ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 749

ตอนที่ 749 พิถีพิถันเอาใจใส่

เดดพูลคุกเข่าอยู่ข้างเตียงหญ้า ใช้ใบอ่อนเช็ดใบหน้าของหญิงสาวตัวดำ ท่าทางระมัดอย่างยิ่ง ดูเคร่งขรึมจริงจังสุดๆ ราวกับกำลังปกป้องเครื่องลายครามสุดล้ำค่าบนโลกใบนี้

ถ้าหากเวลานี้มีกล้องตั้งอยู่ที่นี่ สามารถถ่ายทำสารคดีเชิงข่าวอันน่าประทับใจเกี่ยวกับ ‘ภรรยานอนป่วยติดเตียง สามีไม่ทอดทิ้ง’ ได้อย่างสิ้นเชิง

ด้านหลังเขาวางแก้วไว้ใบหนึ่ง มีดอกบัวสีขาวดอกหนึ่งบานสะพรั่งอยู่เหนือแก้ว เกสรของดอกบัวสีขาวมีของเหลวสีน้ำนมหยดลงมาไม่หยุด หยดติ๋งๆ ส่งกลิ่นหอมเป็นพักๆ

กลิ่นนี้ แม้อยู่ไกลมากก็ทำให้คนรู้สึกหายใจสดชื่น นี่คือสารสกัดจากพืชที่มีความหมายโดยแท้จริง กับสารเคมีเหล่านั้นที่โฆษณาเครื่องสำอางอวดโม้ถือว่าอยู่คนละระดับอย่างสิ้นเชิง

หลังจากรองน้ำได้ครึ่งแก้วแล้ว เดดพูลจึงหมุนตัว หยิบแก้วขึ้นมา ดอกบัวสีขาวที่อยู่ข้างบนหุบเองโดยอัตโนมัติ ไม่ยอมหยดออกไปข้างนอกให้เสียดายของ

เดดพูลประคองแก้วมาอยู่ตรงหน้าหญิงสาวตัวดำ กำลังจะประคองหญิงสาวตัวดำให้ดื่มน้ำนมพวกนี้ลงไป

‘เปี๊ยะ!’ หญิงสาวตัวดำปัดแก้วล้ม น้ำนมที่อยู่ข้างในหกใส่พื้น กระเด็นไปทั่ว

เดดพูลไม่พูด ใบหน้าของเขารักษาสีหน้านิ่งสงบมาเป็นเวลานานแล้ว คนอื่นมองสีหน้าของเขาไม่ออก ถึงแม้จะอยู่กับหญิงสาวตัวดำ เขาก็ไม่ค่อยพูดเท่าไร

ช่วงเวลาที่ผ่านมา ดูเหมือนเขาจะพูดกับโจวเจ๋อคนเดียว และแสดงออกทางสีหน้าเล็กน้อย

“ฉันยังไม่ตาย ตอนนี้นายจะสิ้นเปลืองทรัพยากรบนตัวนายทำไม ฉันลงจากเตียงเร็วหนึ่งวันกับลงจากเตียงช้าหนึ่งวัน แตกต่างกันตรงไหน ไม่ว่ายังไงฉันลงจากเตียงก็ต้องนั่งรถเข็น คิดว่าฉันจะบินได้หรือไง” หญิงสาวตัวดำนอนอยู่บนเตียงหญ้าพูดบ่นโดยตรง

เดดพูลนิ่งเงียบไม่พูด

“ตอนนี้มือข้างหนึ่งของเถ้าแก่ขาดแล้ว ในเมื่อนายรักษาตัวดีแล้ว ก็เป็นฝ่ายไปหาเถ้าแก่สิ ช่วยเขาเปลี่ยนมืออีกครั้ง หรือต้องรอให้เขามาหานาย เขามาหานาย ถูกต้องแล้ว เพราะนายก็เป็นสิ่งที่เขาเลี้ยง แต่นายแสดงท่าทางไร้อารมณ์ไม่รู้ร้อนรู้หนาวแบบนี้ นายยินดีที่จะเห็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเองแล้วใช่ไหม หรืออยากแสร้งทำตัวเป็นเซียน”

เดดพูลเงียบต่อ ขณะเดียวกันก็ยื่นมือลูบหลังของหญิงสาวตัวดำเบาๆ คำพูดที่เร่งรีบทำให้หญิงสาวตัวดำหายใจถี่อยู่บ้าง

“ไปหาเขา เร็วเข้า บอกว่านายรักษาตัวดีแล้ว สามารถต่อแขนให้เขาได้แล้ว นายไปสิ เป็นฝ่ายรุกหน่อยมันจะทำให้นายตายหรือไง! สิ่งที่แย่งได้ยากที่สุด คือความรัก นายรู้ไหม”

เดดพูลพยักหน้าอย่างเงียบๆ เขาเชื่อฟังคำพูดของเธอ ตอนแรกเธอบอกว่าเธอเดินไม่สะดวก เขาจึงให้เธอขี่หลังเธอบอกว่าจะปลูกเขาลงไป เขาก็พยักหน้า ถูกเธอปลูกลงไป

“เมื่อวาน ฉันเห็นแล้ว คนผู้นั้นออกมาช่วยเขาแล้ว นายมีโอกาส ฉันเคยพูดนานแล้ว คนบางคนดูเหมือนชีวิตขึ้นๆ ลงๆ ดูเหมือนไม่มีสายตาที่กว้างไกล ดูเหมือนปลาเค็มที่ไม่รู้จักพัฒนาตัวเอง! แต่ใครจะสู้โชคชะตาของเขาได้ เขาเป็นคนดวงดีมาก ตรงจุดนี้ นายยอมรับเถอะ! ไม่ต้องพูดถึง ‘ความสัมพันธ์พ่อลูก’ ถึงแม้เป็นความสัมพันธ์ของนายกับบ่าว ก็ถือว่าเป็นความรักอย่างหนึ่ง! ไปหาเขา บอกว่านายเตรียมตัวพร้อมแล้ว เปลี่ยนแขนให้เขา!”

เดดพูลลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก หญิงสาวตัวดำนอนบนเตียงหญ้าต่อไป ถอนหายใจ สายตามองเพดานสีเขียวขจีด้วยแววตาที่ว่างเปล่า

บางครั้ง เธอก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังทำอะไรกันแน่ และไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่ นานวันเข้า เธอกลับพบว่า ปลูกผักอยู่ในสวนอันมืดมิดไร้แสงตะวันกับเจ้าทึ่ม ดูเหมือนจะเป็นชีวิตที่ไม่เลวอย่างหนึ่ง ส่วนเรื่องที่เสียใจสามีออกไปรบแล้วได้เลื่อนตำแหน่งอะไรนั่น เหอะๆ ไร้สาระ

ชายชราเชิดสิงโตถูกส่งลงไปนรกแล้ว แต่ประโยคสุดท้ายเหมือนยังสะท้อนก้องอยู่ในนี้ โจวเจ๋อหาวหนึ่งที เขายอมรับว่าตัวเองปลอบใจคนไม่ค่อยเป็น คราวที่แล้วเจอเด็กผู้หญิงชื่อ ‘เซิ่งหนาน’ เพราะความปากพล่อยของตัวเอง เกือบทำให้อีกฝ่ายระเบิดอารมณ์ทำอะไรโดยไม่สนใจใคร

เนื่องจากคุณไม่ใช่คนโง่ เวลาที่ตัวคุณเองไม่เชื่อคำพูดปลอบใจพวกนั้น แต่อยากจะนำคำพูดปลอบใจเหล่านั้นไปใช้กับคนอื่น ดูเหมือนจะมั่นใจเกินไป แต่สถานการณ์เมื่อครู่โจวเจ๋อไม่สามารถพูดตามตรงได้ว่า ‘หลังจากคุณลงไปอย่าว่าแต่เชิดสิงโตเลย แม้แต่กระโดดก็ยังทำไม่ได้ ได้แต่เขย่งเท้าเดินตามคนรอบๆ ไปข้างหน้า เหมือนคนโง่ที่เดินเหมือนซากศพเดินได้’

ดังนั้น ร้านหนังสือจึงต้องมียมทูตเหลืออยู่หนึ่งคนจะดีกว่า ไม่ว่าอย่างไรตัวเขาในตอนนี้หลังจากกลายเป็นผู้จับกุมแล้ว ประเด็นสำคัญควรมุ่งเน้นไปที่การสร้างบุญกุศล เรื่องทำผลงาน ไม่ต้องกังวลมากเกินไป ยมทูตห้าคนที่เป็นลูกน้องของเขา ตัดเหล่าจางที่อู้งานอย่างหนักออกไป สี่คนที่เหลือขอแค่ทำผลงานได้ ตัวเขาเองก็จะได้ส่วนแบ่งคะแนน

“ในใจมีสิงโต อยู่ที่ไหนก็เชิดได้” นักพรตเฒ่าทำเป็นพูดเปรยออกมาแบบไม่ตั้งใจ เหมือนค่อยๆ ทำความเข้าใจความหมายที่แท้จริง น้อมนำแก่นแท้ที่สืบทอดมาจากหัวหน้าเข้าสู่การเรียนรู้ที่ลึกซึ้ง ต่อมาก็พูดอีกหนึ่งประโยคโดยไม่รู้ตัว “ในใจไม่ต้องเซ็นเซอร์…” จากนั้น เขารีบเอามือป้องปากตัวเองทันที ยังดีที่เวลานี้เดดพูลเพิ่งเดินออกมาจากสวนผัก มายืนอยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อ สายตามองไปยังแขนที่ขาดของโจวเจ๋อ

โจวเจ๋อเข้าใจความหมายของเขา แต่ก็ยังถามว่า “ร่างกายของนายรับไหวไหม”

เดดพูลพยักหน้า

“อืม” โจวเจ๋อจึงไม่เล่นตัว เดินไปที่สวนผักพร้อมกับเดดพูล

“ใครจะไปคิดว่า บาทหลวงชาวญี่ปุ่นที่ชอบก่อเรื่องในอดีต กลับกลายเป็นผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังเหล่าโจวอย่างไม่น่าเชื่อ” สวี่ชิงหล่างเช็ดแก้วพลางพูดอย่างปลงอนิจจัง

“ทำไมฟังแล้วดูเศร้าจัง พูดจาแปลกพิลึก” นักพรตเฒ่าที่อยู่ข้างๆ เดาะปากเสียงดัง

เวลาผ่านไปประมาณสิบห้านาที โจวเจ๋อเดินออกมา แขนฟื้นฟูกลับมาดังเดิมแล้ว

“ความเร็วของการผ่าตัด รวดเร็วมากจริงๆ” สวี่ชิงหล่างยื่นกาแฟหนึ่งแก้วให้โจวเจ๋อ

โจวเจ๋อรับกาแฟมา มือข้างหนึ่งถือไว้ มืออีกข้างหนึ่งจับช้อนแล้วคนเบาๆ ใช้สองมือดื่มกาแฟช่างสบายเสียจริง

อิงอิงถือผ้าขนหนูอุ่นๆ มาเช็ดใบหน้าของโจวเจ๋อ เหล่าจางที่ยืนรออยู่ข้างๆ นานแล้วด้วยความร้อนใจเดินเข้ามาถามอย่างอดไม่ได้ “เถ้าแก่ พวกเราจะออกไปเมื่อไร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล