ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 379

ตอนที่ 379 คนเมื่อสิบหกปีก่อนปรากฏตัวอีกครั้ง!

กินเหรอ นักพรตเฒ่าได้ยินดังนั้นก็กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว

เมื่อสิบหกปีก่อน ตอนนั้นคุณภาพการใช้ชีวิตแย่กว่าปัจจุบันหลายเท่า ถ้าหากคุณตาคุณยายเลิกงานเจอเนื้อห่ออย่างดีตามข้างทาง ก็จะรู้สึกว่าตัวเองโชคดีได้เจอของดีแล้วเก็บกลับไปทำกับข้าว คาดว่าเป็นการตอบสนองที่ปกติเป็นอย่างมาก

และถึงแม้จะพูดว่าเนื้อคนแตกต่างจากเนื้อหมูเล็กน้อย แต่ถ้าคุณจะบอกว่าต่างกันแค่ไหนคงพูดไม่ถูกจริงๆ ตอนนั้นเคยมีฆาตกรฆ่าคนแล้วนำเนื้อคนมาขายเป็นเนื้อนกกระจอกเทศ ยังขายได้ตั้งนานจนเกือบจะกลายเป็นเมนูพิเศษประจำท้องถิ่น

“จนกระทั่งพบชิ้นเนื้อส่วนหน้าอก คนที่เก็บได้จึงเลือกไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ”

จางเยี่ยนเฟิงจุดบุหรี่หนึ่งมวนแล้วพูดต่อ “ทางตำรวจจึงเข้ามาตรวจสอบ หลังจากวันนั้น ฆาตกรก็ไม่ทิ้งชิ้นเนื้ออีก และยังมีอีกอย่างก็คือ คนที่เคยเก็บชิ้นเนื้อประมาณเจ็ดแปดครอบครัว มีสองครอบครัวที่ยังไม่ทันได้กินเนื้อ ได้ถูกพวกเรานำกลับมาทำเป็นหลักฐาน ส่วนที่เหลืออีกห้าครอบครัว กินหมดไปนานแล้ว ผมเดาว่า น่าจะมีคนที่เก็บได้เยอะกว่านี้บางส่วนอาจจะเป็นไปได้ว่าไม่อยากยอมรับและเข้ามารายงานตัวเอง บางส่วนอาจจะเป็นประชากรลอยตัวที่พวกเรายังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบ”

จางเยี่ยนเฟิงพ่นควันบุหรี่ออกมา “ตอนนั้นผมเพิ่งทำงานได้สองสามปี รูปคดีที่โหดร้ายแบบนี้เพิ่งเจอเป็นครั้งแรกถ้าหากเป็นคดีฆ่าแล้วทิ้งทั่วไป ส่วนใหญ่น่าจะเป็นการฆ่าเพราะความตื่นตระหนก แต่ฆาตกรคนนี้หลังจากฆ่าคนแล้วหั่นศพทิ้งศพเป็นพฤติกรรมที่ทำมาแล้วครึ่งเดือนเป็นอย่างน้อย เป็นการตั้งใจเล่นเพื่อความสนุก น่าเสียดาย ตอนนั้นทางสถานีตำรวจได้พยายามทำเต็มที่แล้ว แต่ยังหาตัวตนของผู้เคราะห์ร้ายไม่เจอ”

โจวเจ๋อจุดบุหรี่หนึ่งมวนเหมือนกัน เขานวดขมับแล้วพูดอย่างจนใจว่า “คดีนี้คุณมาหาผมก็ไม่มีประโยชน์ ผ่านไปสิบหกปีแล้ว ต่อให้ผู้หญิงที่ถูกฆ่าคนนั้นกลายเป็นผีอาฆาต ก็ไม่น่าจะอยู่นานเกินสิบหกปี ไม่มีผีให้ถาม และจากคำบอกเล่าของคุณ มีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นการฆ่าคนด้วยจิตวิปริต จึงไม่ใช่เรื่องที่เหนือธรรมชาติอะไร”

เถ้าแก่โจวถนัดเรื่องของผี แต่คดีของคน คุณอยากให้เถ้าแก่ใส่ชุดคอสเพลย์แสดงเป็นตำรวจ ถือเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจจริงๆ โจวเจ๋อยังพอรู้จักการประมาณตน

“ความสำเร็จขึ้นอยู่กับความพยายามของคน” จางเยี่ยนเฟิงพูด

“แต่บางเรื่อง อาศัยกำลังคนอย่างเดียวทำไม่ได้”

“ก็จริง เพราะไม่ว่ายังไงตอนนี้พวกเราก็ไม่ใช่คน แต่เป็นผี”

“…” โจวเจ๋อ

จางเยี่ยนเฟิงเลียปาก “ตำแหน่งที่ฆาตกรทิ้งชิ้นส่วนศพ อยู่บนถนนสายเล็กใกล้สะพานอิฐเล็ก ถนนเส้นนั้นถูกปรับปรุงสร้างใหม่ไปนานแล้ว เมื่อก่อนเป็นถนนลาดยาง ตอนนี้เป็นถนนคอนกรีตแล้ว และหลักเขตที่ดินบริเวณรอบๆรวมทั้งห้างสรรพสินค้าและหน่วยงานเก่าบางส่วน ก็ถูกย้ายไปนานแล้ว ทุกอย่างมีแต่ความเปลี่ยนแปลงแล้วก็เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม การสร้างและปรับปรุงเมืองทงเฉิงในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการพัฒนาที่รวดเร็วจริงๆ”

“อย่างนั้นก็ตามนี้ สืบคดีนี้ไม่ได้แล้ว” โจวเจ๋อรู้สึกว่าต้องรีบจบหัวข้อการสนทนานี้ ถ้าหากเป็นคดีทั่วไป เขาอาจจะช่วยเพราะเห็นแก่หน้าของเหล่าจาง แต่คดีนี้ เป็นคดีค้างคาในคดีค้างคา เหล่าจางหลังจากกลายเป็นผีแล้วจึงอยากทำคดี ‘ค้างคาใจ’ ตอนที่ตัวเองเพิ่งเป็นตำรวจ แต่เถ้าแก่โจวไม่อยากวิ่งเหนื่อยแบบไม่ดูตาม้าตาเรือในสิ่งที่ไม่คุ้มค่า

“ผมจะพาคุณไปดูสถานที่ที่ชิ้นส่วนศพถูกทิ้ง เป็นยังไง” จางเยี่ยนเฟิงมองโจวเจ๋ออย่างมีความหวัง “ไม่แน่ คุณอาจจะเห็นอะไรบ้าง”

โจวเจ๋อชี้ไปที่จมูกของตัวเอง ถามว่า “ผมเป็นใคร”

“โจวเจ๋อ”

โจวเจ๋อส่ายหน้า

“เถ้าแก่”

“ผมเป็นแค่ยมทูตคนหนึ่ง ผมไม่ใช่ผู้ตรวจสอบ และไม่ใช่ผู้พิพากษา ยิ่งไม่ใช่พญายม ผมไม่รู้จริงๆ ว่าจะเจอเบาะแสของคดีนี้ได้ไหม”

เวลานี้ สวี่ชิงหล่างที่เพิ่งวาดยันต์กระดาษเสร็จเดินลงมา โจวเจ๋อรีบเปลี่ยนเรื่องพูดทันที เขาตะโกนว่า “เหล่าสวี่ตอนกลางวันกินอะไร”

“ผมทำขาหมูต้มเค็มกับซุปขาหมู”

“เลี่ยนจัง” โจวเจ๋อขมวดคิ้ว

“ไม่นะ พวกคุณเอาแต่พูด ‘ขาหมู’ อย่างนั้น ‘ขาหมู’ อย่างนี้ทั้งวัน ผมเลยคิดว่าพวกคุณอยากกินขาหมู จึงทำเยอะหน่อย”

ตอนค่ำ รถเก๋งคันหนึ่งขับมาจอดที่สะพานอิฐเล็กที่อยู่ติดถนนเส้นเล็กที่อยู่หลังเขตชุมชนเก่า โจวเจ๋อนั่งอยู่ข้างคนขับ ถือใบขับขี่อยู่ในมือ บนนั้นมีรูปภาพของโจวเจ๋อ

“ถึงแล้ว คือที่นี่แหละ เถ้าแก่ พวกเราลงไปดูไหม”

โจวเจ๋อไม่รีบพยักหน้า แต่ถือใบขับขี่แล้วถามว่า “ไม่ใช่สิ เหล่าจาง คุณเพิ่งไปทำงานวันนี้ จะใช้เส้นทำใบขับขี่ให้ผมได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ” ต่อให้เขาจะขายหน้าตาหัวหน้าตำรวจอาชญากรรมคนใหม่ แต่คุณไม่น่าจะทำได้เร็วขนาดนี้ใช่ไหม ถูกแล้ว เหล่าจางทำใบขับขี่ให้โจวเจ๋อ สุดท้ายโจวเจ๋อจึงพยักหน้าช่วยทำคดีฆ่าหั่นและทิ้งศพเมื่อสิบหกปีก่อนเป็นเพื่อนเขา

“ฮิๆ จริงๆ แล้ว ผมทำเสร็จก่อนที่ผมจะตาย แต่ลืมให้คุณ ผมทิ้งไว้ที่บ้าน เพิ่งหยิบออกมาตอนที่ผมแอบกลับไปบ้านเมื่อช่วงบ่าย” เหล่าจางลูบศีรษะพูดอย่างเก้อเขิน

“หึ…ถ้าคุณไม่ขอให้ผมช่วย คุณคงจะไม่ให้ผมใช่ไหม”

“เหอะๆ อย่างไรก็ตามเรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่ผิดกฎ แต่คุณขับรถเป็นอยู่แล้ว จะพูดยังไงดีล่ะ ไม่ถูกกฎระเบียบแต่เหมาะสมกับสถานการณ์ อีกทั้งนี่เป็นคดีติดค้างเมื่อสิบหกปีก่อน ถือว่าคุ้มค่า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล