ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 269

ตอนที่ 269 การกลับมา! (2)

“หิมะแรกของปี 2002 มาช้ากว่าหลายปีที่ผ่านมา รถเมล์สายสองจอดอยู่ที่ตึกแปด…”

ถนนนอกรถไม่รู้ว่าร้านไหนเปิดเพลงของเตาหลางผ่านชุดเครื่องเสียง ขณะเดียวกันโจวเจ๋อเห็นว่านอกหน้าต่างรถหิมะเริ่มตกลงแล้ว ข้างทางเต็มไปด้วยหิมะสีขาวโพลน

วันนี้เป็นวันที่ 27 มิถุนายน เป็นฤดูร้อน แต่มีหิมะตก จากนั้นรถได้จอดอีกป้ายหนึ่ง ชายชรากลับปรากฏตัวอยู่บนทางเท้านอกรถแล้ว สองมือล้วงไปในเสื้อคลุมสีเขียวตัวใหญ่ รองเท้าปลดแอกเดินอยู่ท่ามกลางหิมะที่ทับถมกัน ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย ปากพ่นควันสีขาวออกมาไม่หยุด

ก่อนที่ประตูรถจะปิด โจวเจ๋อได้กระโดดลงไป ทำให้คนขับรถเมล์ตกใจตะโกนด่าว่า “อยากตายหรือไง!”

ฮู่ว…หนาว หนาวจริงๆ ทั้งๆ ที่เป็นฤดูร้อนแต่กลับกลายเป็นฤดูหนาวกะทันหัน ทว่าโจวเจ๋อที่ใส่เสื้อผ้าบางกลับไม่ได้รู้สึกทรมานอะไร เขาเป็นผู้ชายที่นอนกอดผีดิบสาวทุกวัน กระทั่งเคยนอนในตู้แช่แข็งมาก่อน

“พ่อหนุ่ม ธาตุไฟดีมาก เยี่ยมจริงๆ” ชายชรามองโจวเจ๋อแล้วพูดด้วยความอิจฉามาก

“นี่คืออะไร” โจวเจ๋อถาม

“ของปลอม เป็นของปลอมทั้งหมด” ชายชรายื่นมือรับหิมะพวกนี้แล้วพูดต่อว่า “เป็นวิชาอำพรางตาที่ง่ายมากหากคุณไม่อยากตื่น อยากดูต่อไป ผมก็จะพาคุณเดินต่อไป หลายปีมาแล้ว ผมก็อยากหาคนคุยด้วยเหมือนกัน คุณเป็นคนฆ่าผม คุณจึงมีสิทธิ์พูดกับผมได้ เป็นยังไง เดินต่อไหม ถ้าหากคุณไม่อยากเดินต่อ สภาพแวดล้อมง่ายๆ แค่นี้ยังไงก็ขังคุณไม่อยู่” ชายชราพูด แล้วเดินดุ่มๆ ไปข้างหน้าคนเดียว

เขาพูดถูก นี่คือภาพลวงตาที่แสนจะง่ายดาย สลับสับเปลี่ยนฉากได้ฝืดฝืนมาก เทียบกับ ‘ความราบรื่นไร้สุ้มเสียง’ จนน่ากลัวของสมุดหยินหยาง ฉากกับทิวทัศน์ที่เห็นในตอนนี้มีความเรียบง่ายและหยาบกระด้างอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็เหมือนกับที่ชายชรากล่าว ผลงานภาพสีน้ำมันของนักศึกษา ราคาสูงต่ำของมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของภาพวาดรูปนี้เสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ของเธอ

ภาพลวงตานี้ขังโจวเจ๋อไม่อยู่ แต่โจวเจ๋อก็ได้แต่เดินดุ่มๆ ต้อนรับหิมะ เดินตามชายชราไปข้างหน้าต่อไป

เขาอยากจะดู อยากจะดูว่า เจ้าสิ่งนี้ที่แม้แต่คนผู้นั้นที่อยู่ในร่างกายของเขาก็ไม่สามารถฆ่าให้ตายอย่างสิ้นเชิงได้ หลังจากที่ไอ้หมอนี่โดนฆ่าแล้วยังเป็นฝ่ายมาหาเขาถึงที่ หน้าตาที่แท้จริงของเขาเป็นอะไรกันแน่!

ถึงแม้โจวเจ๋อจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว แต่ยังอยากได้หลักฐานมายืนยันมากกว่านี้ ชายชราเปิดใจกับเขา โจวเจ๋อจึงไม่ปฏิเสธเขาอยู่แล้ว

หิมะเริ่มตกเยอะขึ้น หลังจากชายชราเดินไประยะหนึ่งก็นั่งยองลงข้างทางเหมือนเดินไม่ไหวแล้ว เขาหยิบแท่งยาสูบออกมาใส่ใบยาสูบ จากนั้นจึงเคาะ ‘ตุบๆๆ’ แล้วเริ่มสูบ

เมื่อเห็นโจวเจ๋อนั่งข้างๆ เขา เขาจึงหันด้านหัวของแท่งยาสูบให้โจวเจ๋อ เพื่อบอกโจวเจ๋อว่าสูบไหม ไม่ต้องเกรงใจโจวเจ๋อนั่งลงยองๆ เช่นกัน จากนั้นจึงหยิบบุหรี่ของตัวเองออกมาแล้วจุดไฟ

คนแก่หนึ่งคนกับคนหนุ่มหนึ่งคนนั่งยองๆ อยู่ข้างถนน ปล่อยให้หิมะตกใส่ศีรษะ หัวไหล่ และใบหน้าด้านข้างของตัวเองไปเรื่อยๆ พร้อมกับสูบบุหรี่เงียบๆ ชายชราไม่พูดอะไร โจวเจ๋อก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน แต่สิ่งที่ต้องเกิดขึ้น อย่างไรเสียก็ต้องเกิด

“ผมอยากตายมาก จริงๆ นะ” ชายชราขากเสลดออกมาจากนั้นไอติดต่อกันสองสามที “ผมเหนื่อยแล้วจริงๆ”

คำว่า ‘จริงๆ’ ของชายชราเผยให้เห็นถึงความจนใจบางอย่าง ฉันอยากตายแต่ตายไม่ได้ ความจนปัญญาพวกนี้ในสายตาของคนส่วนใหญ่ เป็นคำพูดง่ายๆ ที่คนอื่นอิจฉามาก! นับตั้งแต่โบราณกาล หลายคนอยากจะมีชีวิตที่เป็นอมตะจักรพรรดิหลายพระองค์ต่างหมกมุ่นอยู่กับสิ่งเหล่านี้ และมีราชวงศ์จำนวนไม่น้อยที่ยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อสิ่งนี้

แต่ถ้าจะแปลกก็แปลกอยู่ตรงที่ โจวเจ๋อฟังออกถึงความในใจของชายชรา เขาอยากตาย แต่ตายไม่ได้ นี่ไม่ได้แสร้งดัดจริต แต่เป็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ก้นบึ้งหัวใจของชายชรา และเป็นความจนใจจนปัญญาอย่างแท้จริง

“คุณเป็นตัวอะไรกันแน่” โจวเจ๋อถามอีก

“อ้าว ยังมองไม่ออกเหรอ” ชายชราหัวเราะ เคาะแท่งยาสูบบนทางเท้า “หรือไม่ก็ คุณมองออกแล้วแต่คุณไม่กล้าเชื่อ ใช่ไหม”

เพิ่งจะสิ้นเสียงของชายชรา ถนนฝั่งตรงข้ามมีคนเดินมากลุ่มหนึ่ง ถือป้ายที่เป็นสัญลักษณ์ ตะโกนคำขวัญ และมีคนร่วมขบวนไม่หยุด เสียงตะโกนดังก้องทั่วฟ้า กระจายความหนาวเหน็บของฤดูหนาวนี้ออกไป ทำให้มันอบอุ่นขึ้น ตะวันฉายแสงบนท้องฟ้า ฤดูร้อนกลับมาอีกครั้ง

“%%¥¥@!”

“%%……&”

กล่าวคำขวัญเป็นระเบียบพร้อมเพรียงกัน คนสองสามคนที่เดินนำเหมือนได้กำลังใจฮึกเหิม หน้าแดงก่ำตื่นเต้นไม่หยุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล