ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 585

ตอนที่ 585 ความลับของแม่นางไป๋!

ตอนนี้โจวเจ๋อร้อนรนเล็กน้อย เทศกาลเสื้อกันหนาวผ่านไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวทั้งอย่างนี้ สำหรับคำพูดเตือนจากใจของแม่นางไป๋ที่ให้ไว้ในตอนแรก ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างโจวเจ๋อและอิงอิงในปัจจุบัน ไม่อาจจะพิจารณาเผาอิงอิงให้สิ้นซากได้

เพียงแต่ว่า มันประหลาดๆ คำพูดของคนที่ซ่อนอยู่ในชุดการ์ตูนเมื่อครู่นี้หมายความว่าอย่างไร ใช่แม่นางไป๋จริงๆ หรือเปล่า หรือว่าเป็นของเล่นอย่างอื่นที่ทำตัวเป็นปีศาจอยู่ที่นี่

ส่วนลึกในดวงตาของโจวเจ๋อฉายแววแดงก่ำ มันเป็นเพราะความโกรธล้วนๆ เดิมทีเป็นเพราะเจ้าโง่หลับใหลไม่มีที่สิ้นสุด โจวเจ๋อจึงรู้สึกว่าตัวเองต้องถ่อมตนกว่านี้หน่อย ก่อนหน้านี้ฆ่ากวาดล้างยมทูตทั้งหมดในคลับ เป็นเพราะว่าเขาหิวมากจริงๆ นั่นเป็นทางเลือกที่เลี่ยงไม่ได้ และในเวลานี้นรกกำลังตกอยู่ท่ามกลางความโกลาหลวุ่นวายของตัวมันเอง ไม่ว่าจะเป็นยมโลกหรือผู้พิพากษาลู่ที่รับผิดชอบการฝึกฝนในครั้งนี้ล้วนไม่สามารถดูแลครอบคลุมถึงที่นี่ได้ ดังนั้นฆ่าไปแล้วก็แล้วกันไป กินแล้วก็จบกันไป เขาเองก็มีหนังสือรับรองยมทูตอำพรางไว้ ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน

ครั้งนี้เขาตั้งใจว่าหลังจากพาอิงอิงไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์และกลับไป ก็จะซ่อนเร้นความสามารถเอาไว้ให้มิด ให้เขาเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จับกุมก่อนแล้วค่อยลองหาวิธีที่สามารถปลุกให้เจ้าโง่ตื่น แต่กระนั้นการถ่อมตนไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเต่าหดหัวอยู่ในกระดอง ระยะเวลาห่างจากสถานการณ์ที่เขาได้สัมผัสประสบการณ์การต่อสู้กับพวกพญายมก่อนหน้านี้เพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น อารมณ์ของเถ้าแก่โจวในตอนนี้เดิมทีก็ไม่มั่นคงนัก ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้มีคนประหลาดๆ โผล่มาอีกคน คิดไม่ถึงว่าจะกล้าแตะเกล็ดย้อนของเขา!

“เดี๋ยวข้าจะโทรศัพท์สักหน่อย” นักพรตเฒ่าหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงพูดขึ้น “ไม่มีคนรับสายเลยเถ้าแก่”

โจวเจ๋อรีบถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก แล้วเอามาปิดบังใบหน้าของตัวเองไว้ เขี้ยวสองซี่งอกออกพร้อมส่งเสียงคำรามต่ำอันน่าอึดอัดออกมา คนธรรมดาทั่วไปได้ยินไม่ชัดเจน แต่โจวเจ๋อเชื่อว่าเด็กชายที่อยู่กับอิงอิงจะสามารถรับรู้มันได้อย่างแน่นอน ไม่นานนักสัญญาณเหมือนกันสองครั้งดังมาจากฝั่งทิศตะวันตก สัญญาณแรกเป็นของเด็กชาย อีกสัญญาณหนึ่งเป็นของอิงอิง

ฮู่ว…

อิงอิงปลอดภัยดี

“ตรงนั้นใช่รถไฟเหาะทรอนไลต์ไซเคิลพาวเวอร์รัน[1]หรือเปล่า”

โจวเจ๋อวิ่งไปทางนั้น นักพรตเฒ่าก็ตามหลังมาติดๆ ไม่นานนัก โจวเจ๋อก็เห็นอิงอิงและเด็กชายวิ่งออกมาด้วยสีหน้าร้อนรนที่ตรงบริเวณประตูทางออก สาวน้อยโลลิถือน้ำผลไม้ในมือยืนอยู่ไม่ไกล ดูเหมือนว่าเธอไม่สนใจเล่นสิ่งนั้น ก่อนหน้านี้ไม่ได้เข้าไปด้วย พอมาคิดดูแล้วก่อนหน้านี้ที่นักพรตเฒ่าโทรไปหาแล้วไม่มีคนรับสายเป็นเพราะว่าพวกเขากำลังเล่นเครื่องเล่นรายการนี้อยู่พอดี

“เถ้าแก่เกิดเรื่องอะไรขึ้นเจ้าคะ” อิงอิงเดินเข้าไปใกล้โจวเจ๋ออย่างกระวนกระวายเล็กน้อย ส่วนโจวเจ๋อกลับเอื้อมมือออกไปกอดอิงอิง มืออีกข้างแนบท้ายทอยเธอกดลงซบอกตัวเองไว้

“งื้อ~~~” อิงอิงผงะไปครู่หนึ่ง แต่ก็เริ่มรู้สึกประหลาดใจโดยสัญชาตญาณ จงรู้ไว้ว่าเถ้าแก่ของเธอไม่บุ่มบ่ามแสดงความสนิทสนมประเภทนี้ออกมาเมื่ออยู่ข้างนอก อีกทั้งดูเหมือนว่าเธอยังสัมผัสได้ถึงความอดรนทนรอไม่ได้อีกด้วย

สาวน้อยโลลิที่ดื่มน้ำผลไม้อยู่ข้างๆ เบ้ปาก ทำหน้าบอกบุญไม่รับ แล้วถลึงตาใส่เด็กชายที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอและกำลังจะยื่นมือออกมาเลียนแบบทำตาม ไอรีนโนเวล

“ออกไป!”

“เล่นสนุกกันพอแล้วใช่ไหม พวกเรากลับกันเถอะ กลับทงเฉิงกัน”

ในบรรดาคนกลุ่มนี้ โจวเจ๋อพูดอะไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น ทันใดนั้นทุกคนก็ไปรอสวี่ชิงหล่างอยู่ตรงทางออก จากนั้นก็ขับรถออกจากลานจอดรถโดยไม่รีรอ ขับกลับไปยังทิศทางของทงเฉิงทันที

มนุษย์เราหากพบกับภัยคุกคามที่เหนือการควบคุม ปฏิกิริยาที่ทำโดยไม่รู้ตัวก็คือถ่อกลับรังเก่าตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก สนามทีมเหย้าที่คุ้นเคย สภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย บรรยากาศที่คุ้นเคย แม้ว่าจะไม่ได้ช่วยมากนัก แต่ก็สามารถทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ

โจวเจ๋อกับไป๋อิงอิงขับรถหนึ่งคัน ส่วนคนอื่นๆ ก็ขับรถอีกหนึ่งคัน

เมื่อขับรถมาถึงทางด่วน ไป๋อิงอิงถึงได้เริ่มถามโจวเจ๋อด้วยน้ำเสียงจริงจังเล็กน้อย “เถ้าแก่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่เจ้าคะ”

“อิงอิง ฮูหยินของคุณ ตั้งแต่แรกก็เป็นเพียงคุณหนูตระกูลร่ำรวยสมัยราชวงศ์ชิงจริงเหรอ”

ครั้งสุดท้ายที่ได้ยินเสียงแม่นางไป๋คือเมื่อหนึ่งปีครึ่งที่แล้ว แม้จะบอกว่าน้ำเสียงการพูดการจาของ ‘สโนว์ไวต์’ ก่อนหน้านี้จะคล้ายกับเสียงของแม่นางไป๋มากจริงๆ แต่โจวเจ๋อก็ไม่อาจปักใจว่าใช่เสียงของเธอจริงๆ แต่ถ้าเป็นแม่นางไป๋ละก็ นรกเพิ่งเผชิญกับการโจมตีและความวุ่นวายที่น่าสะพรึงกลัว พญายมเก้าในสิบตำหนักของยมโลกล้วนเกิดปัญหาร้ายแรง เธอดันมีเวลาว่างถ่อมาถึงโลกมนุษย์เพื่อแกล้งทำตัวเป็น ‘ผู้พยากรณ์’ ต่อหน้าเขาอีกเนี่ยนะ

ปกติแล้วมีแต่หนังป็อปคอร์น[2]ของยุโรปและอเมริกาเท่านั้นถึงจะมีสไตล์ประเภทนี้ถึงจะถูก เธอว่างขนาดนั้นเลยหรือ

“เอ่อ ใช่เจ้าค่ะ”

โจวเจ๋อใช้มือข้างหนึ่งจับพวงมาลัย ส่วนมืออีกข้างหนึ่งกุมหน้าผากตัวเองไว้ตลอดเวลา ตลอดเวลาที่ผ่านมาความรู้ความเข้าใจที่เขามีต่อแม่นางไป๋โดยส่วนใหญ่ล้วนฟังมาจากการเล่าของอิงอิง และเมื่อสองร้อยปีก่อนอิงอิงก็นอนอยู่แต่ในโลงศพ การรับรู้และเข้าใจของเธอ จริงๆ แล้วล้วนได้มาจากการพูดคุยสนทนากับแม่นางไป๋

“เดี๋ยวหลังกลับร้านหนังสือไปแล้วคุณก็ไม่ต้องออกไป…ช่างเถอะ คุณไปกับผมแล้วกัน ตอนนี้โทรหาเหล่าอันบอกให้เขารอผมอยู่ที่ใต้สะพานทางด่วน”

“เจ้าค่ะ” อิงอิงรีบหยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาเหล่าอัน หลังจากบอกคำขอของเถ้าแก่แล้ว อิงอิงถือโทรศัพท์พลางมองเถ้าแก่และพูดว่า “เถ้าแก่ ทนายอันบอกว่าท่านบล็อกเบอร์โทรศัพท์เขาเจ้าค่ะ วีแชตก็ไม่ตอบ ตอนนี้เขาอยากจะคุยสายกับท่าน”

“วางสายเดี๋ยวนี้!”

“อื้อ” อิงอิงวางสายโทรศัพท์และเหลือบมองเถ้าแก่อีกครั้งอย่างระมัดระวัง เธอไม่รู้ว่าเถ้าแก่เจอเรื่องอะไรมา แต่จากในความทรงจำแล้วดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเห็นเถ้าแก่ดูลุกลี้ลุกลนอย่างนี้มาก่อนเลย

รถทะยานไปด้วยความเร็ว หนึ่งชั่วโมงกว่าให้หลังรถได้ผ่านสะพานใหญ่ซูทงลงจากทางด่วน ถือว่าได้เข้าสู่เขตแดนของทงเฉิงแล้ว

เป็นไปตามคาด รถของทนายอันจอดรออยู่ตรงหน้าจริงๆ

โจวเจ๋อหยุดรถ ทนายอันรีบผลักประตูลงจากรถทันที สีหน้าเหมือนคนเห็นผีพร้อมกับตะโกนว่า “แม่งเอ๊ย เถ้าแก่ ทั้งนรกถูกทำลายเละเป็นโจ๊กก่อนหน้านี้เกี่ยวข้องกับคุณใช่ไหม เถ้าแก่!”

ทนายอันมีช่องทางติดต่อสื่อสารกับนรกเป็นของตัวเอง และข่าวคราวที่เล็ดลอดออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อนก็มากพอที่จะทำให้เขาตกตะลึงอ้าปากค้างไม่หุบอยู่นานทีเดียว เขานึกถึงเถ้าแก่ของตัวเองโดยสัญชาตญาณ เพราะเรื่องราวคงไม่บังเอิญขนาดนั้น เถ้าแก่เพิ่งจะลงนรก แต่ปรากฏว่าเกิดเรื่องโกลาหลในนรกเสียได้ จะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับเถ้าแก่เลยสักนิด ทนายอันไม่เชื่อหรอก แม้จะบอกว่าเถ้าแก่ไม่มีความสามารถนี้ แต่เจ้านั่นในร่างเถ้าแก่เป็นถึงเจ้าทะเลแห่งความตายในกาลก่อนเชียวนะ ถ้าหากเขาอยากจะเล่นงานก็สามารถเล่นงานได้จริงๆ

สิ่งที่น่าโมโหที่สุดก็คือ หลังจากเถ้าแก่ของเขากลับมาแล้ว เขาทั้งโทรหา ส่งข้อความวีแชตไปอีกฝ่ายก็ไม่ตอบกลับเลย ทนายอันใจร้อนจนเกือบจะขับรถตามไปถามต่อหน้าถึงเซี่ยงไฮ้อยู่รอมร่อ ถึงอย่างไรระยะทางก็ไม่ไกลด้วย

“เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้…”

“ไม่ได้ ไม่มีเรื่องอะไรใหญ่โตไปมากกว่าเรื่องนั้นแล้ว รีบบอกผมมาเร็วๆ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” ทนายอันคว้าไหล่โจวเจ๋อด้วยมือทั้งสองข้างอย่างตื่นเต้นมากและแหกปาก “ผมแม่งแทบจะหายใจไม่ออกอยู่ในร้านหนังสือเพราะความอยากรู้อยากเห็นอยู่แล้วคุณรู้บ้างไหม!”

“อิ๋งโกวทำน่ะ ซัดร่างธรรมของพญายมเจ็ดแปดองค์กระจุย ก่อนหน้านี้พญายมผิงเติ่งหวังยังไม่ตาย แต่ครั้งนี้ตายจริงๆ แล้ว ตอนนี้อิ๋งโกวก็ตื่นขึ้นมาไม่ได้ด้วย โอเค เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงแล้ว” ดฮณ๊ฯดฯฌซ,

ทนายอันมองโจวเจ๋อด้วยท่าทีเหมือนคนท้องผูกสุดๆ คุณแม่งช่วยอย่าเล่าสั้นๆ ง่ายๆ จะได้ไหม มีการเล่าเรื่องอย่างคุณแบบนี้ที่ไหนกัน ขั้นตอนล่ะ รายละเอียดล่ะ ความสะใจล่ะ

“ตอนนี้ไปพิพิธภัณฑ์ทงเฉิงกับผมก่อน สถานที่เล็กๆ แห่งนั้นน่ะ ผมมีบางอย่างต้องสืบให้ชัดเจนหน่อย”

“ไม่ใช่ เถ้าแก่…” ทนายอันมีท่าทางไม่พอใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล