ตอนที่ 597 ผู้ริเริ่มความเสี่ยง!
เทพเจ้าประจำเมืองลืมตาขึ้น ทันใดนั้น กำแพงอากาศไร้รูปได้ปกคลุมไปทั่ววัดเฉิงหวงเมี่ยว ในช่วงที่รุ่งเรืองสูงสุด วัดเฉิงหวงเมี่ยวแห่งเดียวสามารถคุ้มครองได้ทั้งเมือง กระทั่งยังหน้ามีหน้าที่บังลมบังฝน เป็นเจ้าครองนครที่ไม่ต้องอยู่ในการจัดเรียงลำดับของยมโลก
เวลานี้ถึงแม้เวลาจะล่วงผ่านเลยไป ไม่เฟื่องฟูเหมือนก่อน แต่การออกโรงปกคลุมวัดของตัวเองกลับไม่ใช่ปัญหาอะไร
เหล่าผู้คนที่มากราบไหว้ขอพรในวัดเฉิงหวงเมี่ยวรู้สึกสะลึมสะลือขึ้นมาในทันใด เหมือนกำลังสัปหงก หลายคนเคยมีประสบการณ์เช่นนี้ในชีวิตประจำวัน ที่ตัวเองนั่งสัปหงกโดยไม่รู้ตัว แต่เวลากลับผ่านไปไวมาก
แน่นอนว่า ส่วนใหญ่เป็นเพราะตัวเองสัปหงกจริง แต่มีส่วนน้อยที่มีสถานการณ์คล้ายกับผู้คนที่มากราบไหว้ขอพรในวัดเฉิงหวงเมี่ยว ซึ่งอยู่ในสถานะผู้ถูกกระทำ
หลังจากเรื่องนี้ผ่านไป ผู้ที่มากราบไหว้ขอพรส่วนใหญ่จะไม่รู้ตัว แต่มีบางคนที่ความรู้สึกไว อาจจะรู้สึกว่าเมื่อครู่ตัวเองเหม่อนานไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้สงสัยอย่างอื่น
นักพรตเฒ่ากับโกวซินและคนอื่นเดินมาถึงหน้าประตู แล้วจึงมองเห็นลายเส้นสีเหลืองเส้นหนึ่งปรากฏอยู่บนธรณีประตู เพียงหนึ่งเส้นตัดขาดจากทุกสิ่ง ถ้าหากฝืนบุกรุกเข้ามา ก็จะเป็นฝ่ายเข้ามาหาเรื่องกับเจ้าของบ้าน
เสี่ยวเฮยเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เตรียมจะทำลายการควบคุมโดยตรง ไม่ว่าข้างในจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องให้ตัวเองและคนอื่นออกไปก่อนถึงจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
แต่โกวซินกลับยื่นมือจับไหล่ของเสี่ยวเฮยไว้ เพื่อบอกเป็นนัยให้เขาอย่าทำแบบนี้ เดิมทีมาทงเฉิงเป็นแค่ทางผ่านเท่านั้น และก่อนหน้านั้นที่ไปร้านหนังสือ ก็แค่ไปดูจริงๆ จนกระทั่งได้พบกับเถ้าแก่ร้านหนังสือคนนั้น เขาถึงได้เกิดความคิด ‘ชอบคนเก่งมีความสามารถ’
แต่ตลอดการเดินทางในทงเฉิง ถือว่าคลื่นลมสงบมากเกินไป เดิมทีเขาเป็นคนอยู่นิ่งไม่ได้ เวลานี้ได้เห็นความคึกคักน่าตื่นตาตื่นใจ ดังนั้นจึงมีความสุขอย่างมาก
หลายคนกลัวที่จะดูความคึกคักสนุกสนาน เพราะกลัวว่าตัวเองจะพลอยซวยไปด้วย ซึ่งเหมือนกับตอนที่เถ้าแก่โจวอยู่ที่วังในนรกช่วงก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่ามียมทูตกี่คนถูกบังคับให้อยู่ในวังเพื่อดูความคึกคักผลปรากฏว่าถูกระเบิดตายเป็นเบือ
แต่โกวซินไม่เหมือนกัน ตอนที่เขาดูความคึกคัก โดยทั่วไปจะไม่เจอหายนะไปด้วย และมักจะได้ของดีกลับมาเป็นประจำ เจอคุณตาที่บาดเจ็บหนัก เจอแหวนที่ร่วงหลังจากพวกเขาชกต่อยกัน เป็นคนมีบุญ จึงมีความมั่นใจที่แตกต่างออกไป
โกวซินนั่งอยู่บนบันได เสี่ยวเฮยกับเสี่ยวไป๋ที่อยู่ด้านหลังก็นั่งตาม พวกเขาเชื่อใจผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่อย่างนั้นคงไม่ติดตามเขามาตลอด
ด้วยความสามารถของพวกเขา หากเทียบเคียงกับผู้ตรวจสอบตัวจริงอาจจะไม่ถึงขั้นนั้น แต่เมื่อเทียบกับผู้จับกุมทั่วไปถือว่าแข็งแกร่งกว่าเยอะมาก สาเหตุที่พวกเขายินดีติดตามโกวซิน ก็เป็นเพราะโกวซินใช้แต่ละเรื่องเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็นโอรสสวรรค์ที่ถูกเลือกอย่างแท้จริง หากอยู่กับเขาก็จะสบายมีเนื้อให้กิน ดังนั้นจึงยอมติดตามอย่างไม่คิดถึงแก่ชีวิต พอได้กินเนื้อนานวันเข้าย่อมกลายเป็นสุนัขเป็นธรรมดา
นักพรตเฒ่ารู้สึกลนลานอยู่บ้าง แต่เวลานี้เขาเป็นตัวแทนที่เป็นหน้าตาของร้านหนังสือ ดังนั้นจะเสียท่าไม่ได้ โดยเฉพาะนักพรตเฒ่ารู้อยู่แก่ใจดี หากเกิดความยุ่งเหยิงในเวลานี้ ด้วยความสามารถของเขา อย่าว่าแต่กำราบให้สงบเลย แม้แต่เอาตัวรอดก็ยังยาก สู้อยู่ข้างๆ โกวซินและคนพวกนี้จะดีกว่า ต่อให้ฟ้าถล่มลงมาก็ยังมีคนที่สูงกว่าคอยค้ำยันให้ไม่ใช่เหรอ เมื่อคิดได้ดังนี้ นักพรตเฒ่าจึงนั่งลงข้างโกวซิน
ภายในตัววิหาร ถูกกดอัดไปด้วยการเคลื่อนไหวของพลังอย่างชัดเจน เงาร่างสีเหลืองปรากฏตัวอยู่ตรงหน้ารูปปั้นเทพเจ้า ท่านเหมือนกำลังสืบค้นและเหมือนกำลังค้นหาเงาร่างของผู้หญิงที่ชอบใส่ชุดสีขาวคนนั้น ที่คอยจู่โจมและก่อกวนท่านไม่หยุดตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา แต่กลับกลืนกินตัวท่านไปได้มากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ท่านต้านทานอย่างยากลำบาก แต่สุดท้ายกลับยากที่จะควบคุม
ครั้งนี้ประจวบเหมาะโดยบังเอิญ ในที่สุดตัวเองก็ได้ฐานะ ‘เจ้าบ้าน’ ดังนั้นจึงไม่ยอมพลาดเด็ดขาด และอยากอาศัยจังหวะนี้จัดการผู้หญิงชุดขาวคนนั้นให้สิ้นซาก!
เมื่อนานมาแล้ว คนในสายของเทพเจ้าประจำเมืองต่างรำลึกถึงไท่ซานฝู่จวิน ไม่ยอมอยู่ในอาณัติของยมโลก เป็นผลทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องแตกหัก และภายใต้การปราบปรามของยมโลก สายของเทพเจ้าประจำเมืองแทบจะพังทลาย แต่ท่านกลับใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมาตลอด แม้แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ออกหน้าออกตา
ซึ่งเหมือนกับหลักการที่ว่าไม่ว่าที่ใดล้วนมีคนจนและคนรวย ในแวดวงหนึ่ง เมื่อมีบรรดาบุรุษทั้งหลายที่กร้าวแกร่งอยู่ในแนวหน้า ก็ย่อมมีคนที่รักตัวกลัวตายอย่างแน่นอน
ยังดีที่หลังจากยมโลกจัดการสายของเทพเจ้าประจำเมืองแล้วไม่ได้เข่นฆ่าให้หมดสิ้น ทำเพียงลบตำแหน่งของเทพเจ้าประจำเมืองออกจากระบบของยมโลกท่านั้น แล้วทั้งสองฝ่ายก็เข้าสู่โหมดวันเวลาที่สงบสุข
เทพเจ้าประจำเมืองที่ยังหลงเหลืออยู่ ขอแค่ไม่โผล่หน้า ไม่กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจจนเกินไป โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีปัญหา
“แม่นางไป๋ ตอนนี้ ทำไมเจ้าไม่กล้าออกมา ออกมาสิ เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้! แม่นางไป๋ นังตัวดี!” ท่านหาไปเรื่อยๆ มองหาอยู่นาน แต่ในท้ายที่สุดก็หาไม่เจอ
เทพเจ้าประจำเมืองรู้ดีว่า ผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ในร่างของตัวเอง! ยามที่ท่านอยู่ในสถานการณ์ที่เหนือกว่า ผู้หญิงคนนั้นเลือกที่จะซ่อนตัว หลอมรวมอยู่ในภายร่างของท่านอย่างสมบูรณ์ เพื่อให้ท่านไม่สามารถใช้คาถาได้อย่างสิ้นเชิง!
เว้นเสียแต่ว่าท่านจะยอมฆ่าตัวตายเอง! แต่ถ้าหากท่านยอมฆ่าตัวตาย เหตุใดต้องทนอยู่จนถึงป่านนี้ ชั่วเวลาเดียว เทพเจ้าประจำเมืองโกรธจัด ท่านรู้อย่างลึกซึ้งว่าถ้าหากพลาดโอกาสในวันนี้ สิ่งที่กำลังรอตัวเองอยู่คือจุดจบที่จะถูกผู้หญิงชั่วคนนั้นกลืนกินอย่างสมบูรณ์
ท่านเงยหน้า ทันใดนั้นกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวได้โผล่ออกมาตรงกลางระหว่างคิ้ว แล้วจึงหายแวบมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าประตูใหญ่ 艾琳小說
เวลานี้คนที่สามารถมองทุกอย่างในวัดเฉิงหวงเมี่ยวได้อย่างชัดเจนกำลังนั่งอยู่บนบันไดหน้าประตู เสี่ยวเฮยกับเสี่ยวไป๋ลุกขึ้นทันที ยืนอยู่ตรงหน้าโกวซิน สองมือประสานท่ามุทรา
“กากเดนของยมโลก!” ในน้ำเสียงของเทพเจ้าประจำเมืองแฝงไปด้วยความแค้นใจสุดขีด! เมื่อย้อนนึกถึงตอนนั้น สายของเทพเจ้าประจำเมืองเจริญรุ่งเรืองแค่ไหน ถ้าหากไม่ใช่เพราะการปรากฏขึ้นของยมโลก ตอนนี้ท่านจะตกต่ำถึงขั้นนี้ไหม
มนุษย์เรามักจะเป็นเช่นนี้ และไม่ว่าสิ่งใดเมื่อได้แปดเปื้อนความเป็นมนุษย์ ก็จะกลายเป็นแบบนี้อย่างช้าๆ ถ้าหากเวลานี้ผู้พิพากษาหรือบุคคลอื่นของยมโลกนั่งอยู่ตรงนี้ เขาอาจจะไม่กล้าปรากฏตัว ถ้าหากออกมา มีความเป็นไปได้สูงที่จะคุกเข่าบนพื้น พร้อมกับส่ายหางไปมาอย่างน่าสงสาร
แต่เวลานี้ในเมื่อต้องเผชิญหน้ากับยมทูตของยมโลก ซึ่งเป็นตัวตนระดับต่ำที่สุด ดังนั้นจึงเป็น ‘ศัตรูของประเทศและครอบครัว’ แน่นอน สามารถเอามาพูดว่ากล่าวได้
เสี่ยวเฮยกับเสี่ยวไป๋มีสีหน้าตึงเครียด นักพรตเฒ่ายิ่งตกใจซุกตัวไปข้างๆ โกวซิน พลางคิดในใจว่าเกิดเรื่องแบบนี้เถ้าแก่จะสามารถรับรู้และรีบมาได้ทันหรือไม่ แต่ถึงแม้เถ้าแก่จะรู้ อยากจะรีบมาก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้โดยใช้เวลาแค่แป๊บเดียว เขาจึงได้แต่อาศัยพ่อหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าให้สู้ไปก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล