ตอนที่ 547 พลิกเมฆา คว่ำพิรุณ!
ตั้งแต่ปฏิบัติดี อ้อไม่ใช่ ตั้งแต่ถูกสอนให้เชื่องและนำมาเลี้ยงที่บ้าน ดูเหมือนจะไม่ใช่อีก ไม่ว่าอย่างไรหลังจากที่เด็กผู้ชายเข้ามาอยู่ในเมืองแล้ว ก็ไม่เคยอยู่ในโหมด ‘ระเบิดพลัง’ เลย
และไม่เคยอยู่ในจังหวะของ ‘การเกิดใหม่ในเมืองของราชาผีดิบ’ อะไร ในแต่ละวันแค่ไปโรงเรียน ทำการบ้าน แล้วก็นอนเป็นเพื่อนคนอื่น เหมือนเสือตัวหนึ่งถูกกดหัว สั่งให้มันกินหญ้า แล้วก็ให้มันร้องไห้พูดว่า ‘หญ้านี้อร่อยมากจริงๆ!’ ส่วน ‘การกระทำอย่างราชาผีดิบเฉกเช่นข้า ไม่จำเป็นต้องอธิบายกับใคร’ ยังไม่เคยเกิดขึ้นจนถึงตอนนี้
เขาในตอนนั้นถูกโจวเจ๋อจัดการจนอ่วม และตกใจอกสั่นขวัญแขวนเมื่อเจอนิสัยที่ประหลาดของอิ๋งโกว ดังนั้นหลังจากถูกโจวเจ๋อพากลับมา ก็เชื่อฟังคำสั่งของโจวเจ๋อมาตลอด ประพฤติตัวเรียบร้อย ไม่กล้าล้ำเส้นแม้แต่ก้าวเดียว
เด็กผู้ชายบิดคอ ยกสองมือขึ้นในระนาบเดียวกัน จากนั้นเล็บทั้งสิบนิ้วจึงค่อยๆ งอกยาวออกมา แลเห็นคมเขี้ยวทั้งสองอยู่ในปากเป็นระยะ อบอุ่นร่างกาย เตรียมตัวให้พร้อม
“เหอะๆ” หัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงได้แต่หัวเราะ “คุณอาศัยเขาฆ่าลู่ผิงจื๋อใช่ไหม”
ตอนนี้ข้อมูลที่ได้คือ ผู้หญิงคนนี้มาเพื่อลู่ผิงจื๋อ ทว่าเป็นศัตรูหรือเป็นมิตรกับลู่ผิงจื๋อ โจวเจ๋อเองก็ไม่แน่ใจ
“ฮ้า!” เด็กผู้ชายพุ่งออกไปด้วยความเร็วสุดขีด ความสามารถของเขาโจวเจ๋อเคยเห็นมากับตาตัวเอง และภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ ‘เพิ่มน้ำตาล’ เถ้าแก่โจวก็สู้เขาไม่ได้ เป็นแมลงสาบฆ่าไม่ตายจริงๆ
‘ปึ้ง!’ ร่างกายของหัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงถูกกระแทกลอยออกไป ทั้งตัวเธอเหมือนถูกชนเละ เสียงดัง ‘พลั่ก’ ติดกำแพงแล้วจึงร่วงลงมาอย่างช้าๆ แต่แล้วร่างของเธอก็หลอมรวมใหม่อีกครั้ง
ผู้หญิงทำมาจากน้ำ แต่หัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงเหมือนจะทำมาจากดินน้ำมัน ซึ่งตามโฆษณาชอบใช้คำว่า‘เด้งดึ๋งๆๆ เด้งให้รอยตีนกาออกไป’ แต่เธอไม่ต้อง เธอสามารถสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ได้ด้วยตัวเอง
“คุณเป็นแค่ยมทูตคนหนึ่งเท่านั้น ของของลู่ผิงจื๋อ คุณคืนฉันมาเสียดีๆ” ผู้หญิงเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มเล็กน้อยเหมือนเดิม
โจวเจ๋อสายตาจ้องนิ่ง สิ่งของ สิ่งของอะไร ชั่วเวลาเดียว โจวเจ๋อดูเหมือนอยากจะซัดทนายอันหน้าโง่สักหน่อยร่างของลู่ผิงจื๋อถูกทนายอันจับฝังไปแล้วพร้อมวลีที่ว่า ‘ความตายนั้นแสนสั้น จะยึดมั่นไปไย’ โดยที่ยังไม่ได้คลำตัวของเขาว่าบนตัวของเขายังมีสิ่งของอะไรหรือไม่
แต่หัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงดูเหมือนจะเข้าใจผิด จึงเอ่ยว่า “สงสัย ของนั่นจะอยู่ในมือของคุณจริงๆ” วินาทีต่อมาด้านล่างของร่างผีดิบน้อยปรากฏแอ่งขี้ผึ้งออกมา ท่ามกลางแอ่งขี้ผึ้งปรากฏมือมากมายนับสิบ กำลังจับขาทั้งสองข้างและเอวของเด็กผู้ชาย
“ฮ้า!” เท้าทั้งสองข้างของเด็กผู้ชายหยุดทันที แล้วร่างกายก็พลันสั่นไหว มือที่อยู่ใต้ร่างแตกละเอียดภายในพริบตา จากนั้นจึงกางแขนทั้งสองข้าง ไอพิฆาตที่น่าสะพรึงกลัวแต่ละสายเริ่มก่อตัวแน่น ก่อนจะเริ่มเขย่งปลายเท้าขึ้นจนดูเหมือนว่าคนจะลอยได้ แล้วพุ่งเข้าหาหัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงโดยตรง
หัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงถูกจับอีกครั้ง และถูกจับโดยไร้ซึ่งการต่อต้าน เล็บทั้งสิบของเด็กผู้ชายทิ่มเข้าไปในร่างของเธอ แม้แต่ไอพิฆาตก็ไหลซึมเข้าไปพร้อมกัน เริ่มต้นฆ่าอย่างบ้าคลั่ง ชั่วเวลาเพียงครู่เดียว คานไม้ในพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งเต็มไปด้วยการจู่โจมของไอพิฆาต ขี้ผึ้งกระเด็น ทุกจุดล้วนเป็นแขนขาที่แตกหัก ทุกจุดล้วนมีแต่อวัยวะภายในกระเด็นกระดอนเหมือนกำลังเดินเข้าไปในสถานทูตซาอุดีอาระเบีย
ถ้าหากเป็นคนเป็นคนอื่น อาจจะถูกเด็กผู้ชายฉีกร่างแบบนี้ก็ได้ ด้วยสัญชาตญาณของผีดิบก็เป็นเช่นนี้แล!
อิงอิงในตอนแรกกับเด็กผู้ชายที่อาศัยอยู่ข้างนอกในอดีต ต่างไม่ใช่คนที่มีนิสัยเหมือนตอนอยู่ในร้านหนังสือแบบนี้เด็ดขาด!
รอจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว เด็กผู้ชายจึงร่วงลงไปบนพื้นอีกครั้ง ใบหน้าของเขาไม่มีสีหน้าขอความดีความชอบแต่กลับมองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง
“มอบให้ฉันเถอะ พอให้ฉันแล้ว ฉันก็จะไป ไม่ว่ายังไงของสิ่งนั้น คุณถือไว้ก็ไม่มีประโยชน์” ตรงริมหน้าต่างหัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงเดินออกมาอีกครั้ง เธอเดินเข้าไปในหุ่นขี้ผึ้งอีกตัวที่อยู่ตรงหน้า สักพักหุ่นขี้ผึ้งตัวนั้นจึงเริ่มละลายกลายเป็นรูปร่างของหัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิง
“ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายกับคุณ อย่างมากก็แค่ล้อเล่นกับคุณเท่านั้น ระหว่างพวกเรา ไม่จำเป็นต้องสู้กันเอาเป็นเอาตาย ไม่ใช่เหรอ”
เด็กผู้ชายมองหัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิง ครั้งนี้เขาไม่ได้เป็นฝ่ายจู่โจมก่อน เพียงแค่หมุนองศาตัวอย่างเงียบๆ ยืนบังอยู่ตรงหน้าร่างกายของโจวเจ๋อ
การประมือสองครั้ง ดูเหมือนจะฆ่าเสร็จแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับไม่หวาดกลัวแต่อย่างใด สามารถฟื้นตัวกลับได้ดังเดิม คู่ต่อสู้แบบนี้ สู้ลำบากและน่ารำคาญอย่างยิ่ง
โจวเจ๋อกลับหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวน แล้วถามอย่างจริงจังว่า “คุณถือสิทธิ์อะไรคิดว่าผมเป็นคนฆ่าลู่ผิงจื๋อ เพียงเพราะว่าผมเป็นยมทูตที่นี่อย่างนั้นเหรอ”
ลู่ผิงจื๋อหากจะพูดอย่างเข้มงวดแล้ว เขาหลบหนีมาจากนรกจริง ยมทูตจับและทำลายเขา จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่แล้ว แต่คุณลืมตาดูสิ ไม่ว่าอย่างไร โจวเจ๋อยังไม่เคยเจอคนที่มองผลประโยชน์ของยมโลกเป็นผลประโยชน์ของตัวเอง ยอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อเป็นยมทูตต้นแบบอย่างสมบูรณ์
“คนของนรกขุมที่เก้า ชอบทรมานวิญญาณชั่วเพื่อความสนุกสนาน พวกเขากระทั่งแข่งขันกันด้วยเรื่องนี้ ติดชื่อของตัวเองบนตัวของวิญญาณร้าย และแข่งกันว่าวิธีทรมานของใครได้ผลกว่า มีความคิดสร้างสรรค์มากกว่า ฉันเห็นตราประทับของเขาอยู่บนตัวของคุณ”
โจวเจ๋อพ่นควันบุหรี่ออกมา คนที่ฆ่าลู่ผิงจื๋อตายคืออิ๋งโกว ไอ้หมอนั่นไม่ต่างอะไรกับคนโง่ แค่หมัดเดียวก็ทุบคนตายแล้ว คาดว่าเขาคงไม่ได้สนใจเรื่องเล็กๆ แบบนี้ว่ามีหรือไม่มีตราประทับอะไร
เถ้าแก่โจวรู้สึกว่าวันหลังจะปล่อยอิ๋งโกวออกมาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ไม่ได้กลัวว่าหลังจากเขาฟื้นตัวกลับมาแล้วจะกินตัวเอง แต่เป็นเพราะเรื่องที่ไอ้หมอนั่นก่อไว้ช่วงนี้คือ ปล่อยพระขี้เรื้อนไปหนึ่งครั้ง และอีกครั้งคือตราประทับของลู่ผิงจื๋อ เขาเก่งมาก ตาสูงราวหัว ไม่สนใจหมาแมวเหล่านี้ แต่เขาพอเล่นสะใจแล้วก็กลับไปนอน ส่วนตัวเองกลับต้องช่วยเขารับมือกับมาม่าซังที่มาทวงเงิน ถือสิทธิ์อะไร!
“ได้ ถ้าหากผมบอกว่าสิ่งนั้น ไม่ได้อยู่กับผม และผมก็ไม่รู้ว่าที่คุณพูดหมายถึงของอะไร คุณจะเชื่อไหม”
หัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงส่ายหน้า “ฉันไม่เชื่อหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล