ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 271

ตอนที่ 271 คู่จิ้น!

คืนนี้เถ้าแก่โจวอารมณ์หดหู่อยู่บ้าง เขาไม่ใช่คนที่มีอารมณ์เศร้าได้ง่าย เพราะในฐานะของปลาเค็มตัวหนึ่งคุณต้องมีภูมิต้านทานความเครียด

ตอนที่เกลือเหล่านั้นสาดอยู่บนตัวของคุณไม่หยุด ตอนที่น้ำภายในร่างกายของคุณเริ่มถูกบีบออกหมดไม่มีเหลือคุณต้องไม่กลัวและไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น แบบนี้ถึงจะปกติและสบาย การใช้ชีวิตอย่างไม่สนใจอะไร มีความสุขกว่าน้องหลิน(ผู้หญิงอ่อนแอ) ที่ต้องใช้ชีวิตกล้ำกลืนตลอดเวลา

โจวเจ๋อรู้สึกว่าตัวเองควรจะนอนได้แล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรค่อยจัดการวันพรุ่งนี้ก็พอ เมื่อถึงเช้าวันที่สอง ตอนที่โจวเจ๋อนอนลืมตาอยู่บนเตียง เขามั่นใจว่าอารมณ์หดหู่เมื่อคืนหายไปแล้วจริงๆ เพราะเขาเห็นดวงตากลมโตคู่หนึ่งกำลังมองตัวเองอยู่ ด้วยระยะห่างที่ใกล้กับตัวเองไม่ถึงศูนย์จุดสองสามเซนติเมตร ขนตาของเธอเหมือนกำลังบอกทุกการกระทำของตัวเอง

“ตื่นแล้วเหรอ” โจวเจ๋อถามสองคำนี้ด้วยเสียงที่สั่นเครือ เขารู้สึกตื่นเต้นที่อิงอิงฟื้นเสียที

“เจ้าค่ะ” ไป๋อิงอิงขานรับหนึ่งที

โจวเจ๋อรู้สึกสดใสเหมือนฟ้าหลังฝนทันที ราวกับว่าวิกฤตอันตรายอย่างใหญ่หลวงตอนกลางคืนเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน รวมทั้งความกดดันเมื่อคืนวานได้มลายหายไปแล้วในตอนนี้!

เขาอยากจะกอดเธอ แต่พอเห็นใบหน้าไร้เดียงสาของเธอที่มองตัวเองอยู่ จู่ๆ โจวเจ๋อก็รู้สึกไม่ดี เขารู้สึกว่าการกระทำใดๆ ในเวลานี้ไม่สำคัญแล้ว ใช่แล้ว สำหรับสไตล์แบบสาวน้อยโลลิ เถ้าแก่โจวคิดจะตบก็ตบคิดจะด่าก็ด่า ไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น แต่ไป๋อิงอิงที่มองตัวเองด้วยใบหน้าไร้เดียงสาในตอนนี้ กลับทำให้โจวเจ๋อรู้สึกทำตัวไม่ถูก

“หิวหรือยัง” โจวเจ๋อถาม

“เถ้าแก่ ทำไมท่านดูเซ่อซ่าจัง ข้าไม่กินข้าว”

โจวเจ๋อพยักหน้า เขาลืมไป จากนั้นโจวเจ๋อจึงลุกนั่งบนเตียงแล้วจุดบุหรี่หนึ่งมวน แสงอาทิตย์สาดเข้ามาผ่านทางหน้าต่าง มาพร้อมกับความอบอุ่นและสดชื่นในยามเช้า

ไป๋อิงอิงดิ้นอยากจะลุกขึ้น แต่อาการบาดเจ็บบนร่างกายของเธอยังไม่ฟื้นตัวดี ถึงแม้คนจะตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ร่างกายยังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญเพื่อซ่อมแซมตัวเอง เธออยากจะลุกนั่งหยิบเสื้อผ้าให้โจวเจ๋อ เหมือนที่เธอเคยทำเมื่อก่อนแต่หลังจากที่ลุกขึ้นก็ต้องล้มตัวนอนกลับไป เธอกำหมัดของตัวเองด้วยความโกรธอยู่บ้าง แล้วทำปากจู๋

“เป็นอะไร” โจวเจ๋อหยิบเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ตรงหัวเตียงขึ้นมาใส่

“อิงอิงไม่มีประโยชน์ ปรนนิบัติเถ้าแก่ไม่ได้แล้ว”

“รักษาตัวให้สบายใจเถอะ” โจวเจ๋อยื่นมือแล้วถูที่จมูกของเธอเบาๆ จากนั้นตัวเองก็ตกตะลึงเล็กน้อย ทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยการกระทำนี้อย่างบอกไม่ถูก

“ไม่เจ้าค่ะ” ไป่อิงอิงเบ้ปากและพูดอย่างไม่พอใจ “เถ้าแก่ขี้เกียจเกินไป”

“…” โจวเจ๋อ

“อิงอิงดูแลเถ้าแก่ไม่ได้ เถ้าแก่ก็จะทนไม่ไหวแล้วไปหาสาวใช้คนใหม่ จากนั้นเถ้าแก่ก็จะทนไม่ไหวอีก เพราะข้างล่างเธออุ่นกว่า จากนั้นอิงอิงก็จะถูกแทนที่”

โจวเจ๋อฟังคำพูดพวกนี้จนเกือบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ชาติที่แล้วเขาเป็นหมอจึงเห็นผู้หญิงมีอาการซึมเศร้าหลังจากคลอดลูกอยู่ไม่น้อย แต่ยังไม่เคยเห็นคนมีอาการซึมเศร้าหลังจากได้รับบาดเจ็บจริงๆ ก่อนหน้านั้นสาวน้อยคนนี้น่าจะอ่านหนังสือ ‘การฝึกฝนทักษะของสาวใช้’ มากเกินไป

ตอนนี้โจวเจ๋อจึงยื่นมือวางบนไหล่ของไป๋อิงอิง แล้วเอ่ยอย่างจริงจังว่า “คุณต้องเชื่อใจเถ้าแก่ของคุณ”

“เจ้าค่ะ เถ้าแก่ ข้าเข้าใจท่าน! ฮือๆๆ!”

หลังจากโจวเจ๋อพูดประโยคนี้จบจู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีตรงไหนผิดปกติ ความหมายที่อยู่ในคำพูดทำไมดูแปลกพิลึก

“อยากออกไปเดินไหม” โจวเจ๋อถาม “เดินเล่น”

“อืม…”

“ผมจะพาคุณไปเอง”

“เจ้าค่ะ เถ้าแก่”

โจวเจ๋อยื่นมืออุ้มไป๋อิงอิงขึ้นมา แล้วเดินออกจากห้องนอนลงมาข้างล่าง แต่สิ่งที่ทำให้โจวเจ๋อแปลกใจคือประตูร้านเปิดแล้ว นักพรตเฒ่ากำลังนั่งอยู่บนโซฟา มีไม้เท้าอันหนึ่งอยู่ข้างๆ เห็นได้ชัดว่าความเจ็บปวดที่นักพรตเฒ่าต้องนั่ง ‘เจ้าลาน้อย’ เมื่อวานนี้ทำให้เขารีบซื้อไม้เท้าอันหนึ่งทันที ไม่ยอมให้โจวเจ๋อมีโอกาสพาไปนั่งรถที่ส่งเสียง ‘ตู๊ดๆๆ’ อีกเด็ดขาด

“อรุณสวัสดิ์ เถ้าแก่” นักพรตเฒ่ากำลังนั่งกินปาท่องโก๋อยู่บนโซฟา เจ้าลิงเทน้ำเต้าหู้ให้เขาอยู่ข้างๆ นักพรตเฒ่ายังเคลื่อนไหวไม่สะดวก แต่หลังจากที่ตัวเองพอขยับตัวได้บ้างก็รีบกลับมาทำหน้าที่ของตัวเองทันที รีบเปิดร้านแต่เช้า

“อ้าว อิงอิงก็ฟื้นแล้วเหรอ ฟื้นแล้วก็ดี ฟื้นแล้วก็ดี ทุกคนต้องสบายดี ร้านหนังสือจะได้ไม่เหงา อ้อใช่ เถ้าแก่ พวกเจ้ากำลังจะไปไหน”

“ออกไปเดินเล่น”

“อย่างนั้นก็ดี รถเข็นคันนั้นของข้าสามารถเอาไป…”

“ไม่ต้อง ผมจะให้เธอขี่หลังออกไป”

“…” นักพรตเฒ่า ถือสิทธิ์อะไร! ทำไมกัน!

ไป๋อิงอิงตัวไม่หนักเลย อย่างน้อยตอนที่โจวเจ๋อให้เธอขี่หลังไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าไร ตอนเช้าคนเดินบนถนนไม่เยอะมาก คนที่เดินไปเดินมาต่างรีบไปทำงาน และเพราะเหตุนี้จึงไม่มีใครสังเกตคนคู่นี้เท่าไร ต่อให้มีคนสังเกตก็คงคิดว่าน้องสาวขาแพลงพี่ชายจึงให้เธอขี่หลัง

ทั้งสองคนไม่ได้เดินไปไกลนัก มาหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ไป๋อิงอิงถูกโจวเจ๋อวางลงบนเก้าอี้ตัวยาว โจวเจ๋อก็นั่งอยู่ข้างๆ จุดบุหรี่สูบหนึ่งมวน ไม่มีคำพูดใดๆ ทั้งสองคนนั่งเงียบอยู่ตรงนั้น

ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองถือเป็นเจ้านายกับคนรับใช้ จึงเข้าใจกันและกัน ถึงแม้ว่าจะนั่งโดยไม่พูดอะไรแบบนี้ก็ไม่รู้สึกเก้อเขิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล