ตอนที่ 322 รถเมล์มรณะ!
จริงๆ เลย คอจะหักแล้ว… ทนายอันรู้สึกว่าตัวเองน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอย่างมาก อุตส่าห์หวังดีช่วยจับวิญญาณร้ายทั้งสองให้พวกคุณ พวกคุณไม่ขอบใจผมก็ไม่เป็นไร ไม่รีบจีบวิญญาณร้ายลงนรกทำคะแนนก็ช่าง แต่คุณมาบีบคอผมทำไม ภรรยาของคุณสวยก็จริง แต่โรคขี้ระแวงของคุณมันโอเวอร์เกินไปไหม ภรรยาของคุณเนื้อหอมเหมือนเนื้อพระถังซัมจั๋งเหรอ มีแรงดึงดูดขนาดนี้เชียวเหรอ
‘กึก…’ ทนายอันพลิกฝ่ามือ เขาไม่กล้าปล่อยให้โจวเจ๋อบีบคอของตัวเองต่อ ถ้าหากอีกฝ่ายถือคติทำสิ่งใดแล้วต้องทำให้สุดลงมือหักคอเขาโดยตรง เขาคงจบเห่แล้วจริงๆ อยากจะทำตามอำเภอใจ ก็ไม่ควรทำตามอำเภอใจแบบนี้
โจวเจ๋อรู้สึกว่าแขนทั้งสองข้างของตัวเองโดนล็อก จากนั้นตามมาด้วยพลังมหาศาลอย่างหนึ่ง ทำให้ตัวเองสูญเสียจุดศูนย์ถ่วงภายในพริบตา ถูกอีกฝ่ายยกขึ้นมา นี่คือวิธีการรับมือที่เรียบง่ายตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก แต่กลับแสดงให้เห็นถึงกำลังและฝีมือในระดับที่สุดยอด วินาทีต่อมา โจวเจ๋อใช้มืออีกข้างหนึ่งจับลงไป เล็บสีดำเปล่งแสงที่แปลกประหลาดออกมา พรหมลิขิต พรหมลิขิตบ้านแกน่ะสิ!
ทนายอันขมวดคิ้ว รีบยกมือซ้ายของตัวเองขึ้น
‘เคร้ง!’ เหมือนมีดดาบกระทบกันเกิดเสียงดังแสบแก้วหูเป็นอย่างมาก และเวลานี้ลำโพงของไนต์คลับได้ส่งเสียงลากยาวที่แสบสะเทือนแก้วหูออกมา
โจวเจ๋อรู้สึกเจ็บที่ปลายนิ้วทั้งห้าของตัวเอง ทั้งตัวเขาถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว ทนายอันกลับมองรอยเลือดทั้งห้ากลางฝ่ามือตัวเองด้วยสีหน้าประหลาดใจ เขารู้สึกเหลือเชื่อ มือของเขามีความแข็งแกร่งมากขนาดไหนเขารู้ดี แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ยังโดนอีกฝ่ายกรีดจนเป็นแผลเหมือนเดิม
เวลานี้ผู้หญิงสองคนที่ถูกทนายอันจับเมื่อครู่อาศัยจังหวะนี้ลุกขึ้นเตรียมวิ่งหนี สาวน้อยโลลิยื่นมือคว้าไว้หนึ่งคน ส่วนโจวเจ๋อจับอีกคนที่กำลังจะวิ่งผ่านตัวเองไป
ทนายอันอาศัยช่องโหว่นี้ วิ่งออกทางประตูหลังอย่างไม่ลังเล แม้แต่ประโยคทิ้งท้ายก็ขี้เกียจจะพูด วิ่งหนีไปโดยตรง เถ้าแก่โจวกดตัวผู้หญิงคนนี้เอาไว้ ไม่ได้คิดที่จะไล่ตามไปอีก
ทั้งสองคนจับมาได้คนละหนึ่งคนแล้วจึงเดินออกจากไนต์คลับ โจวเจ๋อยังเฝ้าระวังเด็กหนุ่มที่ตัวเองซัดล้มเมื่อครู่เป็นพิเศษ แต่ตอนนี้กลับไม่เห็นเขาอยู่ที่เดิมแล้ว จึงวิ่งหนีด้วยความระมัดระวังตัวตลอดทาง แต่หลังจากที่ออกมาจากไนต์คลับแล้ว ยมทูตฉางโจวคนนั้นที่ใช้ชีวิตเป็นปลาเค็มยิ่งกว่าตัวเองไม่ได้โผล่หน้าออกมาเลย
นี่ทำให้โจวเจ๋อสบายใจแต่ก็รู้สึกสงสัยอยู่บ้าง ทำไมรู้สึกว่าผีที่เมืองทงเฉิงมีแต่พวกหัวแข็ง แต่ละคนคิดต่อต้านตัวเองทั้งนั้น แต่ผีในเมืองฉางโจวกลับมีแต่เชื่อฟัง
…
“ทำไมไม่ปล่อยให้ผมไล่ตาม!” เด็กหนุ่มยืนอยู่บนชั้นสอง นวดไหล่ที่เขียวช้ำของตัวเองพลางพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ
ผู้หญิงเหลือบตามองเขา แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “คุณตาบอดเหรอ อันปู้ฉี่ไอ้หมอนั่นยังไม่กล้าหาเรื่องซึ่งๆ หน้า โดนบีบคอก็ไม่ตอบโต้อย่างรุนแรง คุณยังอยากจะเดินหน้าสู้อีกเหรอ” เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างไม่ยอมสมัครใจ เขาเห็นฉากนั้นแล้ว
อย่ามองว่าอันปู้ฉี่ปกติเป็นทนายแต่งตัวเนี๊ยบคิดแต่เรื่องเงิน แต่หมอนั่นตอนนั้นก็ร้ายเหมือนกัน ถึงแม้จะพูดว่าเขาถูกยมโลกยึดตำแหน่งไปแล้ว แต่ไม่ตกต่ำถึงขั้นโดนดูถูกจากทุกคน
“อย่างนั้น เรื่องของไอ้หมอนี่ ต้องแจ้งเบื้องล่างไหม” เด็กหนุ่มถาม
หากเป็นหนังสายลับทั่วไป การรายงานข้อมูลต่อ ‘หัวหน้า’ โดยทั่วไปจะเรียกว่า ‘เบื้องบน’ แต่ในที่นี้พูดว่า ‘เบื้องล่าง’ ก็ไม่ผิดอะไร อย่างไรก็ตามหัวหน้าทั้งหลายก็อยู่ในนรก ถือว่าเป็นคนทำงานในนรก
“อย่าเพิ่ง รายงานพฤติกรรมของอันปู้ฉี่ก่อน พยายามพูดให้คลุมเครือเอาไว้อย่าเพิ่งชี้ชัด บอกข้างล่างว่า พวกเราจะพยายามยื้อให้เต็มที่”
“ยังต้องช่วยปิดบังอะไรให้เขาอีก เขาดูถูกพวกเราชัดๆ ยังไงก็ต้องบอกให้ข้างล่างได้รับรู้ หาวิธีใช้เส้นส่งคนมาจัดการเขา ไม่อย่างนั้น…”
“ปัญญาอ่อน ภารกิจที่เบื้องล่างส่งมอบให้พวกเราคือดึงเขามาเป็นพวกของเรา คุณอยากบอกข้างล่างว่าพวกเราไร้ความสามารถ นอกจากกินนอนรอความตายอย่างอื่นทำไม่เป็นใช่ไหม”
“โอเค ผมรู้แล้ว”
“นอกจากนี้ ไปสืบดูว่า ยมทูตสองคนนี้มาจากเขตแดนไหน แล้วหาวิธีสืบให้ชัดเจนว่าหลิวฉู่อวี่แรงงานตัวอย่างมีความสัมพันธ์อะไรกับพวกเขา”
“ผมเข้าใจแล้ว ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
…
“ดูอะไรเหรอ”
สาวน้อยโลลิถามโจวเจ๋อ จากนั้นเหมือนจะนึกอะไรออกจึงพูดว่า “กลัวพวกเขาไล่ตามมา”
โจวเจ๋อไม่ตอบ
“พวกเขาขี้เกียจทำงานเอง พวกเรามาช่วยเขาทำความสะอาด พวกเขาจะเอาเหตุผลอะไรมาหาเรื่องพวกเรา”
ถึงแม้ร่างกายจะเป็นสาวน้อยโลลิ แต่นับว่าเป็นยมทูตที่มีประสบการณ์เยอะพอสมควร ดังนั้นตอนที่สาวน้อยโลลิพูดสิ่งเหล่านี้จึงเปี่ยมไปด้วย ‘กลิ่นอายของคนที่เจนจัดในวงการ’ เหมือนกับถือมีดตะโกนว่าพวกเราหงซิ่งไม่กลัวตงซิงโว้ย ไม่ยอมก็ไปฆ่าพวกมัน!
ผู้หญิงทั้งสองคนถูกจับเดินไปข้างหน้าทีละคน แต่ยังคงดิ้นไม่หยุด เห็นได้ชัดว่า พวกเธอรู้ดีว่าหลังจากโดนจับไปแล้วจุดจบจะเป็นอย่างไร กลับไปนรกเท่ากับตายทั้งเป็น!
“ช่วยทำให้พวกเธอเงียบหน่อยได้ไหม” โจวเจ๋อถาม
พวกเขาจับพวกเธอเดินไปตามถนนแบบนี้ หากเจอชาวบ้านจิตใจดีคงจะโทรแจ้งตำรวจบอกว่ามีคนโดนจับไปขาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล