ตอนที่ 626 สบายจัง! – ตอนที่ต้องอ่านของ ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล
ตอนนี้ของ ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 626 สบายจัง! จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 626 สบายจัง!
ตรงลานปิ้งย่างบนดาดฟ้าลานปิ้งย่างเหลือคนไม่กี่คนแล้ว คนที่หาไม่เจอ หาคู่ไม่ได้ จึงขี้เกียจนั่งเป่าลมหนาวบนดาดฟ้าอีก จึงลงไปข้างล่างหาที่อบอุ่นแทน ทนายอันนั่งดื่มเบียร์ต่อไป เขาดื่มไปเรื่อยๆ แล้วกวาดตามองไปรอบๆ กลับพบว่าลานปิ้งย่างตรงนั้นมีผู้หญิงนั่งอยู่คนหนึ่ง เธอกำลังนั่งปิ้งแผ่นหมั่นโถวกินคนเดียว และไม่รู้ว่าเธอมาตั้งแต่เมื่อไร แต่ไม่ว่าอย่างไรตอนแรกทนายอันมองไม่เห็นเธอ
หญิงสาวใส่เสื้อกันหนาวขนเป็ดสีชมพู รูปร่างเล็ก ใบหน้างดงาม นั่งปิ้งแผ่นหมั่นโถวอยู่ตรงนั้นคนเดียวอย่างตั้งใจ จากนั้นคีบขึ้นมาหนึ่งชิ้นอย่างระมัดระวังแล้วนำมาเป่าที่ปาก แล้วจึงเปิดฟันหน้าเล็กน้อยกัดเข้าไปหนึ่งคำ เธอยิ้มอย่างพอใจขณะที่กินมัน น่ารักเป็นอย่างมาก
ทนายอันที่มองฉากนี้กลืนน้ำลายโดยไม่รู้สึก เขาหิวมากจริงๆ แต่ไม่ได้อยากกินแผ่นหมั่นโถว ก่อนที่จะมาร้านหนังสือ จริงๆ แล้วทนายอันใช้ชีวิตตามอำเภอใจอย่างมาก เขาไม่เคยปิดบังความต้องการทางเพศของตัวเองเลย แต่เขาไม่ได้ปล่อยตัวติดดินเหมือนนักพรตเฒ่าขนาดนั้น ตอนนั้นเป็นเพราะกินไม่ได้นอนไม่หลับ ดังนั้นจึงต้องระบายผ่านส่วนตรงส่วนนั้น แต่ตอนนี้แก้ปัญหาการกินและนอนได้แล้ว และเรื่องแบบนั้นกลับช่างเลือกกว่าแต่ก่อน
ผู้หญิงทั่วไปไม่ถูกใจเขา โชคดีที่เหล่าอันก็มีประสบการณ์เยอะ ไม่ใช่มือใหม่อะไร ถ้าหากมองข้ามอาการบาดเจ็บใต้ร่มผ้า อย่างน้อยมองจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วถือว่าพอใช้ได้ ผู้หญิงหลายคนตอนนี้ชอบสไตล์ลุงเหมือนอู๋ซิ่วปัว
พ่อของร่างนี้ตอนแรกไปจีบลูกคุณหนูบ้านรวยจากนั้นจึงถูก ‘ลอบฆ่า’ ดังนั้นจึงได้ของดีสืบทอดมา ทนายอันดูนาฬิกาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกประหม่าตื่นและวิตกกังวลเล็กน้อย ถึงแม้จะเป็นมือเก๋า เมื่อคิดว่าไม่เพียงแต่ต้องนัดสำเร็จยังแต่ต้องทำให้เธอยอมนอนกับตัวเองด้วย ก็รู้สึกถึงความท้าทายอย่างยิ่ง แต่ยิ่งคิดแบบนี้ก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกตื่นเต้นอยากลอง เขาลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างๆ หญิงสาว
หญิงสาวมองทนายอันหนึ่งที ชี้ไปที่แผ่นหมั่นโถวที่อยู่บนเตาปิ้ง แล้วถามอย่างน่ารักมาก “คุณกินไหมคะ”
ทนายอันพยักหน้า หญิงสาวจึงหยิบจานพลาสติกหนึ่งใบคีบแผ่นหมั่นโถววางลงไป แล้วยื่นให้ทนายอัน ทนายอันใช้มือรับโดยตรงใส่ปากกัดหนึ่งคำและค่อยๆ เคี้ยวมัน
“อร่อยไหมคะ”
“อร่อยครับ จำได้ว่าตอนเด็กตอนที่อยู่ในประเทศจีน คุณย่าจะทำหมั่นโถวย่างให้กินทุกปี”
หญิงสาวยักไหล่ แล้วกินหมั่นโถวของตัวเองต่อ
“คุณเป็นคนที่ไหนครับ” ทนายอันถาม
“คุณลองเดาสิคะ”
“คนหางโจว” พูดจบทนายอันแอบนำกระเป๋าสตางค์ของเธอยัดกลับไปในกระเป๋าของเธออีกครั้ง
“ว้าว คุณเดาถูกได้ยังไงคะ เดาได้แม่นมาก” หญิงสาวแปลกใจอย่างยิ่ง
“ฟังสำเนียงออกครับ อาจจะเป็นเพราะว่าผมอยู่ต่างประเทศตลอด จึงไม่มีสำเนียงถิ่นแล้ว แต่ยังพอฟังออกบ้าง ตอนเด็กผมเติบโตมาจากหางโจวครับ”
“อย่างนั้นพวกเราก็เป็นคนบ้านเดียวกันนะคะ ดวงสมพงษ์กันมาก”
“ใช่ครับ ดวงสมพงษ์”
“คุณมาเที่ยวที่ลี่เจียงหรือว่ามาทำงานคะ”
“มาเที่ยวครับ มาผ่อนคลาย และยังพาพนักงานของตัวเองสองสามคนมาทำสำรวจโครงการสำรวจที่นี่ด้วย”
ท้องฟ้าสวยงาม หมั่นโถวย่างหอมมาก ทนายอันกับหญิงสาวสลับกันพูดคนละประโยค ถึงแม้เหล่าอันจะเก่งในเรื่องการใช้คาถา แต่เวลาที่ปฏิบัติตัวกับผู้หญิง เขาไม่เคยใช้มันเลย เพราะไม่สนุกและดูเสแสร้งเกินไป เขาชอบใช้เทคนิคการพูด รู้สึกถึงความสำเร็จและมีความหอมหวานยิ่งกว่า อารมณ์และความรู้สึกเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว บรรยากาศกลมกลืนกันอย่างต่อเนื่อง หลังจากสิบห้านาทีผ่านไป หญิงสาวจับมือของทนายอัน แล้วเขียนตัวหนังสือตรงกลางฝ่ามือของทนายอันด้วยท่าทางที่สนิทสนม
“เดาออกไหมคะ” หญิงสาวถาม ทนายอันส่ายหน้า ใบหน้ากลับมีรอยยิ้ม เขาชอบความรู้สึกที่ไร้เดียงสาเช่นนี้เป็นที่สุด ความรู้สึกแบบนี้สามารถทำให้ตัวเองรู้สึกว่าตัวเองยังหนุ่มมาก หญิงสาวจึงเขียนอีกครั้ง “คราวนี้เดาออกแล้วหรือยังคะ”
“ไม่เหมือนตัวหนังสือ แต่เป็นตัวเลข”
“อืม อย่างนั้นฉันจะเขียนอีกรอบค่ะ” หญิงสาวเขียนอีกครั้งอย่างตั้งใจ ทนายอันชอบท่าทางน่ารักอ่อนหวานของเธอเป็นอย่างมาก
“คืออะไร” หญิงสาวเงยหน้ามองทนายอัน ใบหน้าของทั้งสองคนเข้าใกล้ชิดกันโดยไม่รู้ตัว บรรยากาศเต็มไปด้วยสิ่งที่เรียกว่า ‘ความคลุมเครือ’ กลิ่นอายของ ‘ความรัก’ คอยเรียกหาอยู่ทุกแห่งหน
“เจ็ด…”
“คือเจ็ดพัน”
“อืม หืม” ทนายอันตกตะลึงเล็กน้อย หมายความว่าอย่างไร
ผู้หญิงชี้ไปที่ริมฝีปากล่างของทนายอันแล้วพูดว่า “เจ็ดพันต่อหนึ่งครั้ง ค้างคืนคิดต่างหาก”
“…” ทนายอัน!!!
“ฉันสามารถให้คุณได้” ขณะที่พูด ผู้หญิงโยนก้อนหินสีเขียวก้อนนี้ไปทางโจวเจ๋อ โจวเจ๋อยื่นมือรับ ก้อนหินเย็นเป็นอย่างมาก “ฉันไปได้หรือยัง หรือไม่ก็ พวกคุณสามารถค้นตัวได้อีก”
โจวเจ๋อมองผู้หญิงคนนี้ด้วยความสงสัย ยมทูตท้องถิ่นลี่เจียงจริงใจและว่านอนสอนง่ายขนาดนี้เชียวหรือ นี่ซึ่งไม่สอดคล้องเหมาะกับสไตล์การทำงานของยมทูตทั่วประเทศเลยด้วยซ้ำ
เธอทำเช่นนี้ กลับทำให้โจวเจ๋อรู้สึกเกรงใจ โดยเฉพาะตอนที่ตะโกนให้ทุกคนรีบวิ่งหนี มีความหมายของความจริงใจอยู่ในนี้แน่นอน เถ้าแก่โจวถือคติที่ว่าใครเคารพฉัน ฉันจะเคารพตอบ ดังนั้นเมื่อลองชั่งน้ำหนักหินสีเขียวที่อยู่ในมือแล้ว เขาจึงอยากคืนให้ผู้หญิงคนนี้ “ฉันผมไม่ต้อง…”
แต่เวลานี้โจวเจ๋อกลับขมวดคิ้ว ยื่นจมูกเขาไปใกล้ก้อนหิน แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ลำแสงสีเขียวถูกสูดเข้าไปในโพรงจมูกของโจวเจ๋อ “ซื้ด…ฮู้ว…” โจวเจ๋อแสดงสีหน้ามีคตวามสุขออกมา ถอนหายใจยาวอย่างผ่อนคลาย แล้วพูดชมด้วยความประหลาดใจ “หอมจัง!”
ผู้หญิงมองโจวเจ๋อด้วยสีหน้าเหมือนเห็น ‘ผี’ และแปลกใจที่โจวเจ๋อหกล้าสูดหินก้อนนี้เข้าไปในร่างกายโดยตรง เธอรู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร
ตอนที่โจวเจ๋อกำลังทำสีหน้าเคลิบเคลิ้มอยู่นั้น อิงอิงยื่นมือชี้ขี้ไปที่เถ้าแก่ แล้วพูดว่า “เถ้าแก่ หน้าของท่าน”
โจวเจ๋อสงสัยอยู่บ้าง “ทำไมเหรอ”
“เขียวไปหมดแล้วเจ้าค่ะ เถ้าแก่”
โจวเจ๋อก้มหน้ามองสองแขนทั้งสองข้างของตัวเอง พบว่าผิวหนังบนแขนทั้งสองข้างมีแสงสีเขียวเข้มแวบออกมาเหมือนโดนพิษ ไม่ ไม่ใช่โดนพิษ แต่ก็เหมือนใช่ สิ่งที่ซ่อนอยู่ในก้อนหินนี้คือพิษผีดิบ!!! และเป็นพิษผีดิบที่สามารถทำให้เขารู้สึกสบาย โจวเจ๋อจึงโยนก้อนหินไปที่อิงอิง อิงอิงยื่นมือรับ “ลองดมดูสิ” โจวเจ๋อกล่าว
อิงอิงเชื่อฟังอย่างยิ่ง เถ้าแก่สั่งให้ทำอะไรก็ทำอย่างนั้น จับก้อนหินมาวางตรงหน้าแล้วสูดเข้าไปหนึ่งที “ซื้ด…ว้าว…” ร่างกายของอิงอิงสั่นขึ้นมา ผีดิบสาวที่มีผิวขาวผ่อง ตอนนี้กลับมีสีเขียวปรากฏขึ้น
ผู้หญิงคุกเข่ากับพื้น มองโจวเจ๋อที่นั่งอยู่ถัดไป แล้วมองอิงอิงที่อยู่ข้างๆ รู้สึกเหมือนความเข้าใจที่มีต่อโลกกลับตาลปัตรไปหมด
“สบายจัง เถ้าแก่!”
“ใช่ไหม สบายดีใช่ไหม”
……………………………………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล