ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 353

ตอนที่ 353 กลายพันธุ์

หลังเที่ยงคืน ร้านหนังสือมีลูกค้าเข้ามา เป็นวิญญาณของหญิงสูงอายุคนหนึ่ง

นักพรตเฒ่ารับหน้าที่ช่วยเป็นสื่อด้านอารมณ์และที่ปรึกษาทางด้านจิตใจ สวี่ชิงหล่างไปเตรียมอาหารจานเย็นและเหล้าเหลือง โจวเจ๋อเตรียมทำผลงานส่งคนเดินทางไปยังนรก

ส่วนเดดพูลที่นั่งอยู่หน้าประตู หันหน้าออกไปข้างนอกสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้นช้าๆ เขาหันหน้าเข้ามาดูทุกคนที่กำลังทำงานยุ่งอยู่ในร้านหนังสือก่อน จากนั้นจึงเดินออกไปข้างนอก

เดดพูลออกนอกบ้านน้อยมาก สำหรับเขาออกหรือไม่ออกจากบ้านไม่มีความหมายอะไรมากเท่าไร แต่ถึงแม้ครั้งนี้เขาจะออกจากบ้าน แต่ก็ไม่ได้ไปไหนไกล เขาไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

เขาใช้มือข้างหนึ่งยันกำแพง เดินขึ้นไปช้าๆ พร้อมกับจมูกที่ดมฟุดฟิดไม่หยุด เหมือนจะมึนงงและเคลิบเคลิ้มนิดๆ และต้องขอบคุณร้านหนังสือเขาถึงได้ใส่เสื้อผ้าที่ปกติ ดังนั้นถึงแม้ท่าทางเวลาเดินขึ้นบันไดจะเชื่องช้า แต่คนที่เดินผ่านไปมาก็ไม่รู้สึกว่าผิดปกติอะไร อย่างน้อยคงจะแซวหนึ่งประโยคว่าป่วยก็ยังมาเล่นอินเทอร์เน็ต กำลังใจดีจริงๆ

เดดพูลไม่ได้หยุดอยู่ที่ชั้นสอง แต่มุ่งไปที่ชั้นสามโดยตรง ประตูชั้นสามถูกล็อกอยู่ ด้านล่างเป็นโซนบริการอินเทอร์เน็ต แต่ตรงนี้เป็นบริเวณที่เอาไว้พักผ่อน

เดดพูลโน้มตัวใช้ตามองผ่านรูกุญแจอย่างไร้เดียงสา แน่นอนว่าเขาไม่เห็นอะไรเลย แต่เขาพยายามใช้จมูกของตัวเองดมกลิ่นจากช่องประตู อ้าปาก เลียลิ้น เขาอยากเปิดประตู แต่ประตูบานนี้เป็นประตูกันขโมยคุณภาพสูง และเขาก็ไม่มีเล็บที่เหมาะสมกับการเป็นขโมยเหมือนเถ้าแก่ของตัวเอง หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เขาไม่เลือกที่จะย้อนกลับทางเดิม แต่คลานออกจากหน้าต่างระบายอากาศตรงมุมของบันได

ดึกมากแล้ว บนถนนไม่มีคนเดินพลุกพล่านแล้ว เขาจึงคลานบนกำแพงเหมือนจิ้งจก ถึงแม้จะช้ามาก แต่กลับมั่นคง เขาคลานมาถึงหน้าต่าง หน้าต่างไม่ได้ล็อกยังคงเปิดอยู่

หลังจากเข้าไปทางหน้าต่างแล้ว เดดพูลทำจมูกฟุดฟิดอีกครั้ง จากนั้นน้ำลายจึงเริ่มหยดติ๋ง เขาเปิดผ้าม่าน มองเห็นแมลงพิษต่างๆ เลื้อยคลานอยู่ในโถและขวดแก้วแน่นเต็มไปหมด

เดดพูลเหมือนเด็กที่เข้าไปในบ้านลูกอมไร้ผู้คน จากนั้นก็เริ่มกินอย่างมูมมาม แมลงพิษที่น่ากลัวเหล่านั้นเป็นขนมหวานที่น่าหลงใหลในสายตาของเขา กรุบกรอบเวลาเคี้ยว เขาหยิบตะขาบตัวหนึ่งไว้ในมือแล้วกินเหมือนสนิกเกอร์ส ยิ่งกินก็ยิ่งตื่นเต้น ยิ่งกินก็ยิ่งหยุดไม่ได้

และในเวลานี้ประตูถูกเปิดออกพอดี ฉวีหมิงหมิงเดินเข้ามาพลางบิดขี้เกียจ จากนั้นเขาก็ตกตะลึง “คุณเป็นใคร”

ฉวีหมิงหมิงตวาดหนัก ต่อจากนั้นเขาก็เห็นขวดเปล่าเต็มไปหมด รู้สึกบีบหัวใจขึ้นมาทันทีแล้วเลือดก็เริ่มหยดติ๋งๆ

เขาเลี้ยงแมลงพิษเหล่านี้อย่างตั้งใจและทุ่มเทเป็นอย่างมาก เหมือนคนที่ชอบสะสมรถหรู เหมือนคนที่ชอบสะสมโมเดลฟิกเกอร์ แต่เขาชอบสะสมแมลงพิษ สิ่งเหล่านี้คือเลือดเนื้อและจิตใจของเขา เป็นเหมือนลูกรักของเขา เป็นเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้เขาได้หวนคิดในยามค่ำคืนที่เงียบสงัดและได้รับความรู้สึกพึงพอใจในตัวเอง!

เสียงดัง ‘สวบ’ สัตว์เลื้อยคลานที่คล้ายกิ้งก่าตัวหนึ่งถูกเขาดูดเข้าปาก เหมือนกำลังกินเส้นพาสต้า เดดพูลไม่ค่อยเข้าใจ จึงยื่นแมลงในมือให้ฉวีหมิงหมิง ซึ่งหมายถึงคุณอยากกินหน่อยไหม

ฉวีหมิงหมิงโกรธแล้ว จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาน้องสาวของตัวเอง ไม่นานฉวีเจินเจินก็ขึ้นมา และเช่นเดียวกันเธอก็รู้สึกตื่นตระหนกตกใจเมื่อเห็นฉากที่เดดพูลยืนกินแมลงอยู่ตรงนั้น

เนื่องจากเดดพูลเพิ่งเปลี่ยนร่างใหม่ บวกกับเขาปกติก็ไม่ค่อยออกมานอกบ้านอยู่แล้ว และช่วงนี้ฉวีหมิงหมิงกับฉวีเจินเจินสองพี่น้องก็ไม่ได้ไปมาหาสู่ที่ร้านหนังสือ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่รู้ฐานะของเดดพูล

แต่เมื่อเห็นภาพที่เขากินแมลงอย่างเอร็ดอร่อย อีกทั้งกินจนถึงป่านนี้ก็ยังไม่เป็นอะไรเลยอย่างไม่น่าเชื่อ ต่อให้เป็นคนโง่ก็รู้ว่าคนคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา

“เจินเจิน ไปควบคุมเขา” ฉวีหมิงหมิงพูด

ฉวีเจินเจินพยักหน้าแล้วเดินไปข้างหน้า แมลงแต่ละตัวเริ่มคลานออกมาจากหูของเธอ คลานไปด้านหลังศีรษะของเธอ ปากของแมลงเริ่มเจาะเข้าไปที่ด้านหลังศีรษะของเธอ

ร่างกายของฉวีเจินเจินเริ่มสั่นขึ้นมา กล้ามเนื้อนูนขึ้นอย่างชัดเจน ลมหายใจหอบหยาบ นี่คือวิธีการกระตุ้นศักยภาพแฝงของคน แต่เดดพูลที่กำลังกินแมลงอยู่ตรงนั้นไม่ได้รู้สึกกลัวตอนที่เห็นเธอกลายร่าง ตรงกันข้ามกลับเป็นฝ่ายเดินเข้าหาก่อน

คนที่มีแมลงท่วมตัวในร่างกาย ไม่ต่างจากถังหูลู่ (ผลไม้เคลือบน้ำตาล) ที่เสียบอยู่เต็มเสาหญ้าฟาง! ความเย้ายวนแบบนี้ เดดพูลต้านทานไม่ไหวจริงๆ

ฉวีเจินเจินพุ่งเข้าไป ฉวีหมิงหมิงกลับยืนอยู่ข้างหลัง เขาไม่ได้พุ่งเข้าไปต่อสู้กับเดดพูลเป็นสิ่งแรก เพราะเขาใจเย็นมาก

เขาไม่ถนัดต่อสู้และไม่เป็นวิชาป้องกันตัว ส่วนน้องสาวของเขา เนื่องจากตอนเด็กมีปัญหาสุขภาพ ร่างกายของเธอค่อนข้างอ่อนแอ ดังนั้นคนในบ้านจึงสั่งให้เธอฝึกวิชาป้องกันตัว ถึงแม้จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาการกำเริบของน้องสาวได้ แต่หลังจากที่เขานำแมลงพิษที่ตัวเองเลี้ยงไว้มาต่อชีวิตของน้องสาว หากมองจากในระดับหนึ่งแล้ว ความสามารถของน้องสาวเหนือขีดจำกัดที่คนธรรมดาทั่วไปจะเข้าใจได้

แน่นอนว่าขีดจำกัดแบบนี้หากเทียบกับคนประหลาดพวกนั้นในร้านหนังสือฝั่งตรงข้ามแล้วไม่สามารถเทียบได้แน่นอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล