สรุปเนื้อหา ตอนที่ 620 คำราม! – ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet
บท ตอนที่ 620 คำราม! ของ ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 620 คำราม!
“ชุ่ยฮวาเอ๋อร์ ข้าฉันหิวแล้ว”
“อย่างนั้นพวกเรากินบะหมี่ผักดองดีไหมเจ้าคะ”
“เอ่อ ข้าฉันอยากเปลี่ยนรสชาติ”
“อย่างนั้นพวกเรากินเกี๊ยวน้ำผักดองก็แล้วกันเจ้าค่ะ!”
“ไม่อยากกิน”
“อย่างนั้นพวกเรากินเกี๊ยวผักดอง”
“มีอย่างอื่นไหม”
“ลูกชิ้นผักดอง! ข้าฉันเพิ่งทำเป็นเจ้าค่ะ!”
เกิดความเงียบอันยาวนาน
“นายท่านคะ อยากกินอะไรหรือเจ้าคะ”
“บะหมี่ผักดองก็แล้วกัน”
“ได้เลยเจ้าค่ะ ข้าฉันรู้อยู่แล้่วว่าท่านชอบกินอันนี้มากที่สุด”
“อืม”
เฝิงซื่อเอ๋อร์นิ่งพิงอยู่ข้างๆ มองชุ่ยฮวาเอ๋อร์กำลังเตรียมตั้งเตาเล็กทำกับข้าวอยู่ตรงนั้น และรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบเสียจริง จากนั้นมองผักดองที่เธอหยิบออกมาจากตะกร้าใส่เข้าไปในหม้อต้มใบเล็ก ช่วงเวลาที่เงียบสงบก่อนหน้านั้นถูกทำลายในฉับพลันโดยสุนัขเซียวเทียนฉ่วน
“นายท่านคะ สองอันนี้ต้มพร้อมกันเลยไหมเจ้าคะ” ชุ่ยฮวาเอ๋อร์ถือมีดอยู่ในมือชี้ไปที่สองคนที่นอนอยู่ข้างๆ คนหนึ่งมีเขางอกบนศีรษะ อีกคนหนึ่งหน้าดำปี๋ ร่างเป็นคนแต่ไม่เหมือนคน
“ช่างเถอะ เดี๋ยวเวลากินแล้วจะได้กลิ่นคาว”
เฝิงซื่อโบกมือ ถามว่า “ผีดิบสาวคนนั้น ถูกล่อเรียกกลับไปมาหรือยัง”
“เรียกล่อกลับไปแล้วมา ท่านคะ เธอนางโง่มากเลยเจ้าค่ะนายท่านขนาดนั้น ข้าล่อนางตั้งนานฉันเรียกเธอมานานแล้ว!”
เธอบอกว่าผู้หญิงคนนั้นโง่ แล้วตัวของเธอล่ะ…
เฝิงซื่อพยักหน้า “ใช่แล้ว ถ้าหากล่อนางกลับไปเรียกเธอกลับมาไม่ทัน เธอนางจะมารื้อประตูบ้านแล้ว”
“นายท่านเจ้าคะ วันนี้ทำไมมาปล่อยลมที่นี่เจ้าคะ ข้างนอกมีแต่ป่า ไม่มีตลาดผักให้ซื้อของได้เลย”
ตำแหน่งที่ทั้งสองคนอยู่เป็นหุบเขาที่มืดสนิทแห่งหนึ่ง แต่สิ่งที่อยู่ข้างกายคนทั้งสอง มีประตูหินยักษ์บานหนึ่ง สามารถมองเห็นข้างนอกได้ หมอกหนากำลังลอยฟุ้งไปทั่ว
“กินผักดองที่นี่ ถือว่าเป็นเจตนาอย่างหนึ่ง”
“ฮิๆ นายท่านคะ ท่านดีจริงๆ”
เฝิงซื่อเอ๋อร์หรี่ตา สูดกลิ่นผักดองที่คุ้นเคย แล้วเตรียมตัวจะงีบหลับครู่หนึ่ง แต่ทันใดนั้นเขากลับลุกขึ้นพรวด มองออกไปข้างนอกประตูหินแล้วตะโกนว่า “ชุ่ยฮวา!”
“หาค่ะ มีอะไรเจ้าคะ บะหมี่ยังทำไม่เสร็จเจ้าค่ะ”
“รีบวิ่ง!”
…
“เจ็บไหม” ทนายอันเอามือกุมศีรษะ ใบหน้าย่นเหมือนนักพรตเฒ่า แต่ยังมีความคิดที่จะทักทายสวี่ชิงหล่าง อย่าให้พูดเลย เมื่อก่อนเขาไม่รู้ ตอนนี้เพิ่งรู้สึกว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้หน้าตาดีมากจริงๆ สีหน้าที่เจ็บปวด เห็นแล้วก็อดรู้สึกว่าน่าเอ็นดูระคนน่าสงสารและเวทนาอย่างช่วยไม่ได้
ถุยๆๆ! ทนายอันรีบตั้งสติทันที อย่าวอกแวก อย่าหวั่นไหวกับคนเพศเดียวกันๆ!
สวี่ชิงหล่างตอนนี้ไม่มีเวลาสนใจเขา แต่พยายามฝืนทนความเจ็บปวดแล้วถามว่า “เหลืออีกนานแค่ไหน” ไอรีนโนเวล
“ใกล้แล้ว ใกล้แล้วจริงๆ” ทนายอันกกัดริมฝีปาก รู้สึกไม่ค่อยพอใจ แต่เวลานี้เขาได้ยินความเคลื่อนไหวดังมาจากหมอกหนาที่อยู่ด้านหลังของตัวเอง บ้าจริง วัตถุสีดำปี๋พวกนั้นคงไม่ได้โผล่มาอีกแล้วใช่ไหม
แต่ไม่ช้า ทนายอันรู้สึกถึงความผิดปกติ สิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่เงาดำที่ไม่ได้กระโจนออกมาจากหมอกหนา แต่เป็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง คนอยู่รวมกันแน่นขนัด พวกเขาเดินเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ เดินไปข้างหน้า ราวกับกองพลไหนถูกลากมาฝึกซ้อมที่นี่อย่างกะทันหัน
“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น” สวี่ชิงหล่างพูดด้วยความตื่นตกใจ
“นี่คือ…ทำสำเร็จแล้ว!” ทนายอันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความปลื้มปีติ ถ้าไม่ใช่เพราะหากลมนี้ยังอยู่ เขายังจะต้องปวดศีรษะอย่างมาก และคาดว่าจะต้องกระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้นดีใจแล้ว!
“ไม่เหมือนทำสำเร็จ ทิศทางของพวกเขา เดินไปทางเสียงนั่น” สวี่ชิงหล่างพูดเตือนทันที
ทนายอันตกตะลึง ความตื่นเต้นดีใจอย่างหาที่เปรียบมิได้เมื่อครู่เหมือนถูกน้ำเย็นหนึ่งกะละมังรดลงมาตั้งแต่หัวจรดเท้า น้ำเย็นหยดใส่ติ๋งๆ เขาจัดการและวางแผนตั้งมากมาย แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย
…
“เถ้าแก่ พวกเรากลับบ้านกันเถอะ เถ้าแก่ คุณท่านอย่าทำให้ข้าฉันตกใจแบบนี้นะสิเจ้าคะ!” อิงอิงคุกเข่าตรงหน้าโจวเจ๋อ มองโจวเจ๋อนั่งพิงรากไม้ เกือบจะร้องโฮออกมาอยู่แล้ว
ทนายบ้า เป็นเพราะเจ้าคุณแท้ๆ ปล่อยให้เถ้าแก่มาที่นี่ และยังสั่งให้ผีสิงร่างเถ้าแก่ ตอนนี้เถ้าแก่มีสภาพเป็นแบบนี้แล้ว จะทำอย่างไรดี!
อิงอิงร้อนใจอย่างยิ่ง และไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี สั่งให้เธอต่อสู้หรือชงกาแฟยังพอไหว แต่อย่างอื่นเธอทำไม่เป็นจริงๆ
และโจวเจ๋อที่ยังเอาแต่กอดกระติกน้ำต่อไป กอดแน่นมาก สายตาเหม่อลอย รูม่านตาค่อยๆ แผ่ขยาย ตอนแรกโจวเจ๋อยังพอได้ยินเสียงที่ร้อนใจของอิงอิง แต่ต่อจากนั้นในหูของเขาก็เต็มไปเสียงของสายฝนอย่างช้าๆ หมอกที่อยู่รอบๆ เหมือนจะหายไปในชั่วพริบตา เหลือเพียงสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักหน่วง!
ดินเลน น้ำป่า ปลิง ศพ ตรงหน้าของโจวเจ๋อเกิดภาพเหล่านี้ลอยขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง วินาทีนี้เขาเหมือนกลับเข้าไปใน ‘ความฝัน’ อีกครั้ง ช่วงสุดท้ายที่สำคัญ หัวหน้าเหนื่อยแล้ว ฝืนต่อไม่ไหว นั่งพิงต้นไม้ใหญ่ เดินไม่ไหว รอคอยความตาย ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนย้อนกลับไปจุดเดิม การตื่นขึ้นระยะสั้นในระหว่างนี้กลับเหมือนฝันช่วงสั้นๆ มากกว่ายิ่งทำให้ความฝันสั้นลง
“ฮือๆๆ!!!”
เสียงคำรามนี้ สำหรับอิงอิงแล้วเหมือนกับคนธรรมดาคนหนึ่งถูกคนอื่นหยิบน้ำแข็งหนึ่งกำมือมาโยนใส่ในเสื้อผ้าของตัวเองขณะที่นอนหลับ วินาทีนี้ อิงอิงรู้สึกว่าพลังปราณพิฆาตในร่างของตัวเองได้เดือดพล่านขึ้นมา ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะร้องออกมา ร่างกายสั่นไม่หยุดและโอนเอนไปมา
อิงอิงกัดฟัน พยายามควบคุมความรู้สึกสั่นสะท้านนี้ แต่ไม่สามารถควบคุมได้อย่างสิ้นเชิง จึงได้แต่ฝืนพูดว่า “เถ้าแก่…เถ้าแก่…รีบหยุด…หยุดเดี๋ยวนี้…ข้า…ข้า…ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว…ฮือๆๆ!!!”
…
“โฮก!” หลังจากระบายเสียงคำรามออกมา โจวเจ๋อขึงนัยน์ตาที่แดงก่ำกวาดตามองไปรอบๆ แล้วพูดเสียงหนักว่า“พื้นเย็น ผมบอกให้ลุกขึ้นมา!”
‘พึ่บ!’
‘พรืดดด!’
‘พึ่บ!’
ศพหนึ่งที่ล้มลงไปบนพื้นเริ่มสั่นขึ้นมา ทันใดนั้นศพเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายโจวเจ๋อก็เริ่มสั่นเหมือนกัน จากโจวเจ๋อที่เป็นจุดศูนย์กลาง ตลอดเส้นทางยาวเข้าไปในป่าลึก ทหารที่ล้มลงไปแต่ละนาย ไม่ว่าจะเป็นนิ้วมือหรือส่วนอื่นของร่างกายเริ่มสั่นไหวขึ้นมา
“ลุกขึ้น ไปกับผม กลับบ้าน!” โจวเจ๋อหมุนตัว มองไปยังเส้นทางแห่งความฝันที่ยังไม่จบสิ้นของตัวเอง แล้วก้าวขาเดินไปข้างหน้าต่อไป
ทหารนายหนึ่งลุกขึ้นมา แล้วก็มีทหารอีกนายหนึ่งลุกขึ้นมา ทหารทยอยลุกขึ้นทีละคน ทั่วทั้งภูเขาลูกนี้ ตลอดเส้นทางนี้ ทหารทุกนายที่ล้มลงทั้งหมดเริ่มลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ พวกเขาเดินตามจังหวะก้าวเดินของโจวเจ๋อ เดินทีละก้าวเดินโซซัดโซเซไปข้างหน้าต่อไป นี่คือกองทัพวิญญาณขนาดใหญ่ นี่คือกองทัพที่กำลังกลับบ้าน
…
เสียงคำรามหยุดลง อิงอิงจึงได้หยุดพักลงในที่สุด แต่รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวและ ไม่มีแรง เธอนั่งลงไปบนพื้นเหมือนคนขาดน้ำ
“เถ้าแก่” จากนั้นอิงอิงมองเห็น เถ้าแก่ของตัวเองจู่ๆ ก็หลับตา จากนั้นจึงลุกขึ้น และสิ่งที่ลุกขึ้นตามยังมีเงาร่างมากมายนับไม่ถ้วนท่ามกลางหมอกหนานี้ วิญญาณทหารหลายหมื่นฟื้นคืน!
‘กริ๊ง…’ เสียงนี้ดังขึ้นอีกครั้ง และลมก็เริ่มพัดเข้ามา! มันกำลังดึงดูดวิญญาณที่อยู่ในสายหมอกเข้าไปยังอาณาเขตที่มันสร้างไว้!
โจวเจ๋อหลับตา หลังจากได้ยินเสียงนี้ เขาจึงอ้าปาก “โฮก!”
“โฮก!!!!!!!!!!!!!”
เสียงคำรามด้วยความโกรธเคืองของวิญญาณทหารหลายหมื่นนายดังขึ้นพร้อมกันทั่วภูเขาคะฉิ่น!
…
‘ครืนๆ!!’ ทำท่าเหมือนฟ้าจะแตกแผ่นดินจะแยก!
“ท่านสี่ แย่แล้วเจ้าค่ะ ประตูบานนี้กำลังจะพัง จะพังแล้ว ที่นี่ก็จะพังทลาย จะพังทลายแล้ว! รีบวิ่งเจ้าค่ะท่านสี่ รีบวิ่ง!”
……………………………………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล