ตอนที่ 389 ปรากฏ!
สาวน้อยโลลิผลักประตูมองเข้าไปในด้านใน แล้วจึงเห็นโจวเจ๋อกับไป๋อิงอิงนอนอยู่บนเตียง โจวเจ๋อนอนหลับปุ๋ยไป๋อิงอิงกลับอ่านหนังสือ ‘การฝึกทักษะของสาวใช้’ เล่มเดิมที่อ่านอย่างไรก็อ่านไม่จบสักที
“ฮองเฮา คนเจ้าชู้นอนหลับแล้วหรือเพคะ” สาวน้อยโลลิพูดเสียงเบา
ไป๋อิงอิงวางหนังสือในมือลง แล้วกลอกตาใส่สาวน้อยโลลิที่ยืนอยู่หน้าประตู แต่เธอยังคงยิ้มมุมปากแล้วพูดว่า “น้องหลินเฟย พระสวามีเพิ่งจะบรรทม” สาวน้อยโลลิเดินเข้ามามองโจวเจ๋อหนึ่งที เขานอนหลับแล้วจริงๆ จากนั้นเธอจึงเข้ามานั่งข้างๆ ไป๋อิงอิงแล้วกระซิบพูดว่า “พี่สาว ช่วยอะไรหม่อมฉันหน่อยได้ไหมเพคะ”
“ดูน้องสาวพูดสิ ทุกคนล้วนเป็นผู้หญิงของเสด็จพี่ เรื่องของเจ้า ก็คือเรื่องของข้า…” ไป๋อิงอิงเก๊กหน้าไม่ไหว กัดปากแล้วหัวเราะออกมา
สาวน้อยโลลิยักไหล่ ดึงมือของไป๋อิงอิงแล้วพูดว่า “มีเรื่องอยากให้เจ้าช่วยหน่อย”
“ว่ามา”
“วันมะรืน ยมทูตที่ข้ารู้จักจะมา ดูเหมือนเขาจะเจอเรื่องยุ่งยาก อยากให้ข้าช่วยสนับสนุนเขาตอนที่เขาผ่านทงเฉิง”
“หืม”
ไป๋อิงอิงสงสัยอยู่บ้าง ตามหลักการแล้วเรื่อง ‘การไปมาหาสู่’ ถึงแม้เถ้าแก่ของตัวเองขี้เกียจจะสนใจ แต่ถ้าสาวน้อยโลลิเป็นฝ่ายพูดกับโจวเจ๋อ โจวเจ๋อจะต้องพยักหน้าอนุญาตแน่นอน
ถึงแม้ตัวเถ้าแก่จะขี้เกียจออกหน้า แต่เขาจะต้องส่งคนของร้านหนังสือไปเป็นเพื่อนสาวน้อยโลลิอยู่แล้ว ซึ่งหมายความว่า สาวน้อยโลลิไม่จำเป็นต้องแอบมาขอร้องเธอ
“คนนั้น ตอนแรกเคยตามไล่ฆ่านักพรตเฒ่ากับผู้หญิงแซ่ถัง”
ไป๋อิงอิงเผยสีหน้าเข้าใจออกมา ดังนั้นเรื่องนี้จะให้คนอื่นในร้านหนังสือรู้ไม่ได้
อิงอิงรู้ดี เถ้าแก่ของตัวเองกับคนนั้นที่อยู่เมืองหรงเฉิงถึงแม้จะไม่ได้ไปมาหาสู่กัน แต่ระหว่างพวกเขาเคยจุดธูปสาบานกัน ผู้หญิงแซ่ถังคนนั้นหลังจากไปเซี่ยงไฮ้แล้วยังเคยกลับมาช่วยหนึ่งครั้ง ส่วนนักพรตเฒ่ายิ่งไม่ต้องพูด ถ้าหากปล่อยให้เขารู้ว่าสาวน้อยโลลิคิดจะช่วยคนที่เคยไล่ฆ่าตัวเอง นักพรตเฒ่า นักพรตเฒ่าจะต้อง…นักพรตเฒ่าจะต้องไม่กล้าสู้ด้วยตัวเองแน่นอน แต่จะยุยงให้เถ้าแก่โจวลิ้มรสชาติของยมทูตวัยละอ่อนไม่หยุด ด้วยเหตุนี้ สาวน้อยโลลิจึงมาขอร้องไป๋อิงอิง
เหล่าสวี่มีพลังไม่พอ เหล่าอันนอกจากโจวเจ๋อแล้วใครสั่งก็ไม่ขยับ จึงเหลือแต่ไป๋อิงอิงเท่านั้น
“ยุ่งยากไหม” ไป๋อิงอิงถาม
“ถ้ายุ่งยากมากเกินไป พวกเราก็ปล่อยทิ้งไปเลย” สาวน้อยโลลิพูดอย่างไม่ต้องสงสัย ความหมายอีกแง่หนึ่งก็คือช่วยได้ก็ช่วย ถ้าหากยุ่งยากเกินไป สามารถขายได้ก็ขาย
“อืม” ไป๋อิงอิงพยักหน้าถือว่าตกลงแล้ว
สาวน้อยโลลิดีใจเป็นอย่างมาก จากนั้นจึงถอดเสื้อผ้าเตรียมตัวมุดเข้าไปนอนหลับในผ้าห่ม ผลปรากฏว่าถูกไป๋อิงอิงยื่นมือผลักลงไป
“โอ๊ย!” สาวน้อยโลลิเบ้ปากด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ไปอาบน้ำ ถ้าไม่อาบน้ำห้ามขึ้นเตียง เถ้าแก่ไม่ชอบ”
“คนเจ้าชู้รักสะอาดน่ารำคาญที่สุด” สาวน้อยโลลิวิ่งออกไปด้วยความโกรธ หลังจากสามสิบนาทีผ่านไป สาวน้อยโลลิจึงกลับมาในชุดนอนพร้อมกับผมที่เปียกชื้นเล็กน้อย เธอแบมือทั้งสองข้างต่อหน้าไป๋อิงอิงแล้วพูดว่า “ข้าอาบน้ำสะอาดแล้ว” ขณะที่พูด เธอมุดเข้าผ้าห่มได้ในท้ายที่สุด แต่เพื่อความปลอดภัย สาวน้อยโลลิยังคงนอนข้างๆ ไป๋อิงอิง ไม่เข้าไปเบียดโจวเจ๋อ
ไป๋อิงอิงอ่านหนังสือต่อ สาวน้อยโลลิหันหน้ามองหน้าปกหนังสือแล้วพูดว่า “อ่านอันนี้ไม่มีประโยชน์”
“หืม”
“ต่อให้ความรู้ทางทฤษฎีเยอะแค่ไหน ก็สู้การปฏิบัติจริงไม่ได้ ยังต้องลงสนามจริงอีกเยอะ”
“ลงสนามจริง”
“ผู้ชายมีแต่คนเจ้าชู้ทั้งนั้น เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่หรอก แต่เจ้าต้องเข้าไปยั่วเขาก่อน” สาวน้อยโลลิพูดเหมือนคนที่ผ่านโลกมาก่อน ซึ่งเป็นความจริง เรื่องของผู้หญิงและผู้ชาย สาวน้อยโลลิอาบน้ำร้อนมาก่อนจริงๆ เสียดายที่ร่างกายของเธอยังเด็กเกินไป และเธอก็ต้องคิดเผื่อเจ้าของร่างกายนี้ จะทำตัวตามอำเภอใจไม่ได้
ถ้าหากตอนแรกเธอไม่ได้เข้ามาในร่างของเด็กผู้หญิง คาดว่าสาวน้อยโลลิน่าจะทำตัวลั้ลลานานแล้ว ไป๋อิงอิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงเข้าใจความหมายของสาวน้อยโลลิ
“ฮือๆๆ! แต่ด้านล่างของข้าเย็นเป็นน้ำแข็ง”
“เจ้าโง่เหรอ ปากของเจ้าก็เย็นเหรอ มือของเจ้าเป็นน้ำแข็งเหรอ ตรงนี้แล้วก็ตรงนี้ของเจ้าเย็นเป็นน้ำแข็งไปหมดเลยเหรอ” สาวน้อยโลลิลุกขึ้นไม่นอนแล้ว สงสัยคงเพราะไป๋อิงอิงรับปากที่จะช่วยเหลือเธอ ดังนั้นตอนนี้เธอจึงไม่ด่าอีกฝ่ายว่า ‘ผีดิบโง่’ แต่เริ่มเป็นอาจารย์แนะแนวเรื่องเพศศึกษา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล