ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 384

ตอนที่ 384 พูดคนเดียว

ทางเดินค่อนข้างรกและสกปรก ผนังผุพังเป็นแถบ หลอดไฟชำรุด ทั้งหมดทั้งมวลล้วนกำลังฟ้องว่าอพาร์ตเมนต์แห่งนี้เก่ามากแค่ไหน

ถึงแม้จะเป็นตอนกลางวัน แต่แสงที่ส่องเข้ามาด้านในกลับแย่มาก มืดอึมครึม ถ้าหากไม่ใช่เพราะคนงานหลายคนเลือกมาเช่าอยู่ที่นี่ ที่นี่น่าจะเหมาะเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ผี

“ทำไมถึงสนใจเรื่องนี้นัก” ทนายอันที่เดินตามหลังถาม

“ไม่ว่ายังไงก็ว่างจัด พอเจอเรื่องสนุกจึงอยากลองเล่นดูบ้าง” คำตอบของเถ้าแก่โจวจริงใจอย่างยิ่ง สำหรับคนที่สนิทกับเขา นี่คือคำอธิบายและคำตอบที่ถูกต้องเป็นอย่างมาก บางครั้งปลาเค็มก็อยากพลิกตัวบ้าง

“ก็จริง ต้องขยับร่างกายหน่อยถึงจะดีต่อร่างกาย เถ้าแก่จริงๆ แล้วคุณสามารถเข้าคอร์สออกกำลังกายได้ แบบนี้จะทำให้กำลังและจิตใจของคุณเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นไม่เหมือนเมื่อก่อน” ทนายอันเริ่มย้อนกลับเข้าสู่เส้นทางการสอนอีกแล้ว

“เมื่อก่อนผมเป็นหมอ เคยเจอคนไข้ที่ออกกำลังกายและนักกีฬาที่ฝึกหนักเกินไปทำให้สุขภาพมีปัญหาเยอะแยะ”

“คุณกำลังเถียงเหรอ”

“ไม่ได้เถียง แต่คนโบราณออกไปทำงานทุกวัน พอตะวันตกดินก็กลับมาพักผ่อน ได้ ‘ออกกำลังกาย’ ทุกวัน กินข้าวธัญพืช สูดอากาศบริสุทธิ์ ไม่มีสารปนเปื้อน แต่ยังยากที่จะมีอายุถึงห้าสิบปี”

ทนายอันตกตะลึง จากนั้นจึงส่ายหน้าพูดว่า “มาตรฐานทางการแพทย์ไม่เหมือนกัน”

“คุณดูสิ แบบคุณนี่คือกำลังเถียง” ทั้งสองคนเดินคุยกันจนขึ้นมาอีกหนึ่งชั้น จากนั้นคนทั้งสองจึงหยุดเดิน กลิ่นคาวเลือดจางมาก แต่ว่ามีจริงๆ!

จมูกของมนุษย์ไม่สามารถสู้จมูกของสุนัขได้แน่นอน แต่โครงสร้างของมนุษย์กลับซับซ้อนมากกว่าสุนัข นี่อาจจะเป็นสัมผัสที่หกที่ต้องอาศัยประสบการณ์ของแต่ละคนฝึกขึ้นมาในภายหลัง ไม่ใช่กลิ่นคาวเลือดของเป็ดไก่แน่นอน มันเป็นกลิ่นคาวเลือดของคน เป็นกลิ่นจางๆ และหวานเล็กน้อย

“อยู่ข้างหน้า” ทนายอันพูด

“สงสัย พวกเรามาถูกที่แล้ว”

ถึงแม้อาจจะต้องเผชิญหน้ากับฆาตกร แต่ไม่มีค่าพอให้ต้องกลัว ฆาตกรเป็นพวกวิปริตจริงๆ และเต็มไปด้วยกลิ่นอายของการเล่นพิเรนทร์อย่างชั่วร้าย แต่เถ้าแก่โจวกับทนายอันเป็นคนที่เคยเจองานใหญ่มาก่อน ดังนั้นจึงไม่กลัวเขา

ทั้งสองคนเดินมาที่หน้าประตูบานหนึ่ง ประตูปิดอยู่ โจวเจ๋อใช้เล็บของตัวเองไขกุญแจโดยตรง จากนั้นผลักประตูออก กลิ่นคาวเลือดรุนแรงขึ้นมาทันที

ภายในห้องรับแขกกลับไม่มีฝุ่นแม้แต่นิดเดียว ข้าวของทุกอย่างถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แก้วเก็บอุณหภูมิที่ชงชาเก๋ากี้บนโต๊ะน้ำชายังหลงเหลือความร้อนอยู่

หลังจากเดินเข้าไปแล้ว โจวเจ๋อผลักประตูห้องน้ำก่อน เพราะกลิ่นคาวเลือดกระจายมาจากในนั้น ศพของผู้ชายคนหนึ่งนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ แขนสองข้างห้อยอยู่ข้างอ่าง ศีรษะด้านหลังพิงอ่างอาบน้ำ แต่เขากลับเสียชีวิตแล้ว ฉากนี้ทำให้โจวเจ๋อนึกถึงภาพวาดที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง ‘มรณกรรมของมารา’

“ตรงนี้มีศพผู้หญิงอีกคนหนึ่ง” ทนายอันผลักประตูห้องด้านใน ศพผู้หญิงนอนอยู่บนเตียง สองมือประสานอยู่ตรงหน้าอก เส้นผมถูกคนจัดให้กระจายไปรอบด้านอย่างเป็นระเบียบ

“เหอะๆ คุณเดาถูกจริงๆ” ทนายอันเดินถอยหลังหนึ่งก้าว มองไปทางโจวเจ๋อ “เถ้าแก่ มีพรสวรรค์นะ”

ถึงแม้จะมีคนตายอยู่ตรงหน้า แต่ก็ยังพูดล้อเล่นกันแบบนี้ คุณจะโทษทนายอันว่ามองข้ามชีวิตไม่ได้ เพราะโจวเจ๋อที่อยู่ข้างๆ เขาก็สงบเยือกเย็นมากจริงๆ เมื่อต้องรับส่งวิญญาณมากมายนับไม่ถ้วน พบเจอกับความเป็นความตายมากเข้า ก็รู้สึกปล่อยวางและชินชาไปเอง

“ฆาตกรล่ะ” โจวเจ๋อถามขณะหยิบโทรศัพท์ออกมา ตอนที่เขาโทรหาจางเยี่ยนเฟิง โทรศัพท์ของตำรวจจางเตือนว่ากำลังติดสายอยู่ โทรไม่ติด ด้วยความจนใจ โจวเจ๋อจึงเดินไปที่หน้าต่างแล้วเปิดผ้าม่านออก ด้านล่างมีตำรวจมากมาย ชั่วขณะหนึ่ง โจวเจ๋อไม่รีบร้อนตะโกนเรียกตำรวจที่อยู่ด้านล่าง แต่หันไปมองแก้วเก็บอุณหภูมิบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านหลังตัวเอง

เมื่อครู่ฆาตกรคนนั้นได้ถือแก้วเก็บอุณหภูมิยืนอยู่ตรงนี้ แล้วมองตำรวจกลุ่มหนึ่งกำลังยุ่งเพื่อเรื่องของเขาอยู่ใช่ไหม และแล้วตัวเองก็เดาถูกจริงๆ

โจวเจ๋อหยิบเก้าอี้ขึ้นมาแล้วโยนทิ้งทางหน้าต่างโดยตรง จากนั้นจึงเกิดเสียงดัง ‘โครม’ ตำรวจที่อยู่ข้างล่างเงยหน้ามองขึ้นมาข้างบนพร้อมกัน

เหล่าจางที่กำลังคุยโทรศัพท์ก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาเงยหน้ามองขึ้นไป จากนั้นจึงเห็นเถ้าแก่ยืนอยู่ด้านหลังหน้าต่างห้องหนึ่งของชั้นห้าในอพาร์ตเมนต์แห่งนี้

โจวเจ๋อยิ้มให้เหล่าจาง จากนั้นหมุนตัวแล้วเดินออกจากหน้าต่าง จางเยี่ยนเฟิงรีบตอบสนองทันที เรียกลูกน้องที่อยู่ข้างๆ “รีบไปที่ห้องนั้น เร็วๆ! อ้อใช่ หลี่เยี่ยน คุณพาทีมตำรวจเข้าไปปิดกั้นพื้นที่ของอพาร์ตเมนต์นี้ให้ผมที เร็วเข้า!”

“คนเราเมื่อถึงวัยกลางคนร่างกายก็ไม่เป็นดั่งใจ ต้องชงชาเก๋ากี้ไว้ในแก้วเก็บอุณหภูมิ” ทนายอันก้มหน้ามองแก้วน้ำชาที่อยู่บนโต๊ะน้ำชา

“ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้หนี” โจวเจ๋อพูด

“ไม่เหมือนจริงๆ” ขณะที่พูดทนายอันเงยหน้า แล้วพูดต่อว่า “ผมจำได้ ข้างบนมีดาดฟ้าใช่ไหม”

ด้านบนมีดาดฟ้าจริงๆ ตอนที่โจวเจ๋อกับทนายอันเดินขึ้นไป พวกเขาเห็นว่าตรงรั้วกั้นด้านหน้าที่อยู่ไม่ไกลมาก มีชายชราใส่รองเท้าผ้าคนหนึ่งยืนพิงอยู่ตรงนั้น

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า ชายชราจึงหันหน้ากลับมามองโจวเจ๋อกับทนายอันหนึ่งที จากนั้นถามด้วยความสงสัย “ตำรวจเหรอ”

ชายชราไม่ได้มีสีหน้าตื่นตระหนก โจวเจ๋อเดาว่า ก่อนที่พวกเขาสองคนจะเดินขึ้นมา ชายชรามองพวกตำรวจที่กำลังทำงานยุ่งจากตรงนั้น และตอนที่เดินขึ้นบันไดมาก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะของชายชราดังต่อเนื่องไม่หยุด เขารู้สึกว่าสนุกมาก นี่คือความบันเทิงของเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล