ตอนที่ 445 คนโง่สองคน
“อ้าว พวกคุณก็รู้สึกว่ามีเหตุผลใช่ไหม” วินาทีต่อมา โคล่าที่อยู่ในมือของทนายอันถูกตัวเองบีบจนแหลกขณะเดียวกันเลือดเนื้อของมือซ้ายก็เริ่มหายไป กลายเป็นกระดูกสีขาวโผล่ออกมา แล้วตรงไปคว้าศพของผู้หญิงสองคนที่อยู่เหนือศีรษะ ว่าแล้วก่อนที่ศพผู้หญิงสองคนที่แขวนคอตายจะยิ้มให้ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นโจวเจ๋อหรือทนายอันจริงๆ แล้วต่างไม่เห็นถึงความผิดปกติอะไร พวกเขาแค่เทียบข้อมูลของครอบครัวนี้กับครอบครัวอื่นที่ตรวจสอบมาก่อนหน้านี้เท่านั้น
ไม่ว่าอย่างไรแต่ละครัวเรือนก็มีแต่คนแขวนคอตาย แต่ตอนที่ศพผู้หญิงทั้งสองศพนี้ยิ้มให้ การตอบสนองโดยสัญชาตญาณของคนทั้งสองไม่ใช่แหกปากร้องตะโกนว่า ‘ผี!!!!!!!!!!!!’ แต่กลับรีบลงมือทันที! ดังนั้นจึงสามารถพูดได้ว่า ถ้าหากให้พวกเขาไปแสดงภาพยนตร์ผี อารมณ์ร่วมของผู้ชมจะต้องน้อยมากอย่างแน่นอน
ไม่แน่ศพผู้หญิงสองศพนั้นอาจจะแค่อยาก ‘กระตุ้นให้ตกใจกลัว’ ในเวลาที่ ‘ความรู้สึกกำลังถลำลึก’ เท่านั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นคนหรือผี จริงๆ แล้วต่างก็มีคนที่ชอบแกล้งทำให้คนอื่นตกใจกันทั้งนั้น
แต่สิ่งที่ต้อนรับพวกเธอ กลับเป็นการ ‘ฟาดหน้าเข้าเต็มเปา’ ของทนายอันอย่างไม่ลังเล ทว่าตอนที่ทนายอันฟาดมือกระดูกสีขาวลงไป ผู้หญิงสองคนนั้นกลับกลายเป็นแสงสีฟ้าหายวับไปในพริบตา แล้วโจวเจ๋อที่นั่งอยู่ตรงนั้นรู้สึกว่าร่างกายทั้งสองข้างของตัวเองเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที เชือกเส้นหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา และพุ่งข้ามมาหาเขาด้วยความเร็วจี๋
ร่างกายของโจวเจ๋อเริ่มหงายไปด้านหลัง ทั้งตัวของเขาลื่นลงมาจากที่นั่ง เชือกตวัดรัดลงมาจากเหนือศีรษะของโจวเจ๋อ แต่คว้าน้ำเหลว หลังจากร่วงลงบนพื้น โจวเจ๋อใช้มือข้างหนึ่งตบพื้น พลิกตัวแล้วลุกขึ้น
“ฮิๆๆ…” เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้อยู่เหนือศีรษะของเขา!
“เถ้าแก่ ระวัง!” ทนายอันประนมมือท่องคาถาแล้วหงายมือขึ้นข้างบน “ยมโลกมีกฎระเบียบ กฎแห่งความตายไร้ความปรานี ผนึก!”
โจวเจ๋อรู้สึกถึงแรงเสียดสีของกระแสลมที่อยู่เหนือศีรษะของตัวเอง แต่เขาไม่ได้เงยหน้ามอง เพราะแสงสีฟ้าได้พุ่งเข้ามาหาตัวเองอีกครั้ง
‘พรืด!’ เล็บสีดำสิบนิ้วงอกยาวออกมา โจวเจ๋อวาดมือออกไปข่วนแสงสีฟ้าตรงหน้า
‘ฉึก…’ เล็บเหมือนแทงกวนอยู่ในทรายละเอียด อ่อนนุ่มและละมุนเป็นอย่างมาก จากนั้นแสงสีฟ้าก็หายไปด้วยเหตุนี้ โจวเจ๋อถอยหลังหนึ่งก้าว ปล่อยแขนทั้งสองข้างลงข้างลำตัวพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ
“ซี้ด…” ความเจ็บเหมือนโดนแทงทะลุหัวใจโจมตีเข้ามาโดยไม่มีลางบอกเหตุล่วงหน้า โจวเจ๋อก้มมองพบว่ามีรอยดำคล้ายกระปรากฏอยู่บนเล็บของตัวเอง และรอยดำพวกนั้นก็ปรากฏอยู่บนมือทั้งสองข้างของตัวเองเช่นกัน ความเจ็บปวดทรมานอย่างรุนแรงโจมตีประสาทส่วนกลางของเขาอย่างต่อเนื่อง
เป็นไปได้อย่างไร โจวเจ๋อเพิ่งเคยเจอผีที่ไม่กลัวเล็บของตัวเองเป็นครั้งแรก กระทั่งเป็นอีกฝ่ายกัดกร่อนเล็บของตัวเองเสียด้วยซ้ำ!
“ฮิๆๆ…” เสียงหัวเราะดังใกล้มากราวกับหัวเราะอยู่ข้างหูของตัวเอง มีกระจกบานหนึ่งติดอยู่ในห้องรับแขก โจวเจ๋อพลันเงยหน้ามองไปทางกระจก พบว่าด้านหลังของตัวเองมีใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่ง
หญิงสาวดูเหมือนถูกเขาแบกอยู่บนไหล่ เท้าทั้งสองข้างเหยียบอยู่บนสองมือของเขา จากนั้นขยับปากเข้าใกล้หูของเขาอย่างซุกซน เหมือนคู่รักกระซิบคำหวานต่อกัน
“ยมโลกมีกฎระเบียบ กฎแห่งความตายไร้ความปรานี สลาย!” ทนายอันตบไปที่หลังของโจวเจ๋ออย่างไม่ลังเล
ดังนั้นจึงสามารถพูดได้ว่า นี่คือความเอาใจใส่ของทนายอัน ถ้าหากตอนนี้โจวเจ๋ออยู่กับนักพรตเฒ่า เขาคงได้แต่หยิบยันต์กระดาษยืนเชียร์อยู่ข้างๆ ถ้าหากมากับอิงอิง เธอคงเอาแต่ฟังคำสั่งของโจวเจ๋อเท่านั้น ถ้าหากมากับสวี่ชิงหล่าง ถ้าเขาสามารถรับการโจมตีเมื่อครู่โดยไม่วิ่งหนีหายไปก่อนก็ถือว่าดีแล้ว
มีเพียงทนายอันเท่านั้น ที่น่ารักเอาใจใส่ ไม่ต้องเอ่ยปาก กระทั่งไม่ต้องประจบเอาใจ แค่เพียงส่งสายตาไป เขาก็จะแสดงท่าทีให้ความร่วมมือกับคุณเป็นอย่างดี
“โอ๊ย!!!!” โจวเจ๋อได้ยินเสียงร้องน่าเวทนาดังมาจากด้านหลังของตัวเอง ต่อจากนั้นโจวเจ๋อจึงประสานมือสองข้าง ทั้งสิบนิ้วเริ่มเสียดสีกันอย่างรุนแรง ชั่วเวลาเพียงครู่เดียวเกิดประกายไฟมากมายนับไม่ถ้วนออกมาจากการเสียดสีเล็บของตัวเอง ความรู้สึกแบบนี้ เหมือนการใช้พิษแก้พิษ เหมือนตัวเราโดนยุงกัดเป็นตุ่ม จึงเกาแรงมาก ถึงแม้จะรู้ว่าทำผิดและไม่ดีเป็นอย่างมาก แต่มันโคตรฟิน และในเวลานี้ก็ได้ผลมากจริงๆ
แสงสีฟ้าพุ่งออกมาจากตัวของโจวเจ๋อ ดูแล้วอ่อนแรงมากกว่าตอนแรก จากนั้นจึงดอดหนีไปทางหน้าประตู ส่วนแสงสีฟ้าอีกสายหนึ่งกลับพุ่งไปบนบันได
โจวเจ๋อกับทนายอันไม่ได้รีบร้อนไล่ตาม เพราะหมู่บ้านแปลกประหลาดแห่งนี้ หากกระทำการใดโดยพลการมักจะเกิดผลเสียตามมาอย่างคาดคะเนไม่ได้
“เถ้าแก่ ไม่เป็นไรใช่ไหม” ทนายอันถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร” โจวเจ๋อส่ายหน้าแล้วเอ่ยถาม “สองตัวเมื่อกี้คืออะไร” จะเป็นผีก็ไม่เหมือนผี ถ้าคุณคิดว่าพวกเธอเป็นผีดิบ แต่ว่าผีดิบจะสามารถลอยไปลอยมาแบบนี้ได้เหรอ
“ไม่แน่ใจเท่าไร แต่รู้สึกว่าเหมือนสิ่งนั้นเล็กน้อย” ทนายอันลังเลครู่หนึ่งแล้วกล่าวต่อว่า “เหมือนเหตุการณ์ของ จูเซิ่งหนานครั้งที่แล้ว ที่จู่ๆ ก็มีเงาดำสองเงาโผล่ออกมา” เงาดำทั้งสองที่สงสัยว่าเป็นผู้ตรวจสอบ ก็ลอยไปลอยมาอย่างนี้เหมือนกัน ดูเหมือนจะไม่มีร่างจริง แต่พลังกดข่มกลับยิ่งใหญ่มาก
“เถ้าแก่ สรุปแล้วจูเซิ่งหนาน…”
“จูเซิ่งหนานตายแล้ว ผมเป็นคนส่งดวงวิญญาณของเธอไปลงนรกด้วยตัวเอง” ในจุดนี้ โจวเจ๋อสามารถยืนยันได้แน่นอน
“แต่ยมทูตให้ลูกที่อยู่บนภาพสองตนนั้นยังสืบไม่รู้เรื่องเลย”
“ออกไปจากหมู่บ้านนี้ก่อนเถอะ” โจวเจ๋อเอ่ย
ทนายอันพยักหน้า พวกเขาไม่ใช่ทีมนักผจญภัย ไม่มีกำลังและจิตใจที่จะเสี่ยงภัย หรือจะพูดให้ถูกต้องก็คือ พวกเขาเป็นผู้ชายวัยกลางคนสองคนที่ถูกกาลเวลากัดกินจนเบื่อหน่ายไปหมดแล้ว เรื่องที่ไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขาก็ขี้คร้านจะสนใจจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล