ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 757

สรุปบท ตอนที่ 757 ตึกถล่ม: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 757 ตึกถล่ม – ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet

บท ตอนที่ 757 ตึกถล่ม ของ ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 757 ตึกถล่ม

ถ้าโจวเจ๋อจำไม่ผิด ตอนนี้น่าจะดึกแล้ว อาจจะเป็นเวลาตีหนึ่งตีสอง แต่ตอนนี้พอเงยหน้ามอง ปู่พระอาทิตย์กลับลอยอยู่บนท้องฟ้าเหมือนคนโง่ที่โดนแขวนอยู่ตรงนั้น หน้านิ่งเหมือนคนเป็นโรคอัลไซเมอร์

พวกค่ายกลเหล่านี้ โจวเจ๋อทำไม่เป็น แต่คำโบราณว่าไว้ดีมาก เมื่อป่วยนานวันเข้าจึงเก่งเป็นหมอเอง เมื่อต้องฝึกฝนนับครั้งไม่ถ้วน สุดท้ายต้องได้ผลลัพธ์แน่นอน ขอแค่ไม่โง่ ตัวเองจะเรียนรู้วิชาได้ในท้ายที่สุด

เด็กน้อยโดนพ่อตีจนชินจึงรู้ว่าตรงไหนโดนตีแล้วเจ็บที่สุดก็จะปกป้องตำแหน่งนั้น

โจวเจ๋อไม่คิดจะออกไปจากที่นี่ ไม่วิ่งออกไปข้างนอกด้วยความลนลาน เขาไม่อยากออกไป เพราะอยู่มาถึงขั้นนี้แล้ว หากทุกครั้งที่เจอเรื่องยุ่งยากในหัวมัวแต่คิดจะวิ่งหนีลูกเดียว รีบออกไปจากสถานที่ที่มีปัญหาแบบนี้ เช่นนั้นคงขายหน้ามากจริงๆ

การรับมือของโจวเจ๋อง่ายมาก นั่นก็คือ ‘ตูมๆๆๆ!!!’ รื้อบ้าน! ฉันไม่วิ่ง ฉันไม่หนี ค่ายกลของคุณเหมือนจะเยี่ยมยอด ฉันจะคอยดูว่า ตอนแรกที่หลี่ว์เย่าจู่สร้างบ้านหลังนี้รวมทั้งในแบบที่หลี่ว์เหย้าจู่ได้รับตราประทับให้สร้างบ้านหลังนี้ ได้ออกแบบเอาไว้ไหม ถ้าหากจะขังผีดิบตัวหนึ่งควรทำอย่างไร ยาหลายชนิดยังระบุไว้ว่าสตรีมีครรภ์และเด็กต้องระมัดวังในการใช้เลยนะ แล้วค่ายกลในบ้านของคุณยังจะรักษาได้สารพัดโรคอีกรึ

หน้าต่างเริ่มแตกก่อน ระเบียงเริ่มทรุดตัว ผนังเริ่มล้ม เถ้าแก่โจวเคยหัวเราะอิงอิง บอกว่าเธอเหมาะที่จะทำงานหนัก ไปเป็นคนงานก่อสร้าง ไม่กินไม่นอนคนเดียวสามารถสู้เครื่องขุดดินหลายเครื่องได้สบาย แต่ดูจากตอนนี้ ตัวเขาเองน่าจะเหมาะกับอาชีพนี้มากกว่าอิงอิง

อย่างไรก็ตาม เหมือนการระเบิดรื้อถอนอาคาร โจวเจ๋อเดินหน้าทำลายล้างไปตลอดทาง เมื่อทำลายโครงสร้างชั้นสามไปครึ่งหนึ่งแล้ว จึงเดินออกมา โอ้ว ป้าพระจันทร์กลับมาแล้ว

‘ติ๋ง…ติ๋ง…ติ๋ง…’ เสียงของเหลวหยดย้อย เสียงดังฟังชัดและหนักเป็นพิเศษ ตรงหน้าโจวเจ๋อนั้น มีของเหลวสีดำหยดติ๋ง ไม่ใช่เลือดสด แต่เหมือนน้ำมันดิบที่เข้มข้น พวกมันค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากบนพื้น รวมตัวกันเป็นภาพโทเท็มของสิงโตตัวหนึ่ง ไม่เหมือนสิงโตที่ปกติเท่าไร แต่กลับมาพร้อมกับรูปแบบของศิลปะที่ทรงพลัง ราวกับภาพวาดน้ำหมึกที่ปรมาจารย์ขยับพู่กันรังสรรค์ขึ้น

สิงโตมองโจวเจ๋ออย่างระแวดระวัง แล้วขยายร่างเหมือนนกยูงรำแพนหาง ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ เหมือนเด็กจอมซนคนหนึ่งเอาน้ำหมึกสาดมั่วซั่วไปมาไม่หยุด

“โฮก!” เสียงคำรามดังมาจากปากของสิงโต ยิ่งใหญ่ทรงพลัง เป็นเอฟเฟกต์เสียงประเภทที่สามารถมอบรางวัลให้กำลังใจนักทำเสียงประกอบได้สุดหัวใจ

แต่โจวเจ๋อเพียงแค่หยิบบุหรี่มวนหนึ่งออกมาคาบไว้ในปาก ใช้ไฟแช็กจุดไฟอย่างเงียบๆ ก่อนจะสูบหนึ่งที แล้วพ่นควันออกมาเป็นวงกลม เขาไม่ได้ตั้งใจเต๊ะท่า เพราะหลังจากที่คุณอยู่ระดับสูงแล้ว ถ้าคุณลงไประดับต่ำเพื่อวางมาดให้ตัวเองดูเท่อีกก็ยากที่จะทำให้คุณได้รับความพึงพอใจแล้ว

สำหรับโจวเจ๋อ ตอนนี้เขามีความคิดที่เรียบง่ายเป็นอย่างมาก ตามหาตั้งนาน ในที่สุดก็เจอนายเสียที สิงโตยังคงวางท่า เหมือนกำลังโชว์ให้เห็นกล้ามเนื้อของมันที่มองไม่ออกเลยด้วยซ้ำ

เถ้าแก่โจวดับบุหรี่ โยนไปบนพื้น แล้วเดินตรงไปข้างหน้า มือข้างหนึ่งจับสิงโต จากนั้นกำหมัดขึ้นมา ‘ตูม!’

“แม่ม่าย ฮิๆๆ”

“เจี๊ยกๆๆ!!!!”

“ไป แกจะดีใจอะไรนักหนา” ทนายอันบ่นเจ้าลิงที่นั่งอยู่ข้างคนขับ “อย่ามีรสนิยมแย่ๆ เหมือนนักพรตเฒ่า ผู้ชายอย่างพวกเราต้องรักเดียวใจเดียว ชอบเพศหญิงอายุสิบแปด เข้าใจไหม”

เจ้าลิงน้อยเกาหัว พร้อมกับจินตนาการภาพลิงตัวเมียอายุสิบแปดปี ควรทราบว่า อายุขัยของลิงโดยทั่วไปอยู่ได้แค่ยี่สิบปีเท่านั้น…เช่นนั้นลิงตัวเมียอายุสิบแปดปี…เจ้าลิงน้อยตัวสั่นขึ้นมาทันที ส่ายหน้าอย่างแรง

“จริงๆ เลย อย่าเปลี่ยนรสนิยมตามนักพรตเฒ่า” ทนายอันหัวเราะ จุดบุหรี่หนึ่งมวนแล้วขับรถต่อ

เขาพาเจ้าลิงไปด้วย เพื่อไปทำลายค่ายกลโดยเฉพาะ ความสามารถนี้ของเจ้าลิงปรากฏเมื่อนานมาแล้ว ลิงวิเศษก็อย่างนี้แหละ ความสามารถที่มีมาตั้งแต่กำเนิดใครก็อิจฉาไม่ได้

ผีบังตาหรือค่ายกลพรางตา โดยพื้นฐานแล้วไม่เคยมีอยู่สำหรับเจ้าลิง

เวลานี้โทรศัพท์ของทนายอันดังขึ้น เป็นสายมาจากสำนักงานทนายความของตัวเอง

“ฮัลโหล มีอะไร”

“อ้อ รู้แล้ว”

“เปิดโปงเลย เปิดโปงต่อไป ที่อยู่บ้าน ช่องทางการติดต่อของคนในครอบครัว แฉออกมาให้หมด คุณโง่เหรอ เปิดบัญชีสำรองไม่เป็นหรือไง”

“อ้อ ผมจะทำให้ครอบครัวเนรคุณพวกนั้นใช้ชีวิตปกติไม่ได้อีกต่อไป!”

“ลุยเต็มที่ ไม่ต้องเสียดายเงิน ถึงต้องจ่ายเงินเยอะแต่ผมดีใจ พวกคนหัวร้อนที่ไปส่งพวงหรีด ไปด่าถึงหน้าบ้านเกี่ยวอะไรกับผม”

“มีคนถือมีดฟันคนแล้วค่อยบอกผม”

“โอเคๆ พวกคุณยุ่งต่อเถอะ อ้อใช่ ช่วยติดต่อเครือข่ายเซ็นจูรีจีเจียหยวนให้ผมที หาชื่อใครสักคนมาหลอกก่อน แล้วหาคนร้องทุกข์มาฟ้องพวกเขา โดยพูดชื่อสำนักงานทนายความของพวกเรา”

“ฉันเป็นผู้ตรวจสอบ” ชายชราจมูกแดงซื้ดจมูก เขินอายเล็กน้อย รู้สึกขายหน้าอยู่บ้าง แต่ก็ยังบอกตัวตนของตัวเอง

เสียดาย ยมทูตทั่วไปเดิมทีเมื่อเจอผู้ตรวจสอบ ต้องก้มหน้าแสดงความเคารพ แต่ตอนนี้เวลานี้ ชายชราจมูกแดงกลับไม่มั่นใจที่จะสั่งให้ยมทูตที่อยู่ตรงหน้ากราบไหว้ตัวเอง หมัดใครแข็งกว่า คนนั้นใหญ่กว่า นับตั้งแต่โบราณเป็นต้นมาเป็นหลักการที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

เหล่าจางแปลกใจเล็กน้อย แต่จุดที่เขารู้สึกแปลกใจไม่ได้อยู่ที่ชายชราที่อยู่ตรงหน้าเป็นผู้ตรวจสอบ ควรทราบว่าคนในร้านหนังสือ ไม่มีความสามารถอื่น แต่ประสบการณ์ทางโลก โดยพื้นฐานแล้วสามารถปลิดชีพกลุ่มยมทูตขนาดเล็กในพื้นที่อื่นทั่วประเทศได้ภายในพริบตา และยังไม่ต้องพูดถึงร้านหนังสือยังมีอดีตผู้ตรวจสอบคนเก่งที่กลายเป็นสุนัขรับใช้อยู่คนหนึ่ง แม้กระทั่งตราประทับของผิงเติ่งหวังก็ใช่ว่าจะไม่เคยเก็บสะสมมาก่อน

ดังนั้นหลายคนยากที่จะเข้าใจ อำนาจของกษัตริย์คืออะไร อำนาจคืออะไร จริงๆ แล้วเป็นเรื่องไร้สาระหลอกคนให้ตกใจเล่นเท่านั้น ก่อนที่จะถูกเฉลย ยังน่าตกใจอยู่ แต่เมื่อถูกเปิดเผยแล้ว เป็นแค่เรื่องไร้สาระเท่านั้น

“คุณเป็นผู้ตรวจสอบ คุณตาบอดเหรอ มาต่อยผมทำไม!” เหล่าจางเถียงด้วยความหยิ่งผยอง

ชายชราจมูกแดงตื่นตะลึง จากนั้นความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมา หึ ไว้หน้านายแล้วยังไม่พอใจใช่ไหม! แต่ไม่รอให้การปะทะรอบใหม่เกิดขึ้น ภายในตึกทรงตะวันตก เสียงคำรามของสิงโตดังมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แตกต่างจากคราวก่อนเป็นอย่างมาก เสียงตอนแรกสุดดุดันทรงพลังและยิ่งใหญ่ ประหนึ่งราชาแห่งสรรพสัตว์มาเยือน ปิดทางเดินทุกช่องทาง หยุดได้คือหยุด แต่ตอนนี้ “โฮก!” “โอ้ว” “อิ๋ง…” “แง้ว….” “เหมียว…”

แม่งเอ๊ย สิงโตโดนตีกลายเป็นแมวไปแล้ว!

เมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว เหล่าจางจึงโล่งอกไปที เพราะได้ยินแบบนี้ เถ้าแก่น่าจะไม่มีอันตรายอะไร

ชายชราจมูกแดงกลับลูบคางของตัวเอง พูดด้วยความสงสัยอยู่บ้าง “ใครอยู่ข้างใน”

เหล่าจางไม่สนใจเขา มักจะรู้สึกว่าชายชราคนนี้แปลกพิลึก และไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน เมื่อก่อนเป็นตำรวจเหล่าจางเป็นคนซื่อตรง แต่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจการทำตัวลื่นไหลใช้เล่ห์เหลี่ยมในเวลาที่จำเป็นหากไม่ล่วงล้ำเส้นขีดจำกัดและกฎเกณฑ์ เขาจะไม่โง่ชี้หน้าตะโกนใส่หัวหน้าด้วยคำพูดที่เปี่ยมไปด้วยเหตุผลและสัจธรรมว่า ‘เมืองไคฟงมีคนที่เชื่อเปาบุ้นจิ้น!’ และจะไม่ทำตัวอ้างว้างกำหมัดแน่นอยู่คนเดียวตามลำพังในคืนพายุฝนฟ้าคะนองแล้วเอ่ยว่า ‘ขอสาบานต่อฟ้าว่าฉันจะไม่ยอมแพ้!’

ทว่าครั้งนี้ ไม่รู้ว่ากินยาผิดหรือเปล่า ชายชราจมูกแดงที่อยู่ตรงหน้า เหล่าจางไม่อยากไว้หน้าเขาเลย

ชายชราจมูกแดงโกรธก็จริง แต่สักพักก็ไม่โกรธแล้ว ตัวเขาเองรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็ยังยื่นมือชี้ไปที่ตึกทรงตะวันตกขนาดเล็ก แล้วพูดเตือนว่า “เจ้าสิ่งนั้นไม่ธรรมดา”

“ไม่เป็นไร” เหล่าจางโบกมือ เพราะเขารู้ดีว่าเถ้าแก่ของตัวเองไม่ธรรมดากว่า และในเวลาถัดมา ตึกทรงตะวันตกขนาดเล็กเกิดเสียงดัง ‘ครืน’ ขึ้นมาทันใด ตึกถล่มแล้ว…

……………………………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล