สรุปเนื้อหา ตอนที่ 513 เชิญออกมา! – ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet
บท ตอนที่ 513 เชิญออกมา! ของ ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 513 เชิญออกมา!
เหล่าสวี่เคยบอกแล้ว เขาจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขาพูดจริงจังมาก ทำให้โจวเจ๋อลังเลอยู่บ้าง เมื่อก่อนเวลาดูทีวี จริงๆ แล้วพวกที่โจวเจ๋อเกลียดที่สุดคือ นางเอกหรือตัวประกอบคนอื่นที่รู้ตัวดีอยู่แล้วว่าความสามารถไม่ถึง แต่ก็ยังเข้ามาทำให้วุ่นวาย มักจะแบกรับทุกอย่างไว้กับตัวเอง สุดท้ายพอเกิดเรื่อง ก็ต้องให้ตัวเอกไปจัดการอยู่ดี
ตอนเรียนมหาวิทยาลัยโจวเจ๋อได้รับผลกระทบจากเพื่อนร่วมห้อง ตอนที่กลับมาจากทำงานพาร์ตไทม์แคยดูนารูโตะเป็นเพื่อนเขา ดูไม่เยอะมาก แต่รู้สึกว่าซากุระชอบจุ้น
พูดจริงๆ นะ เรื่องนี้โจวเจ๋อสับสนพอสมควร ถ้าหากเหล่าสวี่เพียงแค่อยากปกป้องหรือเพื่อดำเนินความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ต่อ จึงพยายามแบกรับเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ไม่อยากให้คนอื่นเข้ามายุ่ง เรื่องนี้จะทำให้โจวเจ๋อและคนอื่นในร้านหนังสือรู้สึกไม่ชอบใจอย่างมาก
เพราะหากตัวคุณรับไม่ไหว ถึงตอนนั้นก็ต้องให้ทุกคนมาตามเช็ดก้นให้คุณอยู่ดี อวดเก่งอวดดีคุณทำไปแล้ว เก่งกาจเหลือเกิน แต่ถึงตอนนั้น คนที่ยุ่งเกือบตายก็คือคนอื่น
แบบนี้ไม่เหมือนนักพรตเฒ่า ถึงแม้นักพรตเฒ่าจะชอบก่อเรื่อง แต่เจตนาของนักพรตเฒ่าไม่ได้ทำเพื่อก่อเรื่องเลยเกิดเรื่อง เขาแก่แล้ว แต่ยังรักชีวิต กลัวตายอย่างมาก เขามักจะเข้าไปเจอเรื่องเสี่ยงต่างๆ โดยไม่ตั้งใจ แต่จะไม่ขี่ม้าแกว่งดาบพุ่งเข้าใส่รถถังแบบนั้น!
ทว่าเหล่าสวี่อาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล เหล่าสวี่ สามารถจัดการได้ไหม
“เถ้าแก่ ยังดื่มกาแฟไหม” อิงอิงถามเสียงเบา เธอมองออกว่าเถ้าแก่ของตัวเองกำลังคิดเรื่องอะไรบางอย่าง
โจวเจ๋อส่ายหน้า
“มา พวกเราไปอาบน้ำกัน อาบน้ำให้ตัวเองสะอาด แล้วตัวจะได้หอมๆ จากนั้นก็เข้านอน”
ทนายอันอุ้มเด็กผู้ชายเข้าไปในห้องน้ำอยากจะช่วยอาบน้ำให้เขา เขาอิจฉาโจวเจ๋อที่มีอิงอิงอยู่ด้วยมานานแล้วในที่สุดตอนนี้เขาก็มีใยไหมสะอาดเป็นของตัวเองแล้ว
เด็กผู้ชายทำสีหน้าไม่พอใจ แต่เมื่อทนายอันรับปากว่าวันพรุ่งนี้จะพาเขาไปรับสาวน้อยโลลิตอนเลิกเรียน เขาจึงตกลง ยอมศิโรราบเพื่อความรัก
หนึ่งเด็กหนึ่งผู้ใหญ่เข้าไปอาบน้ำ ทนายอันยังพูดว่าจะเป่าผมก่อน แล้วจึงสั่งให้เด็กผู้ชายขึ้นไปข้างบนเลี้ยวซายไปที่ห้องนั้นก่อน นอนบนเตียงรอเขาขึ้นไป
โจวเจ๋อหันหน้ามองฝนที่ตกหนักนอกหน้าต่าง ไม่รู้ว่าทำไมเขามักจะรู้สึกว่าฝนที่ตกวันนี้ ให้บรรยากาศที่ไม่เหมือนเดิมเล็กน้อย
เหล่าสวี่ออกไปข้างนอก เดดพูลกับหญิงสาวตัวดำยังเดินอยู่ที่สุสานสาธารณะ สาวน้อยโลลิกลับบ้านไปโรงเรียนร้านหนังสือจึงเงียบลงทันที
ทนายอันอาบน้ำเสร็จเป่าผมทำทรงหล่อเรียบร้อย แล้วจึงใส่ชุดนอนลายเสือดาวเดินออกมา
“อ้าว พวกคุณยังไม่นอนเหรอ” ทนายอันเหมือนกำลังถามว่าพวกคุณยังไม่ได้กินข้าวเหรอ
โจวเจ๋อส่ายหน้า
“อย่างนั้นผมขอขึ้นไปนอนก่อนนะ” ทนายอันสะบัดศีรษะ เดินขึ้นไปข้างบนอย่างมีความสุข ราวกับทาสขับร้องลำนำหลังได้รับการเลิกทาส ประชาชนปลดปล่อยพื้นที่ที่ศัตรูยึดครอง
“ทนายอัน เปลี่ยนไปเยอะนะคะ” อิงอิงพูดกับโจวเจ๋อเสียงเบา
ตอนแรก ทนายอันทำท่าเหมือนนายทหารกองทัพแห่งชาติถูกลากเข้าไปในกองพลที่แปด อันนั้นก็ดูถูก อันนี้ก็ดูถูก
“คนเรา มักจะเปลี่ยนไปเสมอ” โจวเจ๋อพูดอย่างไม่เห็นด้วย
“ไม่ใช่ เถ้าแก่ อิงอิงพบว่ามีหลายคนตอนที่เพิ่งรู้จักกัน ก็รู้สึกว่าเท่กันทุกคน แต่หลังจากเข้ามาในร้านหนังสือแล้วก็เปลี่ยนไป” อิงอิงก้มหน้า เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ “อ้อ ข้าเข้าใจแล้ว คือวัฒนธรรมองค์กร! ใช่แล้ว ได้รับการกล่อมเกลาจากวัฒนธรรมองค์กร!”
โจวเจ๋อยกกาแฟขึ้นมา ไม่อยากคุยเรื่องนี้ต่อ แต่ในแก้วมีแต่ความว่างเปล่า เขาจึงมองไปที่อื่นกลบเกลื่อนความเก้อเขิน แล้วจึงเห็นว่าอิงอิงไม่ได้ถือหนังสือ ‘การฝึกฝนทักษะของสาวใช้’ แล้ว โจวเจ๋อจึงชี้ไปที่หนังสือเล่มนั้นแล้วพูดว่า“ช่วงนี้อ่านหนังสืออะไร”
“’อัตชีวประวัติของเจ้าของกิจการ’ ซื้อบ้านไว้เยอะ แต่น่าโมโหจริงๆ ตอนนี้ดูเหมือนราคาบ้านจะไม่ขยับขึ้นแล้ว ข้ายังต้องกังวลทุกวันว่ามันจะลดลงมาวันไหน ดังนั้นข้าจึงอยากเรียนรู้การทำธุรกิจ ดูว่าจะทำได้ไหม”
อ้อ อยากเปลี่ยนจากซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นเจ้าของกิจการเหรอ
“ดีมาก ผมเชื่อว่าคุณทำได้” โจวเจ๋อพยักหน้า ถ้าหากอิงอิงอยากทำธุรกิจ เขาก็สนับสนุน ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีเงินลงทุนอยู่แล้ว
“เหล่าโจว” เวลานี้ ที่มุมหนึ่งของทางเดิน ทนายอันโผล่ศีรษะออกมา โบกมือให้โจวเจ๋อที่นั่งอยู่ข้างล่าง
“มีอะไร” โจวเจ๋อถาม
“คุณขึ้นมาดูสิ”
โจวเจ๋อลุกขึ้นเดินตามทนายอันขึ้นไปข้างบน
ประตูห้องของสวี่ชิงหล่างเปิดอยู่ ทนายอันเดินนำโจวเจ๋อเข้าไป แล้วพูดในเวลาเดียวกัน “ผีดิบน้อยเข้าผิดห้องเข้ามาในห้องของสวี่ชิงหล่าง ผมเข้าไปพาเขาออกมา แต่กลับเจออย่างอื่น”
ก่อนหน้านี้ เนื่องจากร้านหนังสือมีห้องจำกัด จึงเคยเกิดเหตุการณ์นอนห้องเดียวกันหลายคนมาก่อน
เมื่อหนึ่งปีก่อน ตอนที่สวี่ชิงหล่างเปิดร้านที่นี่ จริงๆ แล้วทำธุรกิจส่งอาหารเดลิเวอรี่มากกว่า ปกติจะมีลูกค้าสองสามคนเข้ามากินที่ร้านเท่านั้น แต่ในร้านของเขากลับสะอาดสะอ้านเป็นอย่างมาก เหมือนกับตัวของเขานั่นเอง
เขากวาดพื้น ถูพื้น แล้วหยิบผ้าเช็ดทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม สวี่ชิงหล่างทำอย่างเอาจริงเอาจัง จากนั้นก็เริ่มผัดผัก ทำกับข้าว ไม่ช้าอาหารสามอย่างกับน้ำซุปหนึ่งอย่างก็วางอยู่บนโต๊ะ วันนี้เขาเป็นเจ้ามือเลี้ยง หลังจากถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้ว ก็รินเหล้าให้ตัวเอง
สวี่ชิงหล่างนั่งอยู่ริมโต๊ะ รินเหล้าและดื่มเหล้าคนเดียว ไม่นานมาก ท่ามกลางความมืดมิดยามราตรีด้านนอกได้มีผู้หญิงชุดกระโปรงสีแดงคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอใส่รองเท้าส้นสูงสีแดง กระโปรงสีแดง กิ๊บติดผมสีแดง รวมทั้ง…ริมฝีปากสีแดงสด
ผู้หญิงยืนอยู่หน้าประตูด้วยท่าทางสำรวม ภายใต้การส่งสัญญาณของสวี่ชิงหล่าง เธอจึงเดินเข้ามา เธอเท้าแพลงเล็กน้อย เธอบอกว่าตัวเองเดินไม่ระวังเลยสะดุด จึงสามารถมองออกว่า เธอไม่ค่อยสบายอยู่บ้าง และเธอก็รีบตอนที่ออกมา อย่างน้อยก็ไม่มีเวลาใส่ใจเรื่องการแต่งกายของตัวเองมากเท่าไร
สวี่ชิงหล่างรินเหล้าให้เธอ เธอเริ่มกินข้าว สวี่ชิงหล่างจุดบุหรี่หนึ่งมวน พลางมองเธอกินข้าว
“คุณมีพี่สาวหนึ่งคนใช่ไหม” สวี่ชิงหล่างถาม
“ฉันมีพี่สาวหลายคนค่ะ” ผู้หญิงตอบ
สวี่ชิงหล่างหัวเราะ เขานึกถึงวันที่ตัวเองตื่นมาหลังจากเป็นคู่นอนคืนเดียวในวันนั้น พบว่ามีเงินสองพันหยวนหรือสามพันหยวนอยู่บนหัวเตียง
“คุณอยากให้ฉันแนะนำพี่สาวน้องสาวให้คุณรู้จักเหรอ” ผู้หญิงทำปากจู๋ ตอนที่พูดถึงผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าผู้หญิงคนหนึ่ง เธอจะต้องไม่สบายใจแน่นอน
สวี่ชิงหล่างส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “เธอตายแล้ว” ตายในอ้อมอกของตัวเขาเอง
ผู้หญิงตกตะลึง สีหน้าเริ่มเปลี่ยนจากกระตือรือร้นกลายเป็นความเฉยเมย จากนั้นเธอวางตะเกียบลง
สวี่ชิงหล่างยกแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วดื่มเหล้าที่เหลือหมดรวดเดียว
ผู้หญิงลุกขึ้น สายตาจ้องมองเขาตาเขม็ง แล้วพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “คุณรู้ว่าฉันเป็นใคร”
สวี่ชิงหล่างไม่ตอบคำถามนี้ แต่หันข้างมองด้านหลังของตัวเอง ตรงนั้นคือทิศของห้องครัว เขายังพอจำได้ ทุกเย็นตัวเขากับพ่อแม่หนังมนุษย์ของเขาจะนั่งด้วยกัน ครอบครัวนั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน เขายังจำได้อีกว่า วันนั้นสาวน้อยโลลิที่อยู่ร้านข้างๆ มาที่ร้านของเขา แล้วอ้าปาก ‘ยมโลกมีกฎระเบียบ ข้ามสู่แดนน้ำพุเหลือง…’ จากนั้นก็ดูดวิญญาณพ่อแม่ของเขาเข้าไปในปากส่งเข้าสู่ประตูนรกไปต่อหน้าต่อตาเขา
วันนั้นเขาคลานอยู่บนพื้น ทั้งตะโกน ร้องไห้ และขอร้องอีกฝ่าย แต่กลับไม่มีประโยชน์
……………………………………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล