเรื่องกินข้าว ชาตินี้การกินข้าวกลับเป็นเรื่องที่ลำบากเรื่องหนึ่ง ตอนนี้เขาสามารถกินข้าวได้อย่างมีความสุขแล้ว ดังนั้นจึงไม่พิถีพิถันว่ากินอะไรไปบ้าง

แน่นอนว่าใครสั่งให้พ่อครัวของเขาไม่สบายเล่า

“ชีวิตอย่ามองความผิดหวังที่อยู่ตรงหน้า ยังมีบทกวีและทุ่งหญ้าแดนไกล เจ้ามาโลกนี้มือเปล่า ยังหาน่านน้ำทะเลนั้นไม่เจอและไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น…” เสียงเพลงดังมาจากหน้าร้านหนังสือ

เสียงแหบแห้งที่มาพร้อมกับการผ่านโลกมาอย่างโชกโชน อบอวลไปด้วยความรู้สึกผันผวนของชีวิต ร้องเพลงได้ไพเราะจริงๆ

เถ้าแก่โจวถือกล่องข้าวเดินมาหน้าร้านหนังสือ เขาเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนเล่นกีตาร์และร้องเพลงอยู่ริมถนน เด็กหนุ่มใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขาดๆ สวมรองท้าผ้าใบที่ทั้งดำและสกปรก ร้องเพลงได้อารมณ์เป็นอย่างมาก บริเวณรอบๆ มีคนเข้ามามุงล้อมอย่างรวดเร็ว ตอนที่เขาร้องเพลงมีคนโยนเงินใส่กระเป๋ากีตาร์ของเขา

เถ้าแก่โจวเหมือนคนงานคนหนึ่งนั่งกินข้าวอยู่ริมฟุตบาท กินข้าวได้สองคำแล้วเงยหน้ามองคนร้องเพลง จากนั้นจึงก้มหน้ากินข้าวต่อ บางทีนี่ก็คือชีวิต ได้กิน ได้ดื่ม ได้ฟังเพลงยามว่าง

อิงอิงเล่นเกมอยู่ในร้านอินเทอร์เน็ตฝั่งตรงข้าม เหล่าสวี่ที่ติดพิษก็มีวิธีรักษาแล้ว นักพรตเฒ่าแอบหนีไปรับไปรษณีย์ด่วน ส่วนตัวเขาเองก็นั่งกินข้าวอย่างอร่อย ทุกอย่างสวยงามไปหมด

ถ้าหากโจวเจ๋อคนก่อนได้มาเห็นโจวเจ๋อในตอนนี้ คาดว่าคงจะทำจมูก ‘ฮึดฮัด’ ไม่พอใจเพื่อบอกว่าดูถูกการใช้ชีวิตแบบปลาเค็ม แต่ตัวเขาในเวลานี้กลับมีความสุขกับชีวิตแบบนี้

ฉวีหมิงหมิงเดินออกมาจากร้านหนังสือ เห็นโจวเจ๋อนั่งยองๆ อยู่ตรงนั้นจึงนั่งลงตามเขา หยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนแล้วยื่นให้โจวเจ๋อ

โจวเจ๋อรับมาจุดไฟแล้วสูบหนึ่งที เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่ากลิ่นฉุนมาก แต่พอสูบขึ้นมากลับรู้สึกเบาสบาย

“ผมเป็นคนปลูกต้นยาสูบเอง ผ่านการบ่มเพาะด้วยวิธีที่พิเศษเฉพาะ แม้แต่ไส้กรองบุหรี่ผมก็เป็นคนออกแบบเอง เวลาสูบตัวนี้จะรู้สึกเย็นสดชื่นดับร้อนภายในร่างกาย”

“สูบบุหรี่ทำให้สุขภาพแข็งแรงได้ด้วยเหรอ” โจวเจ๋อจับบุหรี่ที่จุดแล้วขึ้นมาดู แล้วสูบหนึ่งที “ยังมีอีกไหมผมขอสองสามซอง”

“เหอะๆ มีไม่เยอะครับ ตอนนี้สมุนไพรแพงมาก และต้นทุนอันนี้ก็สูงเหมือนกัน สูบหนึ่งมวนเกือบสองสามร้อยแล้ว”

“ก็ไม่แพง…”

“ปอนด์”

“เอ่อ…” โจวเจ๋อถามอย่างสงสัย “บ้านของคุณมีเงินมากใช่ไหม”

“จริงๆ บ้านของผมไม่ได้รวยมากครับ ถึงแม้จะสืบทอดมาจากสมัยราชวงศ์ถัง แต่หมอไม่ใช่อาชีพที่ทำเงินเยอะอะไร แค่ช่วงสองสามปีนี้หาเงินได้ง่ายหน่อยท่านั้น สิ่งที่คุณอากับพวกผู้ใหญ่ของผมทำด้วยกัน คือพื้นชั้นในรองเท้าที่สามารถรักษาได้ทุกโรค สามารถบำบัดรักษาโรคมะเร็งแบบร้อนได้ ของพวกนี้เวลาคุณฟังแล้วอาจจะรู้สึกตลก แต่ในตลาดถือว่าดีมาก แต่ผมก็ไม่ชอบอะไรแบบนี้ ตอนแรกผมไปดูบริษัทของคุณอาของผมคนหนึ่ง บริษัทของเขากำลังประชุม ผู้ใหญ่ระดับคุณตาคุณยายรวมตัวกันโบกธงอย่างแข็งขัน ไม่ต่างจากองค์กรขายตรง”

โจวเจ๋อพยักหน้า

“ดังนั้น ผมคิดว่าตอนนี้ดีมาก ชอบเล่นกับแมลงพิษก็เล่นให้เต็มที่ ชอบเล่นเกมก็เปิดร้านอินเทอร์เน็ต รับผิดชอบตรวจอาการให้กับเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงเป็นบางครั้ง ช่วยปรับสมดุลในร่างกายของพวกเขา เงินก็ไม่ขาด ใช้ชีวิตสบายมากในแต่ละวัน”

ปลาเค็มสองตัวค้นพบคนที่รู้ใจตัวเองโดยบังเอิญ!

“อ้อใช่ ผมเลี้ยงแมลงพิษเรียบร้อยแล้ว อีกสิบแปดชั่วโมงก็เสร็จ น่าจะเริ่มถอนพิษได้ตอนเที่ยงคืน พนักงานหญิงคนนั้นของคุณเป็นผีดิบ คุณก็เป็นเหมือนกันใช่ไหม”

โจวเจ๋อพยักหน้า

“วันนี้เหมือนได้เปิดโลกจริงๆ” ฉวีหมิงหมิงคิดได้แล้ว จึงยื่นมือแต่ไหล่ของโจวเจ๋อก่อน

โจวเจ๋อไม่ชอบให้คนแปลกหน้าแตะต้องตัวเองมาตลอด คนที่รักอนามัยสุดที่จะทนรับสิ่งนี้ได้

แต่เขาได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากแขนของฉวีหมิงหมิง และมือของเขาก็ขาวมาก ตัดเล็บสะอาดสะอ้าน นี่คือคนที่รักสะอาด เหมือนหมอชื่อดังสมัยโบราณที่อยู่ในภาพวาด มีบัฟติดตัวที่ทำให้ดูสูงส่งลอยพ้นธุลีแดง ถึงแม้คุณจะรักอนามัย แต่ก็ยากที่คุณจะไม่ชอบ

“ผมรู้สึกว่าชีวิตของผมเริ่มสนุกแล้ว ด้านแมลงพิษ ผมได้ศึกษาวิจัยอย่างลึกซึ้งแล้ว ส่วนคุณได้เปิดหัวข้อใหม่ให้กับผม”

“จริงๆ แล้วผมละอายใจมาก บนโลกนี้ เมื่อก่อนคุณอาจจะเห็นแค่ด้านสีขาว แต่มันยังมีด้านมืดอีก พอเจอเยอะเข้าก็ใช่ว่าจะดี”

“ผมรู้ ผมรู้ครับ”

“วันนี้ฉันเห็นหิมะโปรยปรายในคืนอันหนาวเหน็บ ดวงใจที่เหน็บหนาวลอยไปไกล ไล่ตามลมฝน ไม่อาจแยกแยะร่อยรอยในสายหมอก…”

เด็กหนุ่มร้องจบหนึ่งเพลงก็เริ่มร้องเพลงอื่นต่อ

“ร้องเพราะใช้ได้นะครับ” ฉวีหมิงหมิงพูด

“เหมือนผ่านโลกมาโชกโชน อย่างน้อยฟังแล้วรู้สึกว่าเป็นแบบนี้” โจวเจ๋อกล่าว

“ผ่านโลกมาเยอะเหรอ” ฉวีหมิงหมิงหัวเราะ “รองเท้าของเขา กางเกงยีนส์ของเขา กีตาร์ที่อยู่ในมือของเขา รวมกันแล้วน่าจะเกินหนึ่งแสนหยวน”

โจวเจ๋อตกตะลึง ก่อนหน้านั้นเขาคิดว่าเด็กหนุ่มร้องเพลงเล่นกีตาร์เพื่อหาเงิน ที่แท้มาหาประสบการณ์ชีวิต ขณะเดียวกันเขาก็แบกหน้าไม่อยู่แล้ว มีลูกเศรษฐีตัวจริงอยู่ข้างๆ มักจะรู้สึกว่าตัวเองถูกมองด้วยสายตาดูหมิ่น

“พูดเกินไปแล้ว” โจวเจ๋อกล่าว

“สมควรแล้วครับ” อีกฝ่ายคำนับโจวเจ๋อ

โจวเจ๋อหัวเราะกวักมือเรียกเจ้าลิง “มา เอาของมาให้ฉัน ปล่อยคนกลับบ้าน”

เจ้าลิงส่ายหัวเด็ดขาด ถือสิทธิ์อะไร! โจวเจ๋อพบว่าหลังจากที่เจ้าลิงอยู่กับนักพรตเฒ่ามีนิสัยเสียไม่น้อย มันในสมัยก่อนกับมันในชาติที่แล้วมีความบริสุทธิ์ไร้เดียงสามากขนาดไหน ตอนนี้กลับไม่ยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบคิดแต่จะเอาเปรียบคนอื่น

“เขามาหาถึงที่แล้ว แถมเอาของขวัญมาเยี่ยมอีกนะ” ขณะที่พูด โจวเจ๋อได้หยิบโสมแก่อันหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากีตาร์

“โสมภูเขาป่าสามร้อยปี ตอนนี้เห็นไม่บ่อยแล้ว” เด็กหนุ่มแนะนำ

“มา เอาอันนี้ไปกิน” โจวเจ๋อโยนโสมภูเขาให้เจ้าลิงโดยตรง เจ้าลิงรับโสมแล้วจึงวิ่งเข้ามาอย่างไม่พอใจ ยื่นสมุดหยินหยางให้โจวเจ๋อ

“เธออยู่ในนี้” ขณะพูด โจวเจ๋อได้ยื่นสมุดหยินหยางไปให้เด็กหนุ่ม

“ท่านยมมีน้ำใจมาก ผมขอเป็นตัวแทนเซียนในป่าเขาทุกท่านขอบคุณท่านครับ วันหลังหากท่านยมมีเรื่องอะไรก็ไปหาในป่าได้ ช่วยบอกกันล่วงหน้า แล้วพวกเราจะมาต้อนรับครับ”

“ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องเกรงใจ” โจวเจ๋อโน้มตัวตรวจดูของขวัญที่อยู่ในกระเป๋ากีตาร์ต่อ

แสงสีเหลืองส่องประกายในดวงตาของเด็กหนุ่มแวบหนึ่ง เขาไม่สนใจของขวัญเหล่านั้น สำหรับคนทั่วไปเป็นของล้ำค่าหายาก แต่สำหรับพวกเขาแล้ว เป็นสิ่งที่พบเห็นเป็นประจำ วินาทีต่อมา เขาเปิดสมุดหยินหยางอย่างอดใจไม่ไหว

“แม่ย่าแปด ออกมาครับ…” จากนั้นเขาก็ไม่ขยับอีก

โจวเจ๋อลุกขึ้น หันหลังให้เด็กหนุ่มแล้วเริ่มเดินถอยหลัง หลังจากเดินถอยหลังไปหาเด็กหนุ่มแล้ว เขายื่นมือไปข้างหลังโดยที่ไม่มองสมุดหยินหยางเล่มนั้นและคลำหาอยู่นาน ในที่สุดก็ปิดสมุดหยินหยางได้เสียที

สมุดหยินหยางอยู่ในมือ บนหน้าปกนอกจากแมวดำกับงูตัวเล็กแล้ว ยังมีพังพอนเหลืองที่โกรธมากโผล่มาอีกหนึ่งตัว เห็นได้ชัดว่ามันรู้แล้วว่าตัวเองโดนหลอก

“อย่าโทษผมเลย แต่พวกคุณโง่เอง ใช่ไม่ใช่”

เจ้าลิงที่อยู่ข้างๆ แทะโสมภูเขาพร้อมกับผงกศีรษะไม่หยุด

โจวเจ๋อตบสมุดหยินหยางที่อยู่ในมือ เขาอยากหัวเราะแต่กลั้นเอาไว้อยู่ เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองเหมือนผู้ร้ายในภาพยนตร์ แต่สุดท้ายก็กลั้นไม่อยู่แล้วพูดว่า “ยังจะมีเทพเจ้าคนไหนมาอีกไหม ผมอยากรวบรวมสัตว์โลกน่ารัก”

…………………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล