ตอนที่ 385 จุดเปลี่ยนที่น่าตกใจ!
โจวเจ๋อกับทนายอันนั่งเรียงกันอยู่บนเก้าอี้ยาวนอกห้องสอบสวนของสถานีตำรวจ ด้านนอกของสถานีตำรวจคึกคักเป็นอย่างมาก สื่อมวลชนเมื่อทราบข่าวต่างกรูกันเข้ามาเหมือนปลาฉลามได้กลิ่นคาวเลือด เบียดกันเนืองแน่น แต่ถูกกั้นไว้แล้ว
ตามคำบอกเล่าของตำรวจบอกว่าคดียังอยู่ในช่วงสอบสวน อีกสักพักจะเปิดงานแถลงข่าวเพื่ออธิบายรายละเอียดของคดีต่อสาธารณะ แน่นอนว่า พวกนักข่าวจะไม่ทำตัวว่าง เวลานี้ได้เขียนทบทวนคดีทิ้งศพของทงเฉิงที่เกิดขึ้นเมื่อสิบหกปีก่อนให้ประชาชนได้ทราบอีกครั้ง
แน่นอนว่า นักข่าวเหล่านี้กำลังหารือว่าจะเขียนข่าวอย่างไรเพื่อให้ได้รับความสนใจในวงกว้าง อย่างเช่น ‘ชายชราโดดเดี่ยวทำไมถึงกลายเป็นฆาตกรฆ่าคน’ ‘ความเฉยชาของลูกๆ และสังคมทำให้คนแก่กลายเป็นปีศาจ’ ‘ขุดคุ้ยความจริงเบื้องหลังของชายชราที่กลายเป็นปีศาจร้าย!’ ‘อยากร้องไห้ ช่วยผู้เฒ่าผู้แก่ของพวกเราด้วย!’
…
ชายชราอยากฆ่าตัวตาย แต่โจวเจ๋อช่วยชีวิตเขา แน่นอนว่า สาเหตุที่ช่วยเขาไม่ได้อยากให้เขามีชีวิตต่อไป แต่รู้สึกว่าวิธีการตายแบบนี้มันทำให้เขาสบายเกินไป คดีนี้สามารถพูดได้ว่าจบคดีเร็ว และในขณะเดียวกันก็สามารถพูดได้ว่าคดีจบช้า
ตำรวจหญิงตัวผอมเพรียวคนนั้นยื่นกาแฟสองถ้วยเข้ามา จากนั้นจึงนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามโจวเจ๋อแล้วเริ่มส่งข้อมูล ถึงแม้จะจับตัวฆาตกรได้แล้ว แต่คดีนี้ยังมีรายละเอียดอีกมากมายที่ต้องจัดการ
“สืบตัวตนของศพผู้ตายทั้งสองในห้องได้หรือยังครับ” โจวเจ๋อถาม
“ยังไม่ทราบชั่วคราวค่ะ แต่น่าจะใกล้แล้ว เพราะเวลาเสียชีวิตค่อนข้างสั้น ทางนายจ้างเดิมจึงยังไม่รู้การหายตัวไปของทั้งสองคน แต่จากคำให้การของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ ชายหญิงคู่นี้น่าจะเป็นสามีภรรยาหรือคู่รักกัน เพราะเห็นพวกเขาซื้อกับข้าวกลับมาด้วยกันเป็นประจำ คาดว่าน่าจะเป็นคนงานที่ทำงานในทงเฉิง แล้วมาเช่าบ้านของหยางเค่อวั่ง”
หยางเค่อวั่ง ก็คือชื่อของชายชราคนนี้
“แต่หยางเค่อวั่งน่าจะจัดเก็บอย่างละเอียดหลังจากที่ฆ่าแล้ว เจ้าหน้าที่สืบสวนของพวกเราจึงไม่เจอเบาะแสใดๆ ที่สามารถยืนยันตัวตนของผู้ตายได้ภายในห้องนี้ อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ บัตรประชาชน หาไม่เจอสักอย่าง”
“ผ่านไปสิบหกปีแล้ว แม้มีศพอยู่ตรงหน้า แต่อยากจะหาตัวตนของผู้ตาย ก็ยังยากขนาดนี้”
โจวเจ๋อรู้สึกทอดถอนใจอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ที่นี่ไม่ใช่เส้นทางบนภูเขาหรือผาสูงอะไร อย่างเช่นเส้นทางหลวงแถวซีชวนหรือทิเบต พูดจริงๆ นะ หากคุณโยนศพไปตามคูน้ำบนถนนเหล่านั้น นับว่าเป็นสถานที่ทำลายหลักฐานชั้นเยี่ยมอย่างแท้จริง แต่ที่นี่คือทงเฉิง เป็นเมืองสมัยใหม่ที่มีประชากรรวมตัวกันหนาแน่นในแถบชายฝั่งทะเล
“คาดว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้คงต้องรออีกสิบหกปี รอให้การรวบรวมข้อมูลระบุตัวบุคคลพัฒนาไปอีกขั้น ขยายขอบเขตให้ครอบคลุมประชาชนทั่วประเทศก่อน เรื่องราวน่าจะง่ายขึ้น แต่วางใจได้ การสืบหาตัวตนของทั้งสองคนเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น”
พอสิ้นเสียง โทรศัพท์ของตำรวจหญิงก็ดังขึ้น เธอจึงรับสายแล้วพูดกับโจวเจ๋อ “สืบค้นตัวตนของผู้ตายทั้งสองคนได้แล้วค่ะ เป็นสามีภรรยาจากมณฑล XX มาทำงานที่ทงเฉิง”
โจวเจ๋อพยักหน้า ตำรวจหญิงรีบไปรายงานข้อมูลนี้ทันที จากนั้นจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไป โจวเจ๋อยื่นมือคลึงสันจมูกของตัวเองเบาๆ
“มนุษย์ ไม่ได้มีค่าขนาดนั้น” ทนายอันเอ่ย “อย่ามองว่าคนสมัยนี้ใช้ชีวิตแบบเต็มที่ แต่ในความเป็นจริงนั้น ถ้าหากไม่สั่งอาหารเดลิเวอรี่ ไม่รับพัสดุ และไม่คุยในแอปพลิเคชัน วางโทรศัพท์ไว้ตรงนั้น คุณลองดูสิว่าวันหนึ่งจะมีใครโทรเข้ามาไหม บนโลกนี้มีดารา มีคนมีชื่อเสียง มีคนใหญ่คนโต แต่คนส่วนใหญ่ อันที่จริงเหมือนกับฝุ่นผง เหมือนกับผักกุยช่ายที่อยู่ริมทาง มันจะอยู่หรือไม่อยู่ ไม่ได้แตกต่างกันมาก และชีวิตของคนเราส่วนใหญ่ ก็มาอย่างเงียบๆ และไปอย่างเงียบๆ เช่นกัน”
“คุณอยากพูดอะไรกันแน่” โจวเจ๋อมองทนายอันแล้วถาม
“ผมอยากถามว่า คุณไม่เจ็บกล้ามเนื้อแขนของคุณเหรอ” ขณะที่พูด ทนายอันได้จับแขนของโจวเจ๋อ แล้วม้วนแขนเสื้อขึ้น “ชายชราคนนั้นถึงแม้จะตัวเตี้ย แต่คุณใช้มือข้างเดียวจับเขาไว้ กล้ามเนื้อแขนก็คงจะบาดเจ็บ”
“อืม”
“ผมช่วยนวดให้คุณ” ทนายอันเริ่มนวดแขนให้โจวเจ๋อ แต่จะว่าไปก็ได้ผลอยู่นะ แขนที่เดิมทีจับนิดหน่อยก็รู้สึกเหมือนฉีกขาดนิดๆ เริ่มไม่เจ็บแล้ว
“คุณเหมาะที่จะเปิดร้านนวดมาก”
“คุณก็เหมาะที่จะเปิดบริษัทปลดล็อกกุญแจ”
เวลานี้ ในมือของเหล่าจางถือของปึกหนึ่งเข้ามา เมื่อเห็นผู้ชายสองคนนั่งยื้อๆ ยุดๆ กันอยู่บนเก้าอี้ยาวที่อยู่ตรงหน้า เหล่าจางพลันเกิดความคิดไขว้เขว เขากระแอมหนึ่งทีเพื่อแสดงว่าตัวเองอยู่ตรงนี้ แต่ทั้งสองคนนั้นยังคงไม่สนใจ
“เขาสารภาพหรือยัง” โจวเจ๋อถาม
“สารภาพหมดแล้ว ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เขาบอกว่าความปรารถนาเดียวของเขาคืออยากโดนยิงตายดังนั้นจึงยอมรับโทษทั้งหมดด้วยความจริงใจ”
เมื่อได้ยินดังนั้น โจวเจ๋อพลันรู้สึกว่าหมดสนุก กระทั่งเขาหมดอารมณ์ที่จะลงโทษไอ้หมอนั่นด้วยตัวเอง คนที่หมดหนทางจนปัญญา คนที่อยากตายลูกเดียว คุณยากที่จะหาความสุขจากการทรมานเขาได้อีก
“แต่ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ปวดหัวมากตอนนี้” เหล่าจางจับผมของตัวเอง เห็นได้ชัดว่าลำบากใจอย่างยิ่ง
“เรื่องอะไร”
“เรื่องผู้เคราะห์ร้ายของคดีเมื่อสิบหกปีที่แล้ว”
“ทำไม ยังยืนตัวตัวตนของเธอไม่ได้ใช่ไหม”
“ยัง”
“ชายชราไม่สารภาพเหรอ”
“เขาสารภาพแล้ว เขาบอกว่าลืมแล้ว จำได้แค่ว่าเจอบนถนนแล้วจึงเดินตามไปตลอดทาง ส่วนผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นเป็นใคร เขาก็ไม่แน่ใจ จำได้รางๆ ว่าเป็นผู้หญิงผมสั้น อายุประมาณยี่สิบกว่าปี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล