ตอนที่ 548 หัวหน้าเผ่าของฉัน
เจ้าหน้าที่ทั้งสามคนของพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง หลังจากใช้ท่า ‘พลิกเมฆาคว่ำพิรุณ’ แล้ว เด็กผู้ชายที่เป็นตัวปัญหาสุดในสายตาของพวกเขาได้ถูกควบคุมแล้ว ต่อไปไม่มีอะไรมากไปกว่าได้รับสิ่งที่พวกเขาต้องการ
แต่น่าเสียดายมากที่เถ้าแก่โจวไม่รู้ว่าพวกเขาอยากได้อะไรกันแน่ ทว่าเถ้าแก่โจวได้ตัดสินใจแล้ว รอจัดการทางนี้เสร็จ เขาจะลากทนายอันไปอำเภอหรูเกาอีกครั้ง แล้วสั่งทนายอันขุด ‘อดีตของเขา’ ออกมาอีกครั้งด้วยตัวของเขาเอง
จะต้องพลาดอะไรไปแน่นอน และของสิ่งนั้นจะต้องสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่อย่างนั้นผู้หญิงคนนี้คงไม่ดั้นด้นมาที่นี่ และพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งน่าจะเป็นของจริง ซึ่งเปิดบริการอยู่ที่นี่ แต่เจ้าหน้าที่ทั้งสามคนในพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งกลับถูกฆ่าและสวมรอยแทน
เด็กผู้ชายได้เด็ดหัวของเธอลงมาแล้ว ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่าคนตายแล้วแน่นอน ทุกอย่างถูกจัดการโดยไม่มีช่องโหว่ เพียงเพื่อรอให้ตัวเขามา
แต่วันนี้ถ้าหากหวังเคอไม่ได้พาสาวน้อยโลลิมา ตัวเขาเองก็คงไม่มาแน่นอน หรือว่าพวกเขาไม่คิดที่จะลงมือในวันนี้เลยด้วยซ้ำ อาจจะเชิญเขามาอีกทีหลังจากที่เปิดให้บริการไปแล้ว แต่ใครจะคิดว่าวันแรกตัวเขาเองก็มาหาถึงที่แล้ว
เฮ้อ นี่คือคนเคราะห์ร้ายแท้ๆ ดื่มน้ำเย็นก็ติดร่องฟันได้
เด็กผู้ชายฟุบอยู่บนพื้น โซ่สีดำแต่ละสายรายล้อมไปทั่วร่าง เหมือนมารร้ายที่ถูกจองจำอยู่ที่นี่ กำลังรอรับโทษของตัวเอง ไม่ว่าเขาจะโมโหคำรามอย่างไร ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไร ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากโซ่เส้นนี้ได้แม้แต่นิดเดียว เขาโกรธมาก เพราะเขาอยากเรียนหนังสือ อย่างน้อยในช่วงนี้เขาอยากตั้งใจเรียนหนังสือจริงๆ!
เด็กน้อยที่น่าสงสาร จะทนไหวไม่ยอมให้เขาเรียนหนังสือได้อย่างไร
วินาทีต่อมาหัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อ ใบหน้าของเธอแนบชิดอยู่ตรงหน้าของโจวเจ๋อ เธอยิ้มเล็กน้อย ยังคงเป็นรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่น่ารำคาญเหมือนเดิม
“พวกเราไม่อยากเป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น ในความเป็นจริงก่อนหน้านั้นพวกเราแค่ได้รับข้อมูลจากลู่ผิงจื๋อ จึงตั้งใจเดินทางมาที่ทงเฉิงเพื่อทำธุรกิจกับเขาโดยเฉพาะ ก่อนหน้านั้นคุณทายถูกแล้ว พวกเราไม่ใช่คนของยมโลก ถึงแม้คุณจะเป็นแค่ยมทูตตัวเล็กๆ ก็ตาม แต่ในเมื่อคุณสามารถควบคุมผีดิบระดับนี้มาทำงานให้คุณได้ พวกเราไม่สามารถดูหมิ่นคุณได้จริงๆ เอาอย่างนี้ดีไหม คุณอยากได้อะไร พูดออกมา พวกเราจะเจรจาธุรกิจนี้กับคุณ”
“ผมอยากคุยกับคุณ” โจวเจ๋อพูดอย่างจริงจัง ก่อนหน้านั้นคือหุ่นขี้ผึ้งของอิ๋งโกวที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ ต่อมาคือท่า ‘พลิกเมฆาคว่ำพิรุณ’ โจวเจ๋อรู้สึกว่าน่าจะคุยกันให้ดี
หัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงลุกขึ้นอย่างช้าๆ เธอตัวสูงมาก บวกกับรองเท้าส้นสูงที่เสริมเธอเข้าไปอีก ทำให้เธอสูงกว่าโจวเจ๋อเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเธอกำลังครุ่นคิด จากนั้นจึงพูดอย่างสงสัยว่า “นี่คือเงื่อนไขของคุณเหรอ” ความหมายนอกเหนือจากนี้คือ คุณไม่ได้แกล้งพวกเราใช่ไหม
“นี่คือเงื่อนไขของผม”
“เอ่อ ขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่สามารถรับปากคุณได้ เพราะเวลาของพวกเราไม่เยอะแล้ว” หัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงส่ายหน้าด้วยความลำบากใจอย่างยิ่ง พลางชี้นิ้วไปที่เด็กผู้ชายที่ถูกควบคุมอยู่ตรงนั้นแล้วเอ่ยว่า “พวกเราขังเขาไว้ได้ไม่นาน พูดจริงๆ นะ เขาเป็นตัวปัญหามากจริงๆ เป็นตัวปัญหาที่พวกเราคาดไม่ถึงก่อนหน้านี้”
“อ้อ ขอโทษนะครับ เป็นผมเองที่คิดไม่รอบคอบ” โจวเจ๋อยื่นมือ เล็บยาวออกมาทั้งห้านิ้ว พลางหลับตา หากมองให้ดีละก็ จะสามารถมองเห็นว่าปลายเล็บของโจวเจ๋อกำลังสั่นเล็กน้อย จากนั้นโซ่ที่มัดอยู่บนตัวของเด็กผู้ชายจึงคลายออกในพริบตาเดียว กลายเป็นโซ่เบาหวิวเหมือนต้นหญ้าในทันใด
“ฮ้า!” เด็กผู้ชายลุกขึ้นทันทีแล้วคำรามออกมา เขาหลุดพ้นจากการจองจำแล้ว!
“โอเค ช่วยจัดการข้อกังวลนี้ให้พวกคุณแล้ว”
“…” หัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิง
พวกคุณไม่ต้องกังวลว่าจะมัดเขาได้ไม่นานอีก เพราะเขาหลุดจากโซ่นั้นแล้ว พนักงานสองคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แทบไม่อยากจะเชื่อกับฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้าเมื่อครู่เลยด้วยซ้ำ
ใบหน้าของหัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงได้เผยสีหน้าตื่นตระหนกออกมาเช่นกัน สักพักหนึ่งเธอจึงถอยหลังหนึ่งก้าวโน้มตัวให้โจวเจ๋อเล็กน้อย
“ฉันต้องขอโทษสำหรับการละเมิดล่วงเกินของฉันที่มีต่อคุณก่อนหน้านี้ และรู้สึกโชคดีมาก ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำให้คุณต้องบาดเจ็บ”
การก็อปปี้หุ่นขี้ผึ้งสองสามตัวออกไป จริงๆ แล้วเป็นแค่เกมอย่างหนึ่งเท่านั้น และหุ่นขี้ผึ้งสองสามตัวนั้นต่างคิดว่าเป็นตัวเองจริงๆ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างความเสียหายอะไร
แน่นอนว่า สิ่งที่หัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงไม่รู้คือ ภรรยาของหวังเคอมีสติไม่ค่อยดี หลังจากเธอพบว่าสามีและลูกสาวของตัวเองเป็นตัวปลอม จึงได้รับการกระตุ้น และอยากฆ่าพวกเขา! นี่คือสิ่งที่พูดต่อหลังจากนี้
โจวเจ๋อลูบคางของตัวเอง แล้วกล่าวว่า “พวกเราตอนนี้คุยกันได้หรือยังครับ”
“ได้ค่ะ คุณมีคุณสมบัติที่จะทำธุรกิจกับพวกเราแล้ว” หัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงชี้ไปที่พนักงานสองคนที่หมอบคลานอยู่พื้นแล้วเอ่ยว่า “พวกคุณเก็บกวาดที่นี่หน่อย”
“ค่ะ”
“ครับ”
อาจจะเป็นเพราะโจวเจ๋อสามารถปลดพันธนาการของเด็กผู้ชายได้อย่างง่ายดายก่อนหน้านั้น จึงทำให้หัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงรู้สึกว่าตัวเองเจอเรื่องยุ่งแล้ว
การตัดสินใจมากมายก่อนหน้านี้จึงถูกล้มล้างด้วยเหตุนี้ อย่างเช่น ใครอาศัยใครกันแน่ สามารถปราบผีดิบระดับนี้ ปราบให้เชื่องให้เชื่อฟังได้ จะต้องเก่งกว่าผีดิบตัวนี้แน่นอน
นี่คือยมทูตไม่ผิดแน่ แต่ไม่ใช่ยมทูตทั่วไปเด็ดขาด อีกทั้งยมทูตทั่วไปก็จะไม่ฆ่าและแย่งของจากลู่ผิงจื๋อ
หัวหน้าพิพิธภัณฑ์หญิงส่ายหน้า เธอรู้สึกว่าตัวเองใจร้อนไปเล็กน้อย และไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเท่าไร
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะการปลดพันธนาการอย่างง่ายดายของโจวเจ๋อเมื่อครู่นี้ เธอจึงรู้สึก ‘เลื่อมใสและศรัทธา’โจวเจ๋อทันที คิดว่าเขาเป็นผู้สูงส่งที่อยู่ในคราบของยมทูตเท่านั้น
เธอเป็นไปไม่ได้ที่จะคิดว่า กระบวนท่าที่พวกเธอเคารพนับถือ ยังมีชื่ออื่นสำหรับโจวเจ๋อเช่นกัน
เด็กผู้ชายมองโจวเจ๋อ เมื่อเห็นโจวเจ๋อพยักหน้า เด็กผู้ชายจึงเก็บเขี้ยวทันที กรงเล็บฟื้นคืนกลับสภาพปกติแล้วกลับไปยืนอยู่ด้านหลังของโจวเจ๋ออย่างเงียบๆ พลางพูดเบาๆ ว่า “ไอ้โซ่นั่น เมื่อกี้รัดข้าเกือบตายแน่ะ” เขาอยากเรียนหนังสือ อยากเรียนหนังสือจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล