สรุปเนื้อหา ตอนที่ 349 ยอมรับเจ้านาย! – ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet
บท ตอนที่ 349 ยอมรับเจ้านาย! ของ ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 349 ยอมรับเจ้านาย!
คู่ชายหญิงกดทับเขาเอาไว้และควบคุมวิญญาณของเขา ทำให้ร่างของเขาตกอยู่ในสภาพแข็งทื่อกระดิกไม่ได้ แต่ในใจเถ้าแก่โจวไม่รู้สึกตื่นตระหนกและสับสนเลยสักนิด
ไม่ใช่เพราะเถ้าแก่โจวแข็งแกร่งและใจเด็ด ไม่ยอมศิโรราบยอมตายดีกว่ายอมแพ้ แต่เป็นเพราะเขาดูออกว่าปากกาด้ามนี้ลึกลับจริงๆ ลึกลับจนเจ้าจิตสำนึกในร่างเขาไม่ยอมละทิ้งพยายามต่อต้านเขาเพื่อเอามันมาอย่างไม่ลังเล
แต่เจ้าสัตว์ร้ายมันจะล่อลวงได้สักเท่าไรกันเชียว
มันฆ่าเขาตรงๆ ไม่ได้ ทำได้ผ่านการหลอกล่อและสะกดจิตเขาเท่านั้น หากเขาติดกับ เมื่อถึงเวลานั้น คนจะมีปากกาในครอบครองหรือปากกาจะครอบครองคนกันแน่ มันก็บอกได้ยากแล้วจริงๆ
สรุปได้ว่า เมื่อเทียบกับการทำลายศัตรูทางกายเนื้อแล้ว วิธีการเอาชนะศัตรูทางจิตใจแบบนี้ เถ้าแก่โจวยังพอรับได้มากกว่าอีก
จู่ๆ ปลายปากกาก็เริ่มสั่นไหวขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ แม้แต่ชายหนุ่มและหญิงสาวที่กดตัวโจวเจ๋อไว้ ก็พากันสั่นเทิ้มไปด้วย
ก่อนหน้านี้พวกเขายังตะโกนคำฮิตติดปาก ‘ให้ยอมจำนน’ อยู่เลย ตอนนี้คำฮิตติดปากดูเหมือนแผ่นเสียงสะดุด เล่นเสียงสั่นซ้ำๆ จนกลายเป็นเหมือนผีเฮี้ยนสุดหลอน
ดูเหมือนปากกาด้ามนี้จะถูกกระตุ้นบางอย่าง ทั้งที่ก่อนหน้านี้มันกำลังกระตุ้นโจวเจ๋ออยู่ชัดๆ แต่ตอนนี้กลับดูเหมือนว่าปากกาด้ามนี้จะฮึกเหิมยิ่งกว่า
ปลายปากกาสั่นไหวไม่หยุด ตรงปลายปากกามีหมึกสีแดงคล้ายสีเลือดสดๆ หยดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มค่อยๆ แผ่ขยายไปจนทั่วหน้าอกของโจวเจ๋อ
น้ำหมึกสีแดงร้อนมาก และคล้ายกับแมลงตัวจิ๋วเล็กๆ พวกมันเริ่มแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายโจวเจ๋ออย่างรู้งาน
“ซี้ด…” โจวเจ๋อสูดปากด้วยความเจ็บปวด
บทมันผิดนี่นา ไม่ได้บอกว่ามันจะต้องโจมตีที่จิตใจฉันหรอกเหรอ ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นกายหยาบอีกล่ะ
การเปลี่ยนแปลงจังหวะทั้งหมดเริ่มต้นจากคำว่า ‘เจ้างั่ง’ ของโจวเจ๋อ สามารถบอกได้ว่า ก่อนและหลังที่โจวเจ๋อตะโกนสองคำนี้ออกมา มันมีจุดแบ่งที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เสียงเชียร์หายไปแล้ว ชายหญิงคู่นั้นก็หายไปด้วยเช่นกัน แต่ตอนนี้เถ้าแก่โจวรู้สึกทรมานมากกว่าก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่เท่า ทั้งๆ ที่หลุดจากพันธนาการได้แล้ว ทั้งๆ ที่ไร้การควบคุมแล้ว แต่บนตัวกลับรู้สึกราวกับมีมดนับพันนับหมื่นตัวกำลังรุมกัดกินและไต่กระจายมั่วซั่วเต็มไปหมด แทบอดไม่ได้ที่จะให้คนฉีกทึ้งเลือดเนื้อของตัวเองออกมา จากนั้นฉีดยาฆ่าแมลงเข้าไปข้างในอย่างโหดเหี้ยม
‘อ๊ากกก!!!’
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดที่เก็บกดไว้ดังออกมาจากในลำคอ โจวเจ๋อนอนอยู่บนพื้น แขนขาบิดพล่านไปมาไม่หยุด หลายต่อหลายครั้งที่เขาเกือบจะทนไม่ไหวอยากใช้เล็บของเขาขุดบริเวณที่กลายเป็นสีแดงก่ำบนตัวเขาเองทิ้งไปเลย
แต่เขาก็ยังลังเลเล็กน้อย และด้วยความลังเลเพียงชั่วครู่นี้ โจวเจ๋อจึงพลาดโอกาส ‘ตัดเนื้อร้ายทิ้ง’ ไป
เพราะการลุกลามที่รวดเร็วของหมึกสีแดงนี้ มันน่าทึ่งมากจนเกินไปจริงๆ ถ้าหากทำการตัดเนื้อร้ายทิ้งไปตั้งแต่แรกละก็ ตอนนี้ก็ขูดกระดูกรักษาพิษไปแล้ว
แม้กระทั่งตำแหน่งใต้คางของโจวเจ๋อลงไปต่างก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมึกสีแดงทั้งหมด
ความรู้สึกหายใจไม่ออกรุนแรงเสียจนโจวเจ๋อบีบคอของตัวเองไว้
มันทรมานมาก ถ้าหากมีเชือกรัดคอเขา เขายังรู้ว่าต้องใช้มือทั้งสองข้างต้านเอาไว้ แต่บัดนี้แรงที่บีบรัดเขามันดันอยู่ใต้ผิวหนังของเขา นี่จะให้เขาทำยังไง
หมึกสีแดงยังคงลุกลามไปอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ใบหน้าของโจวเจ๋อก็เริ่มแดงก่ำคล้ายกับนักแสดงงิ้วปักกิ่งบนเวทีที่แต่งหน้าจัด จนท้ายที่สุดแม้แต่นัยน์ตาของโจวเจ๋อก็ถูกย้อมไปด้วยหมึกสีแดง ในตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นสีเลือดอย่างสมบูรณ์จนการมองเห็นเริ่มพร่ามัว
…
วืด!
วืด!
วืด!
เสียงดังสั่นสะเทือนสามครั้ง โจวเจ๋อเงยหน้าขึ้นและพบว่าตัวเองอยู่ในสระน้ำ ในสระน้ำมีกลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนแสบจมูก บริเวณรอบสระน้ำ มีเตาย่างวางเรียงรายเป็นแถวๆ และอาหารเลิศรสหลากหลายชนิดกำลังย่างและพลิกกลับด้านอยู่บนนั้น
มีหญิงสาวกลุ่มหนึ่งกำลังร่ายรำอย่างอ่อนช้อยน่าหลงใหลอยู่ไกลๆ และในจุดที่ห่างออกไปไม่ไกลมีสาวงามรุมตอมใช้ริมฝีปากแดงเป็นแก้วเหล้า รับเหล้าข้ามแดนมา
นี่มันคือสระสุราป่าเนื้อที่มีชีวิต!
นี่มันเล่นบ้าอะไรกัน เดี๋ยวก็จิตใจ เดี๋ยวก็กายเนื้อ จากนั้นก็มาที่จิตใจอีกแล้ว
แกตั้งใจหน่อยจะได้ไหมเล่า
เถ้าแก่โจวเจ๋อนั่งอยู่ในสระ เผชิญหน้ากับสาวงาม เผชิญหน้ากับเหล้ายาปลาปิ้งที่อยู่รอบๆ โดยที่เขาไม่สนใจไยดี นั่งอยู่ในนั้นอย่างไม่สะทกสะท้าน
ความงามคือยาพิษสำหรับผู้ชาย ดังคำโบราณที่กล่าวไว้ว่า วีรบุรุษยากที่จะผ่านด่านสาวงาม ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการจะตัดสินความหนักแน่นชัดเจนของผู้ชายหนึ่งคน มันอยู่ที่ว่าเขามีภูมิต้านทานต่อความงามมากน้อยแค่ไหน
เมื่อพูดถึงความสามารถด้านการต้านทานสาวงาม เถ้าแก่โจวเจ๋อเป็นผู้ที่เหนือกว่าใครในนั้น ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่อหน้าโจวเจ๋อแล้วต่างเป็น…
ย้อนกลับไปตอนนั้น จิ้งจอกขาวเคยพยายามใช้วิธีนี้ยั่วยวนเถ้าแก่โจว แต่เถ้าแก่โจวยังคงเฉยเมยไม่ใส่ใจเช่นเดิม ทำให้จิ้งจอกขาวตื่นตะลึงว่ามีเพียงเทพเซียนเท่านั้นที่ทำแบบนี้ได้!
ตอนนี้สิ่งเหล่านี้ต่างเป็นเพียงละอองฝนเท่านั้น
ราวกับสังเกตเห็นว่าฉากนี้ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับโจวเจ๋อได้ ดังนั้นจึงเริ่มเปลี่ยนฉากทันที
ในชั่วพริบตาโจวเจ๋อยืนอยู่บนศาลาสูงตระหง่าน ข้างหลังของเขามีกลุ่มบุรุษและสตรีสวมใส่ชุดโบราณคุกเข่าอยู่ ส่วนด้านล่างมีทหารจำนวนมากและพลชุดเกราะอีกนับไม่ถ้วนกำลังส่งเสียงโห่ร้องพร้อมเพรียงกัน
โจวเจ๋อยกมือขึ้น เสียงด้านล่างหายไปทันที ทั้งเคร่งขรึมและเงียบกริบ
โจวเจ๋อโบกมือสะบัดอีกครั้ง เสียงโห่ร้องเริ่มดังกระหึ่มอีกครั้ง!
โจวเจ๋อยกมือขึ้น พลันเงียบลงอีกครั้ง
โจวเจ๋อโบกมืออีกครั้ง เสียงโห่ร้องดังขึ้นทันที
“น่าเบื่อ” โจวเจ๋อกลอกตา ขณะเดียวกันก็เงยหน้าขึ้นมองฟ้าและเอ่ยเร่ง “เปลี่ยนช่องเถอะ”
ชั่วขณะหนึ่ง รูปแบบเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน
บริเวณรอบๆ ล้อมรอบไปด้วยหินลาวา ควันดำหนาทึบตลบอบอวลปกคลุมไปทั่ว อากาศร้อนอบอ้าวทำให้คนหายใจไม่ออก
บ้าเอ๊ย ฉากนี้ทำให้โจวเจ๋อใจเต้นแรงจริงๆ!
แต่เวลาดีๆ มักอยู่ได้ไม่นาน ฉากเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่ได้เปลี่ยนไป แต่กลับแตกร้าว!
“เฮ้ ให้ฉันสนุกกับมันต่ออีกหน่อยสิ”
โจวเจ๋อยังอยากดูต่ออยู่เลย ปากกาด้ามนั้นเพิ่งจะจับจุดอ่อนเขาได้ชัดๆ ทำไมถึงยอมแพ้แล้วละ
ระหว่างที่ใจลอยอยู่นั้น โจวเจ๋อเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ พบว่าเขากำลังนอนอยู่บนเรือใบ ส่วนเบื้องล่างเป็นทะเลสีดำที่คลื่นซัดสาด แผ่กระจายลมหายใจแห่งความตายออกมาอย่างรุนแรง
ท่ามกลางอากาศไกลออกไป มีพู่กันลอยอยู่ตรงนั้น คลื่นทะเลซัดสาดถาโถมตลอดเวลา ราวกับว่าหากมีคลื่นลูกใหญ่กว่านี้อีกหน่อยก็สามารถพลิกเรือเขาให้คว่ำได้
“ทำไมถึงเลือกเขา”
เสียงสนั่นจากเบื้องล่างดังขึ้นมา ชั่วขณะหนึ่ง เริ่มเกิดฟ้าแลบฟ้าร้องสะเทือนลั่นอยู่เหนือทะเล เรือใบที่น่าสงสารของเถ้าแก่โจวกำลังตกอยู่ในอันตรายจริงๆ
ตอนนี้โจวเจ๋อเห็นชัดแล้วว่าข้างล่างนี้มันไม่ใช่ทะเลแต่อย่างใด แต่เป็นใบหน้าคน มันเป็นใบหน้าที่เหมือนเขาเปี๊ยบ มันนอนอยู่ใต้ผิวน้ำทะเล เมื่อเทียบกับมันแล้วตัวเขาดูเล็กไปถนัดตาเลย
นี่มันทะเลแห่งความตาย! ใบหน้าขนาดใหญ่ยักษ์ด้านล่างคือเจ้าจิตสำนึกในร่างของเขา
ท่าทางต๊อกต๋อยยากจนข้นแค้น ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย และระยะห่างที่น่ากลัวของตำแหน่งและฐานะ โจวเจ๋อสูดหายใจเข้าลึก จนถึงตอนนี้โจวเจ๋อถึงสัมผัสได้ว่าความยากจนอย่างแท้จริงคืออะไร
ความยากจนประเภทนี้เอามาเทียบกับความแตกต่างระหว่างเขากับไป๋อิงอิง สวี่ชิงหล่าง และคนอื่นๆ ไม่ได้ มันเป็นความยากจนที่อยู่เหนือระดับความมั่งคั่ง
พู่กันร่ายรำในอากาศ พุ่งทะลวงผ่านสิ่งกีดขวาง และเหาะไปหาโจวเจ๋อ มันไม่สนใจเจ้านั่นที่อยู่ข้างล่างเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมกัน! มีสิทธิ์อะไร!”
ผิวน้ำทะเลเริ่มแผดเสียงก้องและเริ่มคำราม!
มันต่างหากที่เป็นตัวจริง มันต่างหากที่เป็นอิ๋งโกวตัวจริง!
แต่เรือลำเล็กนี้ (เสี่ยวโจว) เป็นเพียงเศษเสี้ยวจิตสำนึกที่เกิดขึ้นมาจากร่างกายของมันระหว่างที่นอนหลับใหลอย่างยาวนานเท่านั้น!
ในที่สุดพู่กันก็เหาะไปอยู่ในมือโจวเจ๋อ ถูไถเบาๆ คล้ายกับพยายามประจบประแจงโจวเจ๋อ
จู่ๆ โจวเจ๋อก็พบว่ามีอักขระตราประทับอันทรงพลังสลักอยู่ตรงปลายพู่กัน
‘งั่ง!’
โจวเจ๋อตะลึงงัน
ให้ตายเหอะ แกชื่อเจ้างั่งจริงๆ เหรอเนี่ย
……………………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล