ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 652

ตอนที่ 652 ใต้ท้องฟ้า!

ก่อนหน้านี้ หลังจากโจวเจ๋อพาวิญญาณทหารหลายหมื่นนายกลับมายังเขตแดนของประเทศแล้วก็สลบไปบนพื้นโดยตรง หรือจะพูดให้หนักกว่านี้คือหมดสติไม่รู้เรื่องเลย ทนายอันยังเคยกังวลว่าวิญญาณทหารเหล่านี้จะก่อความวุ่นวาย ผลปรากฏว่าวิญญาณทหารหลายหมื่นนายกลับ ‘สลายตัว’ พร้อมกัน หลังจากเหยียบพื้นดินของประเทศบ้านเกิดแล้วก็สลายหายไปกลับสู่ดิน ไร้ซึ่งความอาลัย ไร้ซึ่งความคิดที่อยากจะก่อกวนความสงบ

เถ้าแก่โจวถึงแม้ตอนนั้นจะสลบไป แต่เขามีความคิดอันบริสุทธิ์ต่อวิญญาณทหารเหล่านี้ มิฉะนั้นคงไม่สามารถเรียกวิญญาณทหารหลายหมื่นนายกลับมาพร้อมกับเขาได้

ด้วยเหตุนี้ เถ้าแก่โจวจึงไม่เคยคิดอยากได้อะไรจากวิญญาณทหารเหล่านี้ และยิ่งไม่อยากควบคุมพวกเขา

จากการตอบสนองของท้องฟ้าขณะที่พาวิญญาณทหารกลับมาในตอนแรก มีความเป็นไปได้สูงว่าถ้าคิดจะใช้ประโยชน์จากพวกเขา จะเป็นการทำผิดกฎได้ อีกทั้งคนเราสามารถมีความเห็นแก่ตัวและมีความโลภได้ ทว่าต้องเข้าใจเส้นขีดจำกัดอยู่บ้าง และต้องรู้จักความบันยะบันยัง

แต่หนึ่งกินหนึ่งดื่ม ล้วนเป็นมติของสวรรค์ ตอนที่เหล่าวิญาณทหารกำลังจะจากไป แต่ละคนเดินมาทำความเคารพข้างกายโจวเจ๋อขณะที่หมดสติอยู่ เพื่อแสดงความขอบคุณ

อย่างไรก็ตามโจวเจ๋อยอมเสี่ยงให้ตัวเองกลายเป็น ‘คนปัญญาอ่อน’ นำพาพวกเขาเดินออกมาจากภูเขาคะฉิ่นทีละก้าวด้วยความยากลำบาก ทุกคนล้วนเห็นอยู่ในสายตา

ในความเป็นจริง ถ้าหากไม่มีภูเขาไท่ซานสถิตอยู่ที่ส่วนลึกในจิตวิญญาณของเถ้าแก่โจว อีกทั้งในช่วงเวลาที่คับขันยังกระตุ้น ‘ความเป็นผีดิบ’ ภายในร่างนี้เพื่อให้มีพลังเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้น มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะกลายเป็น ‘โรคอัลไซเมอร์’ จริงๆ

ถึงตอนนั้น คงได้แต่นั่งอยู่บนโซฟา นอนอาบแดดอยู่ในร้านหนังสือทุกวัน ขณะเดียวกันมือเท้าก็สั่นหงึกๆ อิงอิงคงไม่ต้องทำอย่างอื่น นอกจากคอยเช็ดน้ำลายที่ไหลออกมาจากมุมปากของเขาไม่หยุด

หัวใจของคนเรามันเป็นก้อนเนื้อ วิญญาณทหารถึงแม้จะจากไปแล้ว แต่ตราประทับนั่นยังคงเหลือไว้ เจ้าสิ่งนี้สามารถพูดได้ว่าไร้ประโยชน์ เพราะมันไม่ใช่วัตถุที่จับต้องได้ แต่ในบางครั้ง อย่างเช่นตอนนี้…

“อาๆๆๆ!!!!!!”

“วิ่งหนีเร็ว!!!!”

“หนีเร็ว!!!!!”

เสียงร้องกรี๊ดน่าเวทนาดังออกมาจากข้างกายของพระขี้เรื้อน พระขี้เรื้อนเองก็ยังตกตะลึงอ้าปากค้าง ควรทราบว่า สิ่งเหล่านี้ที่อยู่ในร่างของเขา ล้วนเป็นวิญญาณชั่วร้ายนับร้อยปีที่ถูกผนึกอยู่ในถ้ำผีสิง!

แถมยังผ่านการผนึกมาเป็นระยะเวลานานเช่นนี้ การเข่นฆ่า เป็นวิธีการที่คล้ายกับการเลี้ยงแมลงพิษที่ต้องกลืนกินเพื่อให้เติบโต ใช่ว่าผีร้ายทั่วไปจะสามารถเทียบเคียงได้

มีความแตกต่างคล้ายกับดอกไม้ในบ้านกับดอกไม้ป่า หรือไม่ก็เป็นความแตกต่างของการเลี้ยงไก่ระหว่างไก่บ้านและไก่ป่า

ไม่อย่างนั้น พระขี้เรื้อนคงไม่ได้รับพลังที่น่าสะพรึงกลัวหลังจากกลืนกินพวกมันไปแล้ว! แต่ตอนนี้เหล่าวิญญาณอันชั่วร้ายที่ควรจะแสดงความอหังการ์ กลับลนลานทำตัวไม่ถูก ถึงขนาดตัวสั่นต้องถอยหลบ คลื่นอากาศสีดำเป็นสายเริ่มทำท่าจะหนีออกจากร่างของพระขี้เรื้อน อยากจะหนีให้พ้นจากการควบคุมของพระขี้เรื้อน!

ก้อนเมฆบนท้องฟ้าเวลานี้ยิ่งหนาแน่น เสียงฟ้าร้องยิ่งดังสนั่น! ใช่แล้ว พวกเขาเป็นวิญญาณชั่วร้าย พวกเขาบางคนเป็นเพราะเรื่องราวที่ประสบตอนมีชีวิต ทำให้ตายไปอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม กลายเป็นวิญญาณอาฆาต ยังคงยึดติด ไม่ไปลงนรก วนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์ต่อไป หรือไม่ก็แต่เดิมเป็นคนโฉดชั่วอยู่แล้ว เคยมีหนี้เลือด หลังจากตายไปกลายเป็นผีแล้วจึงก่อกรรมทำชั่วต่อไป

แต่ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร วิญญาณร้ายเหล่านี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าเหตุผลส่วนตัวจึงเดินมาได้จนถึงทุกวันนี้ และอาจจะเกี่ยวกับ ‘อายุ’ ของวิญญาณทหารเหล่านี้ ที่ห่างจากพวกเขามากเกินไป

แต่เหมือนตอนที่โจวเจ๋อส่งรองหัวหน้าสถานีตำรวจคนนั้นไปสู่สุคติในตอนแรก มีบางคนที่พวกเขาสามารถได้รับเกียรติที่คนอื่นไม่อาจใฝ่ฝันถึงตลอดชีวิตในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ คุณค่าของชีวิต ไม่ได้อยู่ที่อายุสั้นหรืออายุยืนยาวตลอดไป แต่อยู่ที่ระดับของเกียรติและระดับความลึกซึ้ง

วิญญาณทหารเริ่มวิ่งตะบึง เริ่มบุกโจมตี เหมือนตอนที่พวกเขาเข้าโรมรันต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นหลังจากที่เข้าไปในพม่า ณ ตอนนั้น ยอมสละทุกอย่าง สู้อย่างไม่คิดชีวิต!

ภายใต้พลังอำนาจเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นภูตผีปีศาจใดๆ มีแต่ต้องยอมถอยทัพเก้าสิบลี้! เมื่อก่อน คุณพาพวกเรากลับบ้าน วันนี้ พวกเราพาคุณกลับมา!

โจวเจ๋อค่อยๆ ลืมตาช้าๆ ความพร่าเลือน ความสับสนค่อยๆ หายไป เขาเห็นตัวเองที่หยุดนิ่ง และยังเห็นพระขี้เรื้อนที่อยู่ในระยะใกล้มาก

ร่างกายของพระขี้เรื้อนกำลังถูกฉุดดึงไม่หยุด เหมือนตุ๊กตาเป่าลมที่วางอยู่ในพล่าซ่าเวลาที่จัดกิจกรรม ไหวเอนไปตามสายลมและตัวบวมเป่ง

โจวเจ๋ออ้าปาก โชว์เขี้ยวออกมา พลางหันหน้าไปที่พระขี้เรื้อนแล้วคำรามอย่างไร้เสียง! ประดุจเสียงสุดท้ายของระฆังมรณะ!

พระขี้เรื้อนรู้สึกชาหนังศีรษะของตัวเอง พลังในร่างกายที่กำลังจะพังลงเวลานี้กลับสูญเสียสมดุลอย่างสิ้นเชิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล