ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 376

ตอนที่ 376 ความยากจน จำกัดจินตนาการของฉัน

ทนายอันรู้สึกเหมือนผู้ดูแลบริหารวังหลัง ยามที่พระราชากำลังกอดเหล่าพระสนม ตัวเองกลับต้องถือป้ายอยู่ข้างๆ บันทึกว่าวันไหนเดือนไหนปีไหนที่ทำเสร็จ รอให้พระสนมท้องแล้วจึงหยิบมาเทียบว่าเป็นเมล็ดพันธุ์มังกรหรือไม่

พวกเขานั่งอยู่ในรถยนต์นานสี่ห้าชั่วโมงแล้ว รอให้นักพรตเฒ่าตื่นขึ้นมาเปิดร้านหนังสือ ทนายอันจึงเดินหน้าบึ้งพาเยวี่ยหยากับเจิ้งเฉียงสองคนเข้าไปในร้านหนังสือ

ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากพักผ่อน ถึงแม้การนั่งสมาธิจะไม่สบายเท่านอนหลับ แต่อย่างน้อยก็เป็นวิธีการพักผ่อนอีกรูปแบบหนึ่ง เพียงแต่เด็กสองคนนี้ต้องมีคนคอยเฝ้าเท่านั้นเอง

เมื่อมองไปทั่วร้านหนังสือ ถึงแม้ยมทูตสองคนนี้จะบาดเจ็บ แต่คนที่มีคุณสมบัติพอที่จะเฝ้าพวกเขาได้มีแค่สองคนครึ่งเท่านั้น คนหนึ่งคือตัวเขาเอง อีกคนหนึ่งคือโจวเจ๋อ และอีกครึ่งหนึ่งก็คือสาวน้อยโลลิ

สาเหตุที่พูดว่าสาวน้อยโลลิเป็นครึ่งหนึ่ง เพราะถ้าให้สาวน้อยโลลิเฝ้าคนเดียว อาจจะมีความเสี่ยงที่จะมองพลาดปัญหาคือคุณไม่สามารถทารุณพวกเขาหรือจงใจทำให้พวกเขาบาดเจ็บ

แน่นอนว่าเมื่อวานที่เจิ้งเฉียงโดนต่อย สำหรับทนายอันแล้วคือความรักและความห่วงใยที่เขามีต่อเจิ้งเฉียง

ทนายอันจับสองคนนี้มาให้โจวเจ๋อรับเป็นลูกน้อง โจวเจ๋ออยากจะเลื่อนขั้นเป็นผู้จับกุม จำเป็นต้องรับลูกน้องห้าคนถึงจะดีที่สุด ตอนนี้ขาดอีกสามคน

สาวน้อยโลลิหนึ่งคน คนที่ฉางโจวหนึ่งคน จางเยี่ยนเฟิงที่กลับไปเยี่ยมญาติอีกหนึ่งคน บวกกับสองคนนี้ก็ถือว่าครบแล้ว

สาเหตุที่โจวเจ๋อพาพวกเขากลับมา ในสายตาของทนายอันก็คือมีเจตนานี้อยู่แล้ว ในเมื่อต่อไปจะเป็นคนกันเองต้องทำงานร่วมกัน เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะทรมานพวกเขาหรือทำให้พวกเขาพิการ ไม่อย่างนั้นต่อไปทำงานด้วยกันคงจะไม่สบอารมณ์

ทนายอันชงกาแฟให้ตัวเอง เขาตั้งใจหยิบกาแฟขี้ชะมดที่โจวเจ๋อชอบมากที่สุดออกมาจากในห้อง เถ้าแก่เขานอนหลับสบาย แต่ตัวเองเป็นผู้คุมต้องคอยเฝ้าทั้งคืน อย่างไรเสียก็ต้องเรียกค่าชดเชยบ้าง

เมื่อคิดเช่นนี้เขาจึงตักกาแฟให้ตัวองสิบกว่าช้อน และด้วยเหตุนี้ตอนที่ทนายอันชงกาแฟเสร็จเดินออกมา จึงถือกระติกเก็บอุณหภูมิใบใหญ่ที่มีความจุมากกว่าขวดน้ำอยู่ในมือของเขา

เจิ้งเฉียงที่หน้าบวมเหมือนหมูก็นั่งอยู่ตรงนั้น และไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ส่วนเยวี่ยหยาในเมื่อมาแล้วจึงทำตัวตามสบาย หยิบนิตยสารขึ้นมาเปิดดูไปเรื่อยๆ

นักพรตเฒ่าไม่ได้ถามรายละเอียด แต่ในเมื่อโจวเจ๋อเป็นคนพาพวกเขากลับมาเมื่อคืน และวันนี้ก็ถูกทนายอันจับตามองอีก จะต้องเป็นคนที่มีประโยชน์แน่นอน

เขายกน้ำชาไปเสิร์ฟอย่างเอาใจ แน่นอนว่านักพรตเฒ่าไม่ลืมที่จะหยิบคิวอาร์โค้ดชำระเงินบนเคาน์เตอร์ไปด้วยเยวี่ยหยากับเจิ้งเฉียงทำสีหน้างุนงง แต่ก็ยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสแกนจ่ายเงิน

ผ่านไปสักพักหนึ่ง โจวเจ๋อจึงเดินลงมา เถ้าแก่โจวกวาดตามองทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ เขาพยักหน้าแต่ไม่รีบร้อนเดินเข้าไป เขาใช้กฎเดิมหลังจากตื่นนอนแล้วต้องอาบน้ำก่อน

โจวเจ๋อเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าที่สวมสบายแล้วจึงเดินเข้ามา จากนั้นนั่งบนตำแหน่งที่สามารถนอนอาบแดดได้ของตัวเอง

ไป๋อิงอิงหยิบหนังสือพิมพ์ที่รีดเรียบร้อยแล้วรวมทั้งน้ำส้มเดินเข้ามา โจวเจ๋อมองน้ำส้มหนึ่งทีแล้วพูดด้วยความสงสัยว่า “กาแฟล่ะ”

ไป๋อิงอิงทำปากจู๋แล้วพูดว่า “ไม่รู้ว่าทำไม กาแฟเหลือแค่ก้นขวด”

เถ้าแก่โจวตาโตทันที กระทั่งถูกปกคลุมไปด้วยเส้นเลือดฝอยอย่างช้าๆ ความโกรธของเขาพลันแพร่กระจายออกมา คาดว่าคนที่ถูกผนึกอยู่ในร่างกายของเขาน่าจะสงสัยเล็กน้อย เจอศัตรูตัวใหญ่อีกแล้วเหรอ ไม่อย่างนั้นความรู้สึกโกรธที่อั้นไม่อยู่จะมาจากไหน

ทนายอันเปิดกระติกเก็บอุณหภูมิของตัวเอง จากนั้นกลิ่นกาแฟหอมหวนเข้มข้นจึงกระจายออกมา เขาดื่มหนึ่งคำโต เหมือนชาวไร่ที่ทำงานเหนื่อยอยู่ในไร่ดื่มน้ำเย็นต้มสุกที่ตัวเองพกมาด้วยความสบายใจและไม่แคร์ต่อสิ่งใด

โจวเจ๋อมองทนายอัน จากนั้นก็เริ่มมีเสียงดังมาจากข้อนิ้วของเขา เยวี่ยหยากับเจิ้งเฉียงนั่งอยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อ เดิมทีพวกเขาสองคนยังแสร้งทำเป็นนิ่งเงียบ แต่จู่ๆ กลับรู้สึกถึงแรงสังหารที่ส่งผ่านมาจากด้านหลัง จึงตกตะลึงทันที

หรือว่ายมทูตทงเฉิงคนนี้เปลี่ยนใจแล้ว เขาอยากฆ่าคนเหรอ ชั่วเวลาหนึ่งแววตาร้อนใจปรากฏขึ้นมาในดวงตาของทั้งสองคน เดิมทีพวกเขาพอจะยืนหยัดในฐานะของตัวเอง ถึงแม้อีกประเดี๋ยวจะถูกคนอื่นกดหัวให้เซ็นสัญญาขายตัวแล้ว แต่ยังคงเชิดหน้าหยิ่งของตัวเอง เพื่อรักษาหน้าตาของตัวเอง แต่ตอนนี้ พวกเขากลัวว่าโจวเจ๋อจะเปลี่ยนใจจริงๆ ไม่ต้องการตัวเองแล้ว

ทั้งสองคนลุกขึ้นพร้อมกัน เตรียมจะเสนอขายตัวเอง เพื่อบอกว่าตัวเองเป็นน้องชาย (น้องสาว) ที่มีความสามารถมากคนหนึ่ง แต่ในเวลานี้ โจวเจ๋อกัดฟันแล้วพูดว่า “อันปู้ฉี่!”

เยวี่ยหยากับเจิ้งเฉียงมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เขาไม่ได้โกรธพวกเขา จากนั้นทั้งสองคนจึงกลับไปนั่งเหมือนเดิม ตกใจตัวสั่นเหมือนนกกระทาสองตัว

ทนายอันเปิดฝากระติกอีกครั้ง แล้วดื่มกาแฟอีกสองสามคำใหญ่ๆ เหมือนกับว่าเขาไม่รู้สึกถึงไฟโกรธของโจวเจ๋อเลยด้วยซ้ำ

เถ้าแก่โจวพยักหน้า คนจนก็ต้องการหน้าตา และคนที่ยิ่งจนยิ่งต้องการหน้าตามากกว่า! เถ้าแก่โจวเผยใบหน้ายิ้มแย้มออกมาอย่างยากลำบาก แล้วถามว่า “กาแฟ อร่อยไหม”

“อ้อ กาแฟเหรอ พอดื่มได้”

“…” โจวเจ๋อ

ตอนนี้รถนิสสันของสวี่ชิงหล่างขับกลับมาแล้ว เป็นจางเยี่ยนเฟิงลงมาจากรถ วันหยุดเยี่ยมญาติของเหล่าจางสิ้นสุดลงแล้ว เขาจึงกลับมา เมื่อเข้ามาเหล่าจางก็พูดด้วยความดีใจสุดขีด “คำขอย้ายผ่านแล้ว ผมจะถูกย้ายมาเป็นหัวหน้าตำรวจอาชญากรรมที่ทงเฉิง พวกคุณคิดว่าบังเอิญไหม ผมได้กลับมาประจำตำแหน่งเดิมของผมที่ก่อนหน้านั้นว่างอยู่พอดี” ตัวเองพลีชีพแล้ว จากนั้นก็ได้กลับมาอยู่ตำแหน่งเดิมของตัวเอง

เถ้าแก่โจวรู้สึกอิจฉาเหล่าจางกะทันหัน คนดีมีชะตาชีวิตที่ดีอย่างนี้เลยเหรอ

“หิวน้ำแล้ว” ขณะที่พูดเหล่าจางรับกระติกเก็บอุณหภูมิมาจากทนายอัน แล้วดื่มหมดรวดเดียวทันที จากนั้นจึงเรอออกมา แล้วใช้หลังมือเช็ดปากอย่างไม่ค่อยพอใจ “ทำไมเป็นกาแฟ ผมคิดว่าเป็นน้ำเปล่า เครื่องดื่มแบบนี้ดับกระหายไม่ได้” เหล่าจางไม่ได้สังเกตว่า เถ้าแก่โจวที่นั่งอยู่ตรงข้ามมุมปากกระตุกโดยไม่รู้ตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล