ตอนที่ 466 สัตว์โลกน่ารัก
เสียงหัวเราะของนักพรตเฒ่าทำให้ ‘ผี’ ทั้งหลายที่อยู่ในศาลาลูบศีรษะด้วยความงุนงง และเคยได้ยินแต่ผีทำให้คนตกใจ แต่วันนี้กลับเป็นคนที่ทำให้ผีจตกใจแท้ๆ
แม้แต่พ่อหนุ่มที่แต่งหน้าเข้มมีกลิ่นแป้งรุนแรงที่เอาหน้าเข้ามาใกล้นักพรตเฒ่า สายตาของเขาก็มีความลังเลอยู่บ้าง ถ้าหากมี ‘ผี’ นั่งอยู่ในศาลาจริงๆ อย่างนั้นก็ไม่ต้องรู้สึกยุ่งยากอะไร และเพราะไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็คงพุ่งเข้ามาฉีกร่างของนักพรตเฒ่ากันแล้ว
แต่ประเด็นสำคัญคือพวกที่นั่งอยู่ตรงนี้ ล้วนเป็นยมทูตทั้งสิ้น เมื่อทำงานให้ยมโลกนรก ดังนั้นจึงมีความคิดมากกว่าผีเหล่านั้น เวลาจะทำอะไรก็ต้องคิดก่อนเสมอ ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ก็ต้องหาเหตุผลออกมาเจ็ดแปดข้อ ไม่อย่างนั้นมัวแต่นั่งอยู่บนเก้าอี้เย็นๆ ในนรกอย่างเดียวก็น่าเบื่อใช่ไหมล่ะ
สำหรับบุคคลระดับสูงของยมโลก ยมทูตเป็นสินค้า ‘ฟุ่มเฟือย’ อย่างหนึ่งยมทูต จึงมีอัตราการเสียหายสูงที่สุด แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่รู้จักพัฒนาตัวเองแต่กลับรู้จักรักษาเอาตัวรอด พวกเขาจะไม่ถูกทำลายและจะไม่ถูกเลื่อนขั้น ยึดส้วมหลุมเดิมเอาไว้ตลอด แต่กลับใช้ชีวิตเหมือนคนรุ่นเก่าแบบเดิมกินบุญเก่า แต่งตัวเหมือนยุคสาธารณรัฐเป็นประชาชนของชาติ
ตอนที่สาวน้อยโลลิไปหรงเฉิงเป็นเพื่อนยมทูตกลุ่มนั้น ต้องให้ค่าผ่านทางกับยมทูตรุ่นเก่าอยู่ไม่น้อย อยากจะหารายได้อย่างเงียบๆ ต้องดูว่าจะทำกำไรได้ไหม ทว่าจุดจบกลับน่าอนาถ
พวก ‘ผี’ ที่อยู่ในศาลาก็คือตัวแทนของยมทูตรุ่นเก่า และไม่รู้ว่าเพราะอะไรพวกเขาถึงมารวมตัวกันที่นี่ แต่นักพรตเฒ่าไม่อยากรู้ เขาคิดว่าตัวเองเผลอเข้ามาในรังผีโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาแอบด่าบรรพบุรุษของทนายอันอยู่ในใจก่อน จากนั้นจึงยื่นมือล้วงเข้าไปในเป้ากางเกงอย่างไม่ลังเล และจอมยุทธ์ในนิยายกำลังภายในมักจะฝึกวิชาชักดาบ ซึ่งพิถีพิถันในเรื่องของความเร็ว โหด และแม่นยำ! แต่ของนักพรตเฒ่าคือวิชาชักเป้ากางเกง ซึ่งใช้แนวทางการฝึกแบบในทางเดียวกัน
และครั้งนี้ ด้วยแรงกระตุ้นจากของวิกฤตของการอยู่รอด เขาจึงชักเป้ากางเกงออกมาเร็วและแม่นยำมากกว่าแต่ก่อน ปลายนิ้วนอกจากหนีบยันต์กระดาษแล้วยังมีเส้นชขนสีดำหยิกหยอยสองสามเส้นติดอยู่ด้วย เขาไม่สนใจอะไรแล้ว จากนั้นจึงแปะไปยังหน้าใบหน้าที่แต่งหน้าเข้มโดยตรง!
“โอ๊ย!!!!!!!!!!!” เสียงร้องดังออกมาอย่างน่าสงสาร ยันต์กระดาษถูกเผา และคนที่แต่งหน้าเข้มก็โดนเผาไปด้วยจากนั้นจึงสลายกลายเป็นควันในพริบตา!
นักพรตเฒ่าก็ตกใจเช่นกัน แม่เจ้าโว้ย โดนขังอยู่ในคุกหนึ่งเดือนกว่า วิชาของข้าพัฒนาขนาดนี้แล้วเหรอ
ถ้าหากทนายอันยืนอยู่ข้างๆ คาดว่าคงจะทำตาขาวกลอกตาใส่นักพรตเฒ่าโดยตรง พัฒนาฝีมือเหรอ ฝันไปเถอะ เพราะร่างแยกของคนพวกนี้ทำมาจากกระดาษต่างหาก ถ้าหากยมทูตถูกยันต์กระดาษเผาภายในพริบตา อย่างนั้นคุณนักพรตเฒ่าก็โคตรเก่งเลย
นักพรตเฒ่าสะบัดหัว ลูบเป้ากางเกงอีกครั้ง หยิบยันต์กระดาษออกมาอีกใบหนึ่ง แล้วจ้องมองไปที่พวก ‘ผี’เหล่านั้น
‘ผี’ พวกนี้ไม่ได้รีบพุ่งเข้ามา แต่มีหนึ่งในนั้นที่ส่งเสียงดัง และยัง ‘พูดพึมพำ’ เหมือนในปากเต็มไปด้วยดินโคลน ฟังไม่ถนัด
แต่ภายในบ้านหลังเดี่ยวที่อยู่ตรงข้ามสระน้ำ ชายชราที่กำลังหลับนอนกับผู้หญิงอายุน้อยกว่ารีบลุกขึ้นทันที “เกิดเรื่องแล้ว ผมจะไปดู”
ยมทูตหญิงกลับใช้เท้าเกี่ยวหลังของเขาทันที ใช้แรงหนีบแล้วตะโกนว่า “อีกนิดเดียวเอง” ชั่วพริบตาเดียว ‘นทีไหลเป็นสายยาวสุดตา’ เฮ้ห้อ เสร็จแล้ว แต่ก็จริงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น
ชายชราลงจากเตียง เดิมทีผู้ชายใส่ชุดสูทสองคนที่เดิมทียืนมองชมศึกรบอยู่ข้างๆ มีคนหนึ่งเดินเข้ามาช่วยใส่เสื้อผ้าให้ชายชรา ชายชราส่งสายตาให้อีกคน จากนั้นผู้ชายใส่ชุดสูทคนที่สองจึงเดินออกไป
“เป็นอะไร” ยมทูตหญิงก็ใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน เธอจริงๆ แล้วเธอเสียดายเล็กน้อย เพราะชายชราคนนี้เป็นแค่อาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้น ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร แต่จริงๆ เธออยากชิมรสชาติของผู้ชายใส่ชุดสูทที่เป็นหุ่นเชิดสองคนนั้นมากกว่า
“ไม่รู้ว่าคนแก่พวกนั้นร้องทำไม ดีนะที่ท่านผู้สูงส่งผมไม่เคยคิดจะอาศัยพวกเขาจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงจะมีแต่เรื่องที่ทำไม่าสำเร็จสักอย่าง ให้โบกธงโห่ร้องยังพอไหว แต่ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ คนกลุ่มนี้ขี้ขลาดวิ่งหนีเร็วกว่าใครทั้งนั้น! คุณเก็บกวาดที่นี่ให้เรียบร้อย ผมจะออกไปดูหน่อย แล้วก็จะมีนักท่องเที่ยวอีกสองสามกลุ่มกำลังจะมา รอให้จัดการเรื่องเสร็จก่อน แล้วผมจะป้อนคุณให้อิ่ม”
“ได้ค่ะ” ยมทูตหญิงส่งสายตาเย้ายวนออกไป แต่ในใจของเธอคิดอย่างไร กลับไม่รู้แล้ว
พวกเขาไม่รู้สึกว่าตัวเองมั่วเซ็กส์กัน รีบหาความสุข คือคำสอนที่พวกเขามีอยู่ตอนนี้
…
และภายในห้องหรูอีกห้องหนึ่ง ทั้งสามคนกำลังชิมไวน์และวางแก้วลงพร้อมกัน เสียงโห่ร้องของกลุ่มยมทูตรุ่นเก่าที่อยู่ในศาลา มีผลกับผีทั้งหลายทั้งหมด เหมือนคลื่นเสียงที่ส่างผ่านค้างคาว ทนายอันเหวี่ยงแก้วลงบนพื้นทันที เกิดเสียงดังขึ้นมา ขณะเดียวกันได้ตบมือลงไปแล้วเอ่ยว่า “เฮ้ ทหารหาจุดระเบิดทำหน้าที่เสร็จแล้ว พวกเรขาไปกันเถอะ!”
เดิมทีเป็นสงครามปะทะของคนเลวกับคนเลวด้วยกัน ถ้าดึงดันจะแต่กลับคิดแผนการรบที่ซับซ้อนนั้นเป็นอะไรที่ไร้สาระ ประเด็นสำคัญมีอย่างเดียวคือ ’จัดการแม่งเลย!’ ถึงแม้จะเป็นยมทูตด้วยกัน แต่ทุกคนต่อสู้กันแบบนี้ก็คือรูปแบบการทะเลาะกันของพวกอันธพาล แกมาก่อเรื่องในถิ่นของข้าทำให้ข้าเกือบโดนตำรวจจับ ข้าจึงฉวยโอกาสตอนที่แกหันหลังหยิบก้อนอิฐไปทุบศีรษะของแก!
…
“พวกคุณอย่าเข้ามา อย่าเข้ามา! ขอเทียนจุนอำนวยพรมีแต่ยมทูตรุ่นเก่าทั้งนั้น อมิตาภพุทธ!” นักพรตเฒ่าถือยันต์กระดาษหันใส่ ‘ผี’กลุ่มนี้
ยมทูตกระดาษทั้งหลายไม่มีใครกล้าเข้ามา ถึงแม้จะเป็นร่างแยก แต่ถ้าถูกเผาร่างกายที่แท้จริงก็จะเสียหายไปด้วย พวกเขาไม่ว่าใครก็ไม่อยากเสียเปรียบ นี่คือนิสัยแท้ๆ ของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว พวกผียมทูตรุ่นเก่าทั้งหลายมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆน่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน คนที่ยังมีชีวิตอยู่มีแต่พวกหัวไวทั้งนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล