ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 673

ตอนที่ 673 บดขยี้

“โฮก!” เถ้าแก่โจวรู้สึกจนใจอยู่ในใจ เพราะตอนที่นักแต่งคอสเพลย์ทั้งสามคนนี้ปรากฏตัว หมายความว่าการสืบของตัวเองถูก ‘บิดเบือน’ แล้ว

โจวเจ๋อมาหาผีดิบ ไม่ได้มาเล่นไล่จับกับผีดูดเลือด และโจวเจ๋อก็ไม่เชื่อว่า ‘ตัวต้นเรื่อง’ คนนั้นที่เป็นสุนัขเฝ้าบ้านของอิ๋งโกว จะลดตัวไปเกี่ยวข้องอะไรกับผีดูดเลือด เพราะความรู้สึกแบบนี้เหมือนพระสันตะปาปาฉุกคิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน กระโดดมาเป็นเณรน้อยที่วัดเส้าหลิน แต่น้ำเสียงและคำพูดของไอ้หนุ่มสองสามคนนี้ กลับทำให้โจวเจ๋อโกรธจนหัวเราะ คิดว่าตัวเองมีเขี้ยวคู่หนึ่งงอกออกมาแล้วจะทำอะไรก็ได้ใช่ไหม อย่างนั้นจะโชว์ให้พวกแกได้เห็นว่าฟันของใครคมมากกว่ากัน!

สูญเสียแขนไปข้างหนึ่ง ผิวหนังก็ไหม้ดำ ยังดีที่พวกนี้เป็นแค่ภาพลักษณ์ภายนอก ตอนที่โจวเจ๋อปลดปล่อยตัวเองให้อยู่ในสภาพของผีดิบ มาดและบุคลิกนิสัยน่าตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก

เถ้าแก่โจวกระทั่งจงใจก้มหน้ากวาดตามองอาหงที่นอนอยู่บนพื้นหนึ่งที เมื่อเห็นเธอกำลังมองตัวเองด้วยแววตาที่หวาดกลัว เถ้าแก่โจวรู้สึกสบายใจไม่น้อย จากนั้นเถ้าแก่โจวจึงเดินไปหาคนแต่งชุดคอสเพลย์ทั้งสามคน

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ยกเว้นเจ้าของบ้านชายแล้ว ไม่มีใครเป็นคนโง่ หลังจากกลิ่นอายของโจวเจ๋อแพร่กระจายออกมา คนแต่งคอสเพลย์ผีดูดเลือดทั้งสามเริ่มเดินถอยหลังทันที ผีดูดเลือดที่ก้มหน้ามองโจวเจ๋อก่อนหน้านี้แขนสั่นชี้นิ้วไปที่โจวเจ๋อแล้วถามว่า “แกเป็นใครๆ!” ตกใจจนพูดภาษาเสฉวนออกมา

โจวเจ๋อไม่ตอบ เดินตรงเข้าไปประชิดตัว เข้าใกล้ผีดูดเลือดตัวหนึ่ง ผีดูดเลือดสับปะรังเคยื่นกรงเล็บออกมาแล้วข่วนไปที่ใบหน้าของโจวเจ๋อ ความเร็วของเขาไวมากจริงๆ ถ้าหากเปรียบเทียบกัน มีความคล้ายนักกีฬายิมนาสติกมืออาชีพระดับประเทศเลยก็ว่าได้

ในความเป็นจริง อย่ามองว่านักกีฬายิมนาสติกพวกนั้นแต่ละคนมีร่างกายที่ยอดเยี่ยมเวลาแข่งขัน แต่ร่างกายของพวกเขาถูกฝึกมานานจนเก่ง แรงตอบสนองและแรงระเบิดจึงอยู่เหนือกว่าคนทั่วไปมาก ถ้าหากถ่ายทอดวิชาการต่อสู้บางส่วนให้ ยอดฝีมือในสมัยโบราณก็น่าจะเป็นเช่นนี้ แต่ถึงแม้จะอยู่เหนือคนทั่วไปเป็นอย่างมาก ทว่ายังไม่สามารถหลุดพ้นจากความเป็น ‘คน’ ได้ ด้วยฝีมือระดับนี้ สามต่อหนึ่ง ต่อกรกับยมทูตอ่อนประสบการณ์อย่างอาหงนั้นไม่มีปัญหา แต่เมื่อต้องเจอกับผีดิบตัวใหญ่อย่างเถ้าแก่โจว ไม่น่าจะสู้ไหว

โจวเจ๋อหันหน้าเล็กน้อย มือของอีกฝ่ายจับโดนอากาศ จากนั้นโจวเจ๋อเอาไหล่และใบหน้าข้างขวาของตัวเองแนบเข้าไปทันที ล็อกมือข้างหนึ่งของอีกฝ่ายไว้

อีกฝ่ายลองดิ้นให้หลุด แต่ทำไม่สำเร็จ โจวเจ๋อหัวเราะ พูดตามจริง เมื่อก่อนเวลาเจอหน้าคู่ต่อสู้ ถ้าไม่ใช้ไม้เด็ดของตัวเองก็คือตัวเองต้องสู้อย่างสุดฤทธิ์ น้อยมากที่จะได้เจอความสนุกสนานอย่าง ‘เกมพ่อฉันซูเปอร์แดดดี้’

เถ้าแก่โจวไม่ได้เคร่งครัดด้านศีลธรรมดูถูกคนคิดว่าการต่อสู้กับคนทั่วไปจะเป็นการลดฐานะของตัวเอง ‘ฟึบ!’ มือขวาของโจวเจ๋อยื่นออกไป ถุงมือที่ใส่อยู่บนมือแต่เดิมฉีกออกโดยตรง เผยให้เห็นกระดูกสีขาวแวววับ ตอนที่อยู่ในคลินิกขนาดเล็กแถวลี่เจียงก่อนหน้านี้ หมอคนนั้นนอกจากใช้ตะไบขัดส่วนที่ไหม้ดำให้โจวเจ๋อแล้ว ยังช่วยทำทรีตเมนต์ผิวขาวใสให้โจวเจ๋อฟรีอีกด้วย

ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้มือนี้ขาวผ่องเป็นอย่างมาก ตอนที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วไปยืนรับลมตรงหน้าต่าง โจวเจ๋ออดไม่ได้ที่จะเชยชมมือของตัวเองสักพักหนึ่ง กระทั่งเกิดความคิดแปลกๆ บางอย่างในหัว ถ้าหากมือกระดูกขาวสะอาดนี้มีเนื้องอกออกมา จะต้องเป็นการวาดงูเติมขาอย่างแน่นอน

มือกระดูกสีขาวตอนนี้ทิ่มเข้าไปตรงส่วนท้องของผีดูดเลือดตัวนี้ ง่ายเหมือนทิ่มกระดาษหนึ่งชั้น

โจวเจ๋อก็แปลกใจเล็กน้อย ชาติที่แล้วในฐานะศัลยแพทย์คนหนึ่ง เขาเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างสรีระของมนุษย์อย่างชัดเจน ชาตินี้เวลาต่อสู้จำนวนครั้งที่เขาผ่าท้องผ่าไส้ของคนอื่นกับจำนวนครั้งที่ตัวเองถูกทำไส้แตกก็มีอยู่ไม่น้อย แต่คนที่อยู่ตรงหน้า ร่างบางเกินไป รูปร่างบางเหมือนคนติดยา ภายนอกยังพอดูเป็นสภาพของมนุษย์ แต่ภายในกลับว่างเปล่า

‘ฉึก!’ กระดูกสีขาวผุดออกมาจากด้านหลังของอีกฝ่าย ขณะเดียวกันได้ตัดกระดูกสันหลังของอีกฝ่ายทันที

แขนยังสามารถรับรู้ได้ถึงความอุ่นเล็กน้อย นั่นคือส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างกายของอีกฝ่าย ส่วนมือที่ยื่นพ้นออกไป ไม่เห็นความขาวสะอาดแล้ว แต่กลับเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงเป็นชั้นๆ ดูแล้วยิ่งสวย ประดุจผลงานศิลปะที่ออกแบบอย่างประณีต จากนั้นเขาชักมือกลับราวกับนักรบเก็บดาบ อีกฝ่ายล้มลงไปบนพื้นทันที

โจวเจ๋อยกแขนขวาของตัวเองสูงสี่สิบห้าองศา ไม่ใช่อยากทำเท่ แต่ไม่อยากปล่อยให้เลือดบนมือขวาของตัวเองเปื้อนเสื้อผ้าของตัวเองเท่านั้น

‘ติ๋ง…ติ๋ง…ติ๋ง…’ เลือดสดไหลหยดลงไปไม่หยุด แต่สิ่งที่ทำให้โจวเจ๋อแปลกใจคือ เลือดของผีดูดเลือดกลับอุ่น

ผีดูดเลือดที่อยู่ถัดไปพุ่งเข้ามา ตอนที่เขาพุ่งเข้ามา คิดไม่ถึงว่าเพื่อนร่วมทางคนแรกของตัวเองจะล้มไปแล้ว แต่ตอนนี้อยากจะชักเท้ากลับก็สายไปเสียแล้ว

โจวเจ๋อตีเข่ากระแทกโดยตรง! ไม่มีกระบวนท่าใดๆ ให้กล่าวถึง และไม่ต้องทำอะไรเพื่อหลบ เล็บของอีกฝ่ายจิกเข้ามาที่หน้าอกของโจวเจ๋อโดยตรง เสื้อผ้าดูเหมือนจะมีกลิ่นไหม้ที่เกิดจากการเสียดสีกัน แต่กลับไม่สามารถทำให้โจวเจ๋อบาดเจ็บได้แม้แต่นิดเดียว ร่างกายนี้ถึงแม้จะดูบกพร่องอยู่ในตอนนี้ แต่ยังคงเป็นร่างของผีดิบ! อีกทั้งตอนที่อยู่ใต้ถ้ำที่ลี่เจียง พิษผีดิบเหล่านั้นได้ป้อนเถ้าแก่โจวจนอิ่มแปล้

ในขณะที่ผีดูดเลือดตัวนี้มีแววตาสิ้นหวัง หัวเข่าของโจวเจ๋อกระแทกไปที่ท้องน้อย ทั้งตัวของเขาล้มลงไปบนพื้น ขดตัวงอ อ้าปากกว้าง แต่กลับไม่มีเสียงอะไรออกมา โจวเจ๋อเดินไปข้างหน้าต่อไป รองเท้าแตะศีรษะของอีกฝ่าย ดวงตาของอีกฝ่ายเบิกกว้าง มองรองเท้าที่เตะเข้ามา จากนั้น ‘ปึ้ง!’ เหมือนกับแตงโมร่วงลงพื้น ตกแตกกระจาย

เจ้าของบ้านชายงงเป็นไก่ตาแตก ผีดูดเลือดที่เขาคิดมาตลอดว่าสูงส่งเลิศล้ำ เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้กลับแตกหักง่ายเหมือนไก่กระเบื้องสุนัขดินเผา

และคนแต่งคอสเพลย์ที่เหลือคนนั้นจากเดิมที่หน้าขาวยิ่งตกใจจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว! เขาพลันหมุนตัว เพียงสะบัดชุดทักซิโดหนึ่งที ก็เหมือนดั่งเงาดำพุ่งตรงออกไปข้างนอก

โจวเจ๋อเงยหน้า สูดลมหายใจ ใต้เท้าของตัวเองเหนียวเหนอะหนะ รู้สึกขยะแขยงเป็นอย่างมาก เขาผิดแล้ว เขาไม่ควรแอบขี้เกียจ

เขาถอยหลังสองก้าว พลางขมวดคิ้ว มองหนังรองเท้าของตัวเองหนึ่งที แล้วจึงกลอกตามองบน เวลานี้ ผีดูดเลือดตัวสุดท้ายได้วิ่งออกไปแล้ว

“เฮ้ ไปจัดการเขาหน่อย” โจวเจ๋อพูดกับฮวาหูเตียวที่นอนหมอบอยู่บนไหล่ของตัวเอง ฮวาหูเตียวไม่สนใจหลับตาต่อ ยังง่วงนอนอยู่

ตอนที่โจวเจ๋อต่อสู้กับพวกเขา มันก็นอนหลับ ราวกับว่าอยู่นอกโลก บนโลกนี้ไม่มีอะไรที่ดึงดูดความสนใจของมันได้มากพอ โลกที่อยู่ในใจ ดูเหมือนจะอยู่ร่วมกับทั้งจักรวาลไปแล้ว โจวเจ๋อรู้ว่า คุณไม่สามารถปลุกคนที่แกล้งนอนหลับให้ตื่นได้ตลอดไป ยกเว้นคุณจิ้มตูดของเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล