ตอนที่ 341 เรื่องจริงหรือเท็จ
ตีสี่กว่าแล้ว ใกล้จะถึงเวลาปิดร้านหนังสือแล้ว สาวน้อยโลลินั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ เปิดอ่านหนังสือการ์ตูนในมือไปตามอารมณ์
กิจการซบเซา นั่งเหี่ยวแห้งทั้งคืน ไม่เห็นดวงวิญญาณเลยสักดวง เดิมทีอยากจะใช้ประโยชน์ที่โจวเจ๋อกลับบ้านดึกดื่นในคืนนี้แอบหารายได้พิเศษสักหน่อย ดูท่าจะหลุดมือไปเสียแล้ว
นักพรตเฒ่าพาเจ้าลิงไปพักผ่อนแล้ว ส่วนเดดพูลหลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้วก็กลับไปห้องของตัวเอง แต่ไป๋อิงอิงกลับยังนั่งอยู่บนโซฟาต่อ เล่นเกมในโทรศัพท์มือถือสลับกับมองออกไปนอกประตูเป็นระยะๆ จนป่านนี้แล้ว เถ้าแก่ยังไม่กลับมา อิงอิงเป็นห่วงนิดหน่อย
“นี่ ยัยผีดิบโง่ เราขึ้นไปนอนกันเถอะ!” สาวน้อยโลลิตะโกนบอกไป๋อิงอิง
ไป๋อิงอิงส่ายหน้าและพูดอย่างหนักแน่นว่า “เถ้าแก่ยังไม่กลับมาเลย จะมานงมานอนอะไร”
สาวน้อยโลลิส่ายหัวด้วยความกลุ้มใจเล็กน้อยพลางเอ่ยว่า “เขาไม่กลับมา แต่ข้าอยากนอนนี่นา”
“ข้ายอมให้เถ้าแก่นอนด้วยคนเดียวเท่านั้นย่ะ”
สาวน้อยโลลิยกมือขึ้นราวกับยอมแพ้แล้ว ก็ได้ๆๆ ข้ารู้แล้ว สาวน้อยโลลิทำได้เพียงงีบหลับ
สาวน้อยโลลิกระโดดลงจากเก้าอี้และบิดขี้เกียจ เวลานี้นางเพิ่งเห็นอะไรบางอย่างแปะอยู่ที่ประตูกระจกเลยเข้าไปดูใกล้ๆ มันเป็นโปสเตอร์แผ่นใหญ่ บนโปสเตอร์มีคิวอาร์โค้ด และยังมีผู้ชายคนหนึ่งชูโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วแสร้งทำเป็นตกใจระคนดีใจอยู่ด้วย
‘บริหารการเงินอย่างมืออาชีพ มั่นคงปลอดภัย อัตราดอกเบี้ยดี อยากบริหารการเงิน เพียงเลือกแอปการเงิน ‘จีกงเป่า’!’
“เฮ้ นี่ใครเป็นคนแปะไว้น่ะ” สาวน้อยโลลิถามไป๋อิงอิง
“นักพรตเฒ่าน่ะ เห็นบอกว่าตอนกลางวันมีคนขอให้ช่วยโฆษณา จะให้ค่าโฆษณาสามพันหยวน ให้แปะโปสเตอร์นี้ที่ประตูหน้าร้านเราเป็นเวลาหนึ่งเดือน โอนเงินเข้าบัญชีกลางแล้วเรียบร้อย” ไป๋อิงอิงตอบ
“แอปการเงินจีกงเป่าเหรอ” สาวน้อยโลลิเดาะปากเบาๆ “ในปีนี้ มีแอปเป่าโน่นเป่านี่ออกมาเยอะแยะเลยเนอะ เฉียนเป่า วาเป่า ตอนนี้ยังมีจีกงเป่าอีก ข้าเริ่มหิวบ้างแล้ว จริงสิ พรุ่งนี้ให้เหล่าสวี่ผัดจีกงเปา[1]กินกันไหม”
ไป๋อิงอิงกลอกตามองบน
“ฉีกโปสเตอร์นี้ทิ้งไปเถอะ แปะเจ้านี่น่ะ น่าขายหน้าชะมัด” สาวน้อยโลลิเอื้อมมือไปฉีกโปสเตอร์ออก
“เขาจะมาตรวจดูพรุ่งนี้ ถ้าฉีกออกละก็พรุ่งนี้ต้องคืนเงินให้เขานะ” ไป๋อิงอิงเตือน
“คืนก็คืนไปสิ ถึงยังไงเถ้าแก่ก็จนอยู่แล้ว จะจนกว่านี้อีกหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก”
“ตามใจ”
พูดตามตรง ไป๋อิงอิงก็ไม่ได้สนใจเรื่องเงินสามพันหยวนนี้มากนัก สถานภาพของร้านหนังสือน่าแปลกมาก พนักงานแต่ละคนรวยเอาๆ ที่จนที่สุดกลับเป็นเถ้าแก่เสียอย่างนั้น
‘แควก!’
สาวน้อยโลลิฉีกโปสเตอร์ออกและขยำเป็นก้อน
“คิดถึงวันวานที่เคยทำธุรกิจจังเลย”
“เจ้าเคยทำอย่างนี้มาก่อนเหรอ” ไป๋อิงอิงถามด้วยความสงสัย
“ยัยผีดิบโง่ เมื่อก่อนข้าเป็นถึงหญิงแกร่งในโลกธุรกิจเลยนะ กลยุทธ์ธุรกิจแบบไหนบ้างที่ไม่เคยเจอน่ะ ความจริงไอ้นี่น่ะ มันนับว่าเป็นอะไรที่ระดับล่างมากๆ เลย”
“หืม”
ไป๋อิงอิงเริ่มสนใจ นางมีเงิน นางมีเงินก็ตั้งมาก แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้ของนางคือ นอกเหนือจากการซื้อบ้านแล้ว ไป๋อิงอิงก็ไม่รู้จะบริหารการเงินอย่างไร ข้าวของในหลุมศพเหล่านั้นมันเป็นของตาย พูดตามตรงไป๋อิงอิงเฉยๆ กับพวกมัน สู้เปลี่ยนเป็นเงินดีกว่า จากนั้นก็ใช้เงินต่อเงิน
เพราะว่าเถ้าแก่ชอบเงิน ดังนั้นไป๋อิงอิงจึงรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าเงินคือสิ่งที่ดีมาก ถึงนางจะไม่ได้กินได้ดื่มเลยก็ไม่เป็นไร
“เมื่อก่อนข้าเคยทำสิ่งที่ดีให้มันแย่ลง เปลี่ยนบริษัทที่ฉากหน้ามีผลงานและศักยภาพที่ดีรวมถึงมีโอกาสพัฒนาก้าวหน้าที่แข็งแกร่งแห่งหนึ่งให้กลายเป็นบริษัทที่ก่อหนี้เสียจำนวนมากและมีอนาคตอันมืดมน หากไม่ปรับโครงสร้างใหม่ก็คือองค์กรกากๆ ของปลิงดูดเลือดดีๆ นี่เอง
ยังไงก็ตามมันก็คือการวิพากวิจารณ์ของมวลชนและสื่อโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ นานา ทำสิ่งที่คล้ายกับว่าใช่ แต่ความจริงมันไม่ใช่ แล้วเติมเชื้อไฟอีกหน่อย อย่างเช่น การสมรู้ร่วมคิดระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับนักธุรกิจอะไรประมาณนี้”
“พูดให้เจาะจงหน่อย”
“พูดไปเจ้าก็ไม่เข้าใจ”
“พูดมาเถอะ ไม่งั้นอย่าคิดว่าจะได้นอนกับข้าอีก”
“…” สาวน้อยโลลิ
“สมมติกก็แล้วกัน เช่น การนำเพชรเม็ดหนึ่งมาโฆษณาชวนเชื่อให้กลายเป็นหินในส้วม จนกว่าคนที่ร่วมก่อส้วมขึ้นมาด้วยกันในตอนแรกจะรู้สึกว่านี่มันคือขยะและขายมันให้ข้าในราคาถูก แล้วคนเหล่านั้นยังต้องรู้สึกขอบคุณข้าด้วย
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เพชรยังไงก็คือเพชร เช็ดล้างคราบสกปรกบนผิวออกก็ยังเป็นเพชร ที่ข้าทำมากที่สุดในตอนแรกก็คือซื้อเพชรคืนในราคาที่ใช้ซื้อหิน เวลานั้นคนที่ทำแบบนี้มีเยอะมาก โดยทั่วไปแล้วทุกคนต่างก็ใช้ลูกไม้นี้กันทั้งนั้น ส่วนรัฐวิสาหกิจที่กากจริงๆ พวกนั้น โดนลาถีบสมองส่วนไหนถึงไปซื้อมันมาได้”
“โอ้…” ไป๋อิงอิงพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่
“นี่มันเป็นงานระดับสูง เพราะมันมีอะไรอยู่ที่นี่ เจ้าต้องมีกลอุบายและวิธีการมากมายในการดำเนินการ แต่อย่างจีกงเป่านี่ถือเป็นงานในระดับล่างสุดแล้ว เพราะพื้นฐานแล้วมันไม่ใช้อะไรเลย มันจะคุยโวโอ้อวดกับเจ้า ว่ามันจะใช้เงินของทุกคนไปลงทุนบริษัทอะไร ทำอุตสาหกรรมด้านไหนบ้าง ลงทุนทำทีมฟุตบอลทีมไหน แล้วจะมีเงินปันผลให้กับทุกคนและจะให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าธนาคารหลายเท่าตัว ดังนั้นขอให้ทุกคนวางใจแล้วส่งเงินมาให้เราเถอะ”
“โอ้…”
“อันที่จริงมันคล้ายกับแชร์ลูกโซ่ ทันทีที่เจอกับสถานการณ์แย่งกันถอนเงินคืนก็จะจบเห่เมื่อนั้น อาจจะมีคนทำเงินได้ตอนก่อนหน้า แต่เงินที่ทำได้มันเป็นเพียงเงินของผู้ลงทุนชุดสุดท้ายก็เท่านั้น”
“นี่มันไม่โง่หรอกเหรอ”
“มีคนโง่จริงๆ ไม่กี่คน ส่วนใหญ่แค่แสร้งทำเป็นโง่”
สาวน้อยโลลิบิดขี้เกียจ
“สิ่งสำคัญเลยก็ยังต้องดูว่าเจ้าจะจัดแจงอย่างไร ของที่ไม่มีอยู่จริง ของปลอม หากเจ้าพยายามคุยโวโอ้อวดอย่างหนัก ‘จัดพิมพ์ชีวประวัติ’ ให้เขาอย่างต่อเนื่อง เขาก็จะกลายเป็นของจริงขึ้นมา ส่วนจะมีเขาคนนี้หรือไม่นั้น ใครสนกัน ขอแค่ทุกคนต่างเชื่อว่าบุคคลนี้มีอยู่จริงก็เพียงพอแล้ว สำหรับที่ว่าบุคคลนี้มีอยู่จริงหรือไม่นั้น ไม่มีใครสนใจจริงๆ หรอก”
“ลึกซึ้งไปหน่อย” ไป๋อิงอิงเท้าคางพลางครุ่นคิด
“เอาละ เราไปนอนกันเถอะ” สาวน้อยโลลิพูด “รอโจวเจ๋อกลับมาแล้วปล่อยให้เขาอาบน้ำอาบท่าแล้วมุดเข้ามานอนบนเตียงของเราเองก็พอแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล