ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 285

สรุปบท ตอนที่ 285 เลือดข้นกว่าน้ำ!: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอน ตอนที่ 285 เลือดข้นกว่าน้ำ! จาก ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 285 เลือดข้นกว่าน้ำ! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 285 เลือดข้นกว่าน้ำ!

‘ครืด…ครืด…ครืด’

ใบหน้าของหญิงสาวถูไถเบาๆ บนประตูไม่หยุด กระทั่งมีน้ำลายไหลออกมา ชนิดที่อดทนรอไม่ไหวแทบปิดไม่มิดเลยทีเดียว

เธอหิวแล้วจริงๆ

นี่คล้ายกับสุนัขตัวใหญ่ที่เลี้ยงไว้ในบ้านเตรียมจะกินข้าว มันแทบทนรอไม่ไหวอยากจะกระโจนเข้าใส่คุณโดยตรง แต่ทำได้เพียงใช้อุ้งเล็บขุดตะกุยพื้นอยู่ตรงนั้น พยายามระงับอารมณ์ไว้

โจวเจ๋อเปิดก๊อกน้ำ สาดน้ำเย็นในนั้นใส่หน้าตัวเอง เขาต้องการสงบสติอารมณ์ลง โดยเฉพาะในเวลานี้ความสงบเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง

ก่อนอื่น นี่ไม่น่าจะเป็นภาพลวงตาอะไรนั่นแล้ว แต่เพราะว่ามันไม่ใช่ภาพลวงตา ถึงได้รู้สึกน่ากลัวมากขึ้น และยิ่งทำให้เข้าใจยากขึ้นไปอีก แม้ว่าโจวเจ๋อจะเป็นยมทูต แต่การปรากฏสถานการณ์แบบนี้ขึ้นในโลกความจริง เขาก็ยังยากที่จะยอมรับได้

โดยเฉพาะที่พึ่งพาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาในตอนนี้ดันโผล่เข้าไปอยู่ในกระจกเสียแล้ว เขากำลังตะโกนอะไร เขากำลังด่ากราดอะไรอยู่ ตัวโจวเจ๋อเองก็ไม่ได้ยิน

หากโจวเจ๋อสามารถโพสต์ลงในโมเมนต์วีแชตได้ในตอนนี้ละก็ จะต้องเป็น ‘ผมคือโจวเจ๋อ ตอนนี้ผมตื่นตระหนกเหลือเกิน’

ยันต์ของนักพรตเฒ่าส่วนใหญ่ถูกเผาไปแล้ว เหลือเพียงน้อยนิดแล้ว

โจวเจ๋อปิดฝาชักโครกก่อนจะนั่งลงบนชักโครกแล้วหลับตาลงอย่างช้าๆ เขาต้องการความสงบ และต้องการสงบสติอารมณ์

หากไม่มีการช่วยเหลือของจิตสำนึกดวงนั้นแล้วเขาไม่สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ละก็ อย่างนั้นเขาจะทนอยู่ทำซากอะไร รอให้คนผู้นั้นตื่นขึ้นมาแล้วส่งต่องานไปตรงๆ ก็สิ้นเรื่อง

ที่พึ่งที่น่าเชื่อถือที่สุดของมนุษย์ ก็คือตัวเอง

‘ฮู่ว…ฮู่ว…’

สูดหายใจเข้าลึกและสงบอารมณ์ภายในใจ

เพราะว่าหลับตาอยู่ ดังนั้นโจวเจ๋อจึงไม่เห็นว่าคนผู้นั้นที่อยู่ในกระจกหลังจากมองเห็นโจวเจ๋อนั่งลงอย่างสงบนิ่งในเวลานี้ เขาก็ค่อยๆ หยุดดิ้นรน หยุดคำรามและสาปแช่งแล้ว และเริ่มหันไปยืนอย่างสงบนิ่งเช่นกัน

ยังมีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังรอกินอาหารอยู่ที่ด้านนอก เถ้าแก่โจวกลับไม่รู้ว่าหญิงสาวที่อยู่ด้านนอกนนั้นเป็นปีศาจกระดูกขาว ที่เหมือนผีแต่ไม่ใช่ผี เหมือนปีศาจแต่ไม่ใช่ปีศาจ เป็นตัวตนที่มีความขัดแย้งกันอยู่

เธอเป็นสิ่งที่เกิดมาท่ามกลางความประหลาด

‘โครม!’

ยันต์ส่วนสุดท้ายไหม้จนหมดกลายเป็นขี้เถ้าไปแล้ว และในเวลาเดียวกันนี้ ประตูก็ถูกผลักออก หญิงสาวพุ่งเข้ามาพร้อมกับมีดที่อยู่ในมือทั้งสองข้าง

โจวเจ๋อลืมตาขึ้นทันที และชุดเกราะซามูไรก็ปรากฏขึ้นบนตัวเขา

เหตุผลที่ไม่อัญเชิญชุดเกราะมาก่อนหน้านี้ เป็นเพราะว่าเขามั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองยามที่จิตสำนึกดวงนั้นถูกปลุกให้ตื่นขึ้นและเข้าสู่สภาวะผีดิบ ว่าสามารถฆ่าทำลายล้างทุกสิ่งได้ภายในไม่กี่วินาที

แต่ตอนนี้ เขาจำเป็นต้องเอาพละกำลังของตัวเองออกมาใช้อย่างสุดความสามารถและแสดงออกมาอย่างเต็มที่

‘เคร้ง! เคร้ง!’

มีดฟันกระแทกลงบนชุดเกราะอย่างบ้าคลั่ง แรงกระแทกที่น่ากลัวนั้นทำให้โจวเจ๋อเกือบจะล้มลงบนพื้น และยังมีรอยบุบที่น่ากลัวปรากฏขึ้นบนชุดเกราะอีกต่างหาก มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าหญิงสาวคนนี้มีพละกำลังแข็งแกร่งแค่ไหน!

แม้ว่าจะเป็นมีดทำครัวธรรมดาก็ตาม แต่หลังจากถูกเธอเหวี่ยงลงมา คาดว่าคงจะสามารถฆ่าวัวให้ตายได้ในครั้งเดียว

‘หมับ!’

เล็บของโจวเจ๋อคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของอีกฝ่าย จากนั้นเอียงตัวออกไปด้านข้างอย่างรวดเร็วและผลักไปข้างหน้า หญิงสาวถูกโจวเจ๋อผลักออกไปอีกด้านหนึ่ง

ใบหน้าและหน้าอกของหญิงสาวแนบอยู่บนกระเบื้องผนังห้องน้ำและดิ้นไปดิ้นมาไม่หยุด ก่อนหน้านี้เสื้อผ้าบนร่างกายของเธอก็ปริขาดบ้างแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นชายหนุ่มธรรมดาคนไหนก็ไม่มีทางชื่นชม ‘ความงดงาม’ แบบนี้ลง

หลายๆ คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การจะชื่นชมคนคนหนึ่งจะต้องมองที่ภายในของเขาหรือเธอ ไม่ใช่มองกันที่เปลือกนอก แต่เมื่อฉีกผิวหนังที่อาบเลือดออกและมองลึกเข้าไปข้างในจริงๆ คุณจะรู้สึกว่ามองผิวหนังและเปลือกนอกเถอะ!

“เริ่มกินได้!”

หญิงสาวใช้แขนทั้งสองข้างยันผนังและดันกลับ กระเบื้องบนผนังเริ่มร้าวออก คล้ายกับใยแมงมุมที่แผ่ขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง

เล็บมือซ้ายของโจวเจ๋อกลายเป็นเคียวแทงเข้าไปที่บั้นเอวของหญิงสาวทันที หญิงสาวไม่เจ็บปวดและยิ่งไม่ส่งเสียงกรีดร้องแต่อย่างใด กระทั่งยังหันหน้ากลับไปมองโจวเจ๋อและน้ำลายไหลยืดต่อไป ราวกับจะบอกว่า คุณซนจังเลย!

“ลงไป!”

โจวเจ๋อใช้แรงทั้งหมดกดลงไป กระทั่งรวมน้ำหนักร่างกายของเขาลงไปด้วย ร่างกายส่วนบนของหญิงสาวถูกบังคับกดลงไป ส่วนใบหน้าที่มีเนื้อเหลืออยู่น้อยนิดก็ยิ่งถูกโจวเจ๋อกดมุดลงไปในชักโครก

หญิงสาวเริ่มดิ้นรนอย่างสุดชีวิต เธออยากลุกขึ้น อยากจับโจวเจ๋อ อยากสนุกกับงานเลี้ยงฉลองของเธอในวันนี้!

แต่เล็บยาวทั้งสองข้างของโจวเจ๋อกลับเป็นเหมือนท่อนเหล็กปักคาอยู่บนตัวเธอ มันคล้ายกับที่เย็บหนังสือตรึงเธอเอาไว้ตรงนี้อย่างแน่นหนา

พื้นที่ว่างในห้องน้ำเยอะมาก ประกอบกับชักโครกที่มีอยู่ ทำให้โจวเจ๋อสามารถใช้พื้นที่นี้ในการกักขังหญิงสาวได้

หญิงสาวยังคงดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง เสียงเสียดสีระหว่างเหล็กและกระดูกนั้นบาดหูมาก

ในขณะที่เธอกำลังดิ้นรนไม่หยุด โจวเจ๋อยังมองเห็นเลือดค่อยๆ ไหลซึมออกมาจากเล็บของเขาอย่างช้าๆ เห็นได้ชัดว่าเล็บของเขาก็เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน

ใน ‘ไซอิ๋ว’ นั้น หากไม่ใช่เพราะพระถังซัมจั๋งเป็นตัวถ่วงครั้งแล้วครั้งเล่า ซุนหงอคงก็คงใช้กระบองทุบปีศาจกระดูกขาวตายไปแล้ว ดังนั้นคนส่วนใหญ่ต่างก็คิดว่าปีศาจกระดูกขาวทำได้เพียงเปลี่ยนรูปลักษณ์ของมันเพื่อหลอกลวงผู้คนเท่านั้น และมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

แต่เถ้าแก่โจวไม่ใช่ซุนหงอคงเสียหน่อย คนตรงหน้านี้ยังให้ความรู้สึก ‘อยู่ยงคงกระพันฟันแทงไม่เข้า’ จริงๆ ชนิดที่กระดูกนั้นเป็นแบบเดียวกับโลหะผสมที่มีความหนาแน่นสูงมาก

ต้องรู้ก่อนว่าเมื่อก่อนเล็บของเถ้าแก่โจวนั้นคมพอที่จะ ‘ตัดเหล็กราวตัดโคลน’ ได้ แต่ตอนนี้ทุกครั้งที่เสียดสีกัน เพียงแค่ทิ้งร่องรอยสีขาวบางๆ ไว้บนกระดูกของอีกฝ่ายเท่านั้น ไม่มีแม้แต่รอยบุ๋มยุบเข้าไป!

“ทำยังไงดี!” โจวเจ๋อตะโกน

แต่พูดกล่อมเป็นร้อยเป็นพันเพื่อให้กินสิ่งนี้ลงไป มันก็ยากที่จะยอมรับได้หรือเปล่า

‘กึก!’

ความเจ็บปวดที่เสียดแทง

‘ซี้ด…’

โจวเจ๋อเจ็บปวดจนแทบจะกระโดดเต้นโหยงๆ

เล็บนิ้วก้อยมือซ้ายของเขาหักออกโดยตรง เล็บแตกปลิ้นออกมาจนเลือดกระเด็น

สิบนิ้วเชื่อมใจ โดยเฉพาะเล็บของเถ้าแก่โจวที่แตกต่างจากเล็บทั่วไป ในเวลานี้ความเจ็บปวดทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก

เดิมทีเล็บทั้งสิบนิ้วก็เพียงแค่พอจะพันธนาการหญิงสาวเอาไว้ได้ ตอนนี้เล็บหักไปแล้วหนึ่งนิ้ว ยิ่งยากต่อการกดหญิงสาวให้อยู่หมัดเข้าไปอีก และดูเหมือนเป็นเพราะสิ่งนี้ทำให้เธอมีกำลังใจขึ้นมาและดิ้นรนแรงขึ้นกว่าเดิม

ในห้องน้ำ เสียงหอบหายใจถี่ๆ ของปีศาจกระดูกขาวดังขึ้น ซึ่งแฝงไปด้วยจังหวะที่รุนแรง เธอพยายามยืนขึ้นและหันหน้าไปไม่หยุด แต่ทุกครั้งที่พยายามแข็งขืนก็ถูกโจวเจ๋อกดกลับลงไปอีกครั้ง การยื้อแย่งของทั้งสองฝ่ายยังคงยืดเยื้อมาจนถึงตอนนี้

ไม่มีเวลามาลังเลแล้ว และไม่อาจจะลังเลต่อไปได้อีก

โจวเจ๋ออ้าปากกัดลงไปบนแผ่นหลังของหญิงสาวทันที!

เขี้ยวของเขาหดกลับไปนานแล้ว ถึงอย่างไรเขาเองก็ไม่มีทางเข้าสู่สภาวะผีดิบได้ในตอนนี้ ประกอบกับกระดูกที่แข็งแกร่งมากจนแม้แต่เล็บของเขาก็ฝากร่องรอยทิ้งไว้ไม่ได้ แล้วการอาศัยแค่ฟันของเขาจะเป็นไปได้หรือ

หญิงสาวมีเนื้อหนังห่อหุ้มอยู่บนแผ่นหลังไม่ถึงหนึ่งในสาม ส่วนที่เหลือก็เหลือเพียงกระดูกมานานแล้ว แต่ก็ยังมีเมือกสีขาวที่น่าคลื่นไส้หลงเหลืออยู่บนกระดูกอยู่ คล้ายกับตัวอย่างที่ถูกแช่เอาไว้ในสารฟอร์มาลีน

โจวเจ๋อกัดโครงกระดูกของอีกฝ่าย ครั้งนี้กัดลงไปไม่ยั้งแรงแม้แต่นิดเดียว และไม่กล้าออมแรงไว้ด้วย

‘กึกๆๆ…’

ฟันเสียดสีกับโครงกระดูกของอีกฝ่ายไม่หยุด โจวเจ๋อเจ็บปวดจนแสบจมูก และน้ำตาร่วงอาบลงมา

กัดไม่ลงเลยโว้ย เชี่ย! นี่มันวิธีผีห่าซาตานอะไรวะเนี่ย!

เป็นไปได้ไหมที่จะจับหญิงสาวโยนลงไปในหม้อเดือดๆ หรือไม่ก็เอาไปย่างแล้วผัดสักหน่อย แต่มันจะเป็นไปได้หรือ เขาใกล้จะควบคุมหญิงสาวคนนี้เอาไว้ไม่อยู่แล้ว หากปล่อยให้เธอหลุดออกมา คนที่จะโดนนึ่งหรือไม่ก็ตุ๋นคงเป็นเขาเองแล้ว เช่นเดียวกับที่หญิงสาวอุ้มเขาเข้าไปในห้องครัวทันทีที่เต้นระบำจบลง

ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่เธอน่าจะเป็นคนจุกจิกน่าดู ไม่ชอบกินของดิบธรรมดาๆ ชอบตื่นมาทำอาหารปรุงสุก

แต่ในวินาทีต่อมา เมื่อน้ำลายในปากของโจวเจ๋อหลั่งออกมาและสัมผัสโดนกระดูกของหญิงสาว ช่วงเวลาที่กำลังใจลอยนั้น โจวเจ๋อรู้สึกว่ากระดูกที่เขากัดลงไปคล้ายกับจะอ่อนนุ่มลงมาเล็กน้อย ฟันก็ดูเหมือนว่าจะกัดลงไปได้นิดหน่อยเช่นกัน

นี่เป็นความเข้าใจผิดหรือเปล่า

……………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล