ตอนที่ 46 ความโกรธเกรี้ยวและความโศกเศร้า
“พี่เล่อ” ลูกพี่ลูกน้องมองโจวเจ๋อที่บีบแก้วน้ำจนแตกละเอียดคามือไปทั้งอย่างนี้ มองเลือดสดๆ หยดลงจากฝ่ามือของโจวเจ๋ออย่างไม่ขาดสาย เขาตกใจจนทั้งร่างก้าวถอยหลังไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว
“พี่เล่อ ถ้าพี่เงินขัดสนละก็ ช่างมันเถอะ ช่างมันจริงๆ” ลูกพี่ลูกน้องกลัวอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่เอ่ยพูดเสียงสั่นเครือเล็กน้อย
พวกเขาคือตั๊กแตนที่ถูกมัดด้วยเชือกเส้นหนึ่ง ไม่ถึงขั้นใครขู่ใคร แน่นอนว่าในตอนแรกเขาคิดจะพึ่งใบบุญทางนี้เพิ่มเงินใช้จ่ายนิดๆ หน่อยๆ ถ้าเขาเร่งรัดลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง
ใช่ ลูกพี่ลูกน้องของเขาเป็นคนบงการ แล้วเขาล่ะ?
เขาก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด แม้กระทั่งระหว่างนั้นยังทำหน้าที่เป็นคนกลางคอยชักนำ ไม่ได้แปลว่าโทษฐานจะเบากว่าลูกพี่ลูกน้อง ส่วนคนขับรถบรรทุกคนนั้น แทบจะเป็นฆาตกรแล้ว
ดังนั้น เขาจึงไม่กล้าเร่งลูกพี่ลูกน้องตัวเองจนเกินไป เขาก็กลัวเช่นกัน
ในที่สุดโจวเจ๋อก็เข้าใจว่าทำไมสวีเล่อถึงมีเงินเพียงเล็กน้อย หลังจากที่ตัวเองยืมซากศพคืนชีพกลับมา ร้านหนังสือขาดทุนคือด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นเพราะสวีเล่อใช้เงินส่วนใหญ่ของตัวเองไปกับเรื่องนั้นทั้งหมด
เหลวไหลมาก
น่าขันเหลือเกิน
ท้ายที่สุดสาเหตุการเสียชีวิตของตัวเอง แท้จริงแล้วเป็นผลมาจากสิ่งนี้
เขากลับไปทรุดนั่งลงบนเก้าอี้อย่างห่อเหี่ยว โจวเจ๋อเห็นเศษแก้วปักอยู่บนฝ่ามือตัวเอง มองเลือดสดๆ ของตัวเองที่ยังคงหยดลงมา
เขาไม่ได้ห้ามเลือด ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดมากมาย
จนกระทั่งเขารู้สึกว่ามันช่างน่าสนใจมาก
แม้ว่าจะเป็นละครตลกร้ายยอดเยี่ยม ก็เขียนบรรยายการดูถูกความรู้สึกทั้งหมดของตัวเองในตอนนี้ไม่ได้หรอก?
ชายคนนั้นที่ขี้ขลาดเอามากๆ มาโดยตลอด ไม่มีความหยิ่งในศักดิ์ศรี และไร้ประโยชน์เหลือเกิน
ถึงกระทั่งต่ำต้อยจนตัวเขาเองรู้สึกว่าเป็นผู้ชายที่น่าสมเพชนิดๆ
กลับกลายเป็นตัวการสั่งฆาตกรรมตัวเอง!
ทุกสิ่งทุกอย่างวนเวียน ราวกับว่าวนกลับมาเป็นวงกลม
ใช่แล้ว คุณพูดได้ว่าวัฏจักรกงกรรมกงเกวียนไม่มีทางพลาด!
ใช่แล้ว คุณเข้าใจได้ว่าผลแห่งกรรมถูกกำหนดไว้แล้ว!
ใช่แล้ว คุณโห่ร้องได้ว่าฟ้ามีตา เมื่อออกมาป่วน ก็มักจะต้องกลับคืนไปเสมอ!
แต่พวกนี้เป็นความคิดเห็นของผู้ชมและจากมุมมองของผู้ชม พวกเขาตั้งตารอที่จะได้เห็นเรื่องราวการกระทำที่เลวร้ายและผิดกฎหมาย จบลงด้วยการที่คนเลวถูกลงโทษคนดีได้รับการชดเชยในตอนจบ
นี่ทำให้ผู้ชมรู้สึกปลอดภัยมาก และทำให้พวกเขารู้สึกดี
ทำให้ตอนที่กินอาหารเย็นพวกเขาอารมณ์ดีจนกินข้าวเยอะขึ้นอีกสองคำ
อย่างไรเสีย จะมีใครที่สามารถจ่ายเพื่อชีวิตเดิมของตัวเองได้?
โจวเจ๋อก้มศีรษะลงเล็กน้อย ร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทาขึ้นมาช้าๆ
ความโกรธเกรี้ยวเริ่มครอบงำทั้งร่างของเขา
หมอโจว
หัวหน้าโจว
ตั้งแต่ตัวเองออกจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ามาก็เจอขวากหนามทุกย่างก้าว แต่ละก้าวนั้นไม่ง่ายเลย!
เขาไม่มีภูมิหลังก็ไม่เป็นไร อาศัยความพยายามของตัวเองอย่างเข้มงวด พึ่งพาความสามารถของตัวเองในการปีนป่ายเข้าไปอยู่ในระบบของโรงพยาบาล ในขณะที่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณแพทย์ของตัวเองตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด ก็หวังว่าจะประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่และมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงขึ้นด้วย
ตัวเขาตัวสั่นงันงก ราวกับเหยียบอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ
ไม่ง่ายเลยที่จะปีนไปถึงตำแหน่งนั้นในวัยนั้นได้
ไม่ง่ายเลยที่ตัวเขาจะมีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวง ด้วยทักษะทางการแพทย์ของตัวเอง
เขาทุ่มเทหยาดเหงื่อแรงกายไปแล้วตั้งเท่าไร
เมื่อล้มตัวนอนบนเตียงกลางดึก ต้องคอยให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจกับตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า
จนกระทั่งฝืนทน กลืนฟันที่กัดจนแหลกละเอียดลงท้องไปตั้งกี่ครั้งแล้ว!
ไม่มีแล้ว ไม่มีอีกแล้ว!
เป็นเพราะไอ้เวรตะไลคนนี้
สวี่เล่อพบว่าภรรยาของตนเองแอบรักเขา
ภรรยาของสวี่เล่อไม่ได้นอนกับตัวเอง
สวี่เล่อน้อยใจ เขาโกรธแค้น เขาไม่ยอม!
เขาไม่เคยนึกย้อนเลยว่าทำไมตัวเองถึงเสียศักดิ์ศรีไปจนหมดสิ้นและจำยอมเป็นลูกเขยจำเป็นคนนี้
เขาไม่เคยนึกย้อนเลยว่าทำไมตัวเองถึงโดนผู้คนดูถูกในทุกๆ ที่
เขาไม่เคยคิดทบทวนตัวเอง
เขาไม่เคยพิจารณาตัวเอง
สวี่เล่อพุ่งเป้าระบายความโกรธมาที่ตัวเขา!
หากว่าเขามีความสัมพันธ์อะไรคลุมเครือกับภรรยาของอีกฝ่ายจริงๆ ก็ไม่เป็นไร
ตัวเขาในตอนนั้นลืมเด็กฝึกงานหน้าตาน่ารักคนนั้นที่เคยดูแลเมื่อหลายปีก่อนไปตั้งนานแล้ว!
ตัวเขาไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
แต่ในระหว่างทางที่เลิกงาน สี่แยกไฟแดงที่เขาเตรียมนำเค้กและของขวัญไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อฉลองวันเด็กกับพวกเด็กๆ คนขับรถบรรทุกคันใหญ่ที่รับเงินไปคันนั้นเหยียบคันเร่ง พุ่งตรงไปคร่าชีวิตเขาที่พยายามต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบากเพื่อให้ได้กลับมา!
“พี่เล่อ เอ่อ ผมไปก่อนนะ พี่ดูแลตัวเองให้ดีๆ นะ”
ลูกพี่ลูกน้องไม่กล้าอยู่ที่นี่ต่อ เขาหันหลังกลับและผลักประตูกระจกของร้านหนังสือออกไป เขายังต้องไปรับพ่อตัวเองที่ออกจากโรงพยาบาลกลับบ้าน ประกอบกับสถานการณ์ของโจวเจ๋อในตอนนี้แล้ว เขากลัวว่าจะไปกระตุ้นลูกพี่ลูกน้องที่เป็นโรคหมกมุ่นอยู่หน่อยๆ ปกติแล้วจะอ่อนแอ บอบบาง แต่ถ้าโหดขึ้นมาแม้แต่เขาก็ยังรู้สึกหวาดกลัว
‘ฉันจะฆ่าผู้ชายคนนั้น ฆ่ามันซะ! ใช้เงินที่ได้รับมาจากเธอ ฆ่ามันซะ!!!!!!’
ลูกพี่ลูกน้องยังจำเย็นวันนั้นเมื่อครึ่งปีก่อนได้ ลูกพี่ลูกน้องวางเงินหลายปึกกองไว้ตรงหน้าตัวเองและใบหน้าที่บิดเบี้ยวเมื่อพูดคำเหล่านี้
ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ที่เคยถูกตัวเองหัวเราะเยาะลับหลัง รู้สึกว่าไร้กระดูก ขี้ขลาด กระทั่งไม่คำนึงถึงขั้นที่ยอมแต่งไปอยู่บ้านภรรยา แม้แต่ลูกก็ไม่อาจใช้แซ่ของตัวเองได้
ในยามพลบค่ำวันนั้น ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ในใจของเขาอย่างสิ้นเชิง
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของลูกพี่ลูกน้อง ฝ่ามือที่เปื้อนเลือดของโจวเจ๋อและเล็บที่งอกยาวออกมาเรื่อยๆ หายไปอีกครั้ง
กลุ่มควันสีดำวนเวียนรอบๆ ปลายนิ้วของเขาไม่หยุด
ดวงตาของโจวเจ๋อยังคงแวววาวดุร้าย มีสีเลือดและสีดำสลับไปมาอยู่อย่างต่อเนื่อง
นี่เป็นศัตรูคู่อาฆาตของเขา
เป็นหนึ่งในตัวการ ที่ลอบฆาตกรรมตัวเขาเอง
เขาอยากเก็บผู้ชายคนนี้ไว้ตลอดไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล