ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 340

ตอนที่ 340 ราบรื่นเหมือนในบทละคร

รถของทนายอันจอดอยู่บนถนนข้างปากทางสี่แยก ตัวเขาเองนั่งอยู่บนท้ายรถและคีบบุหรี่หนึ่งมวน เวลานี้แล้วยังพอมีรถวิ่งผ่านไปมาบนถนนอยู่เป็นครั้งคราว แต่โดยทั่วไปแล้วเงียบเชียบมาก

อย่าว่าแต่ดวงวิญญาณของเหล่าจางเลย แม้แต่แมวจรจัดสักตัวทนายอันก็ไม่เห็นด้วยซ้ำ

หลังจากเขี่ยบุหรี่ ทนายอันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาโจวเจ๋ออีกครั้ง ก่อนหน้านี้โทรไปตั้งหลายสายแต่ก็ขึ้นเตือนว่าไม่อยู่ในพื้นที่ให้บริการ ครั้งนี้ในที่สุดก็โทรติดสักที และห่างออกไปไม่ไกลก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น

ทนายอันเงยหน้าขึ้นมอง เห็นโจวเจ๋อก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่เขาจะทันบ่นว่าทำไมโจวเจ๋อถึงได้ช้าขนาดนี้ ก็เห็นหญิงสาวข้างหลังโจวเจ๋อ สีหน้าเขาหนักอึ้งทันที

โจวเจ๋อและหญิงสาวคนนั้นเดินเข้ามา โจวเจ๋อไม่ได้พูดอะไร หญิงสาวเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน

“จะทำก็ให้มันไวหน่อย อย่ามัวถ่วงเวลา”

ทนายอันมองโจวเจ๋อด้วยความสงสัยเล็กน้อย

โจวเจ๋อส่ายหน้าบอกเป็นนัยๆ ว่ายังไม่สะดวกอธิบายในตอนนี้

ทนายอันกวาดสายตามองหญิงสาวคนนั้นอีกครั้ง จากนั้นกระโดดลงจากท้ายรถแล้วก็เปิดมันออก ในนั้นมีศพของผู้ชายวัยกลางคนอยู่

“อักขระคาถาพิธีขนศพ” หญิงสาวมองลงไปที่ศพ รอยยิ้มผุดขึ้นมุมปาก

การเก็บรักษาศพสดๆ นั้นไม่ค่อยสะดวกเท่าไร แม้แต่การแช่แข็งง่ายๆ ก็ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด ถ้าจะพูดให้เข้าใจคือพิธีขนศพเป็นหลักการเดียวกันกับการขนส่งผลไม้และอาหารทะเลเหล่านั้น หากคุณขนส่งอาหารทะเลด้อยคุณภาพหรือผลไม้เน่าเสีย จะขายให้ใครล่ะ

ดังนั้นพิธีขนศพจึงมีวิธีรักษาศพของมันเอง ส่วนที่ฉลาดกว่านั้นก็คือ เป็นการใช้วิธีลับที่รับประกันได้ว่าจะรักษาศพจะให้คงอยู่ในสภาพที่สามารถถูกสั่งการขับเคลื่อนได้ตลอดเวลา

โดยธรรมชาติแล้วก็คือสภาวะที่ร่างพร้อมถูกสิงได้ทุกเมื่อ ทนายอันทำอาชีพนี้มาหลายปีแล้ว ช่องทางและลู่ทางข้างในเป็นธรรมดาที่เข้าใจทะลุปรุโปร่ง

โจวเจ๋อนำดวงวิญญาณของเหล่าจางออกมา หญิงสาวที่อยู่ข้างหลังเลียริมฝีปากแผล็บๆ คล้ายกับว่าน้ำลายไหล แม้ว่าจะกินไปแล้วถึงสามดวง แต่นางก็ยังไม่อิ่ม

ต่อมา โจวเจ๋อใช้เล็บของตัวเองควบคุมดวงวิญญาณของเหล่าจางเข้าไปในศพนั้น

ดวงวิญญาณของเหล่าจางแสดงให้เห็นถึงการปฏิกิริยาตอบสนองต่อการขับไล่อย่างชัดเจน ไม่สามารถผสานเข้าไปได้เลย แต่ตอนนี้ระยะเวลาที่เหล่าจางเสียชีวิตและออกจากร่างนั้นผ่านมานานพอสมควรแล้ว หากยังยืดเยื้อต่อไปอีก ถ้าโจวเจ๋อไม่ปล่อยลงนรกไป วิญญาณก็ต้องสูญสลายไป

โจวเจ๋อแข็งใจ ตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จับกดวิญญาณนั้นเข้าไป วิญญาณทำได้เพียงแค่เข้าไปเท่านั้น แต่ยังคงวิ่งวนอยู่ในร่าง เมื่อขาดการควบคุมของโจวเจ๋อแล้ว อาจจะหลุดออกมาได้ทุกเมื่อ

“เล็บเจ้านี่ น่าสนใจดีนะ” หญิงสาวมองเล็บของโจวเจ๋อ เผยสีหน้าขบคิดเล็กน้อย

โจวเจ๋อไม่สนใจหญิงสาว แต่มองไปทางทนายอันและถามขึ้น

“ทำยังไงดี”

ผสานไม่สำเร็จ ยืมซากศพคืนชีพไม่สำเร็จ ทำยังไงดี

ทนายอันชะงักไปครู่หนึ่ง ผมจะไปรู้เหรอว่าต้องทำยังไงน่ะ ในเรื่องไม่ได้บอกว่าเขาจะลอยมาเข้าร่างและยืมซากศพคืนชีพฟื้นคืนมาหรอกเหรอ ตอนนี้คุณจับวิญญาณของเขามา จังหวะผิดพลาดแตกต่างจากในเรื่องไปหมด

ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้วิญญาณที่ทนายอันรับมาทั้งหมดล้วนเป็นวิญญาณร้ายผ่านการถูกทรมานในนรกมาแล้วทั้งนั้น ความแข็งแกร่งของวิญญาณและคุณสมบัติเดิมของวิญญาณพวกเขาจะเอามาเทียบกับวิญญาณธรรมดาที่เพิ่งตายไม่ได้ หากวิญญาณธรรมดาทุกดวงสามารถยืมซากศพคืนชีพได้ โลกนี้คงวุ่นวายไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ

“น่ารำคาญจริงๆ”

หญิงสาวยื่นมือออกมาประทับเครื่องหมายบนหน้าอกของศพ ตราประทับสีแดงสดทิ้งรอยเอาไว้ตรงหน้าอกทันที ในที่สุดวิญญาณที่เดิมทีวิ่งวุ่นไปทั่วก็สงบลงราวกับอยู่ในห้วงนิทรา

“หนังสือรับรองยมทูตล่ะ” หญิงสาวถาม

“หืม” โจวเจ๋อชะงักไปครู่หนึ่ง

“พลังวิญญาณของเขาอ่อนแอเกินไป ต้องการหนังสือรับรองยมทูตมาระงับไว้ อย่าบอกข้านะว่าพวกเจ้าคิดลักลอบนำเขายักยอกออกมาน่ะ สรุปแล้วแม้แต่หนังสือรับรองยมทูตก็ไม่ได้เตรียมไว้เหรอ งั้นก็หมดหนทางแล้วละ”

“มี มีสิ”

ทนายอันหยิบหนังสือรับรองยมทูตออกมา โจวเจ๋อมอบมันให้เขาไว้เมื่อตอนกลางวันน่ะ

จากนั้น ทนายอันใช้นิ้วชี้ของตัวเองจิ้มไปที่ระหว่างคิ้วของศพ นำเลือดสีดำหนึ่งหยดออกมา นี่คือเลือดวิญญาณ ไม่ใช่เลือดของศพ แต่ทว่าเลือดสีดำนี้ดูเหมือนจะร่วนเป็นพิเศษ มันหมายความว่าวิญญาณในร่างนี้ตอนนี้อ่อนแรงมากทีเดียว

ทนายอันนำเลือดหยดลงบนหนังสือรับรองยมทูต และเอาหนังสือรับรองยมทูตใส่ไว้ในมือศพปล่อยให้ถือมันเอาไว้อย่างนั้น จากนั้นถอยหลังไปสองสามก้าว ทนายอันพยักหน้าให้โจวเจ๋อ

“ถ้าผนึกของนางได้ผลละก็ รอผ่านไปสักพัก เขาก็น่าจะฟื้นขึ้นมาเองได้”

“เอาละ งั้นคุณขับรถกลับไปเถอะ พาเขากลับไปด้วย ห้องชั้นสองในร้านหนังสือมีไม่เยอะแล้ว ระยะนี้คุณก็อยู่ห้องเดียวกับเขาไปก่อน จะได้รับผิดชอบดูแลเขาด้วยพอดีเลย” โจวเจ๋อพูด

“…” ทนายอัน

“ไปได้หรือยัง” หญิงสาวถาม

“พวกคุณจะไปที่ไหนกัน” ทนายอันถาม

“ไปจัดการเรื่องเป็นเพื่อนนางน่ะ นางลงมาจากบนสะพานไน่เหอ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล