ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 756

ตอนที่ 756 บรรพบุรุษน้อย

ผู้หญิงคนนั้นลงไปแล้ว น้ำเสียงแลดูขี้ขลาดเป็นอย่างมาก มีความรู้สึกเหมือนเป็นสาวสวยแต่ขี้โรค หลี่ว์เฉิงเหวินหัวเราะให้โจวเจ๋ออย่างเก้อเขิน แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ไม่พูดสักคำ

โจวเจ๋อหัวเราะเช่นกัน เรื่องส่วนตัวของคนอื่น โจวเจ๋อขี้เกียจสนใจ คงพูดได้เพียงว่าก่อนที่หลี่ว์เย่าจู่จะลงไปทำไมถึงมองไม่ออกว่าหลี่ว์เย่าจู่ถูกสวมเขา

โจวเจ๋อหาวหวอด อยากจะโทรถามเหล่าสวี่ว่าจะมาถึงเมื่อไร ห้องนี้ ถ้าไม่ผิดไปจากที่คาด น่าจะถูกวางค่ายกลไว้ และนับตั้งแต่ตอนที่เริ่มปลูกสร้าง ได้สร้างตามแบบที่กำหนดไว้โดยเฉพาะ เสียดายที่เถ้าแก่โจวไม่เก่ง ไม่เคยศึกษาเรื่องค่ายกลอะไร จึงมองไม่ออกเป็นธรรมดา

ทั้งสองคนสูบบุหรี่สองมวนแล้ว หลี่ว์เฉิงเหวินทำเหมือนจะพูดแต่ก็เงียบไป เขาอยากถามโจวเจ๋อจริงๆ ถึงจุดประสงค์ที่มาที่นี่ แต่หลายครั้งพอคำพูดมาถึงปากก็กลืนกลับลงไป

โจวเจ๋อขี้เกียจไม่รู้จะคุยอะไรแล้ว ปล่อยให้บรรยากาศเซ็งไปเถอะ เวลานี้ ม่านหน้าต่างจู่ๆ สั่นขึ้นมา สั่นเล็กน้อยแต่ยังถูกโจวเจ๋อจับได้ เขาถอยหลังสองสามก้าวทันที รีบเปิดประตูห้องมองออกไปข้างนอก กลับไม่เห็นใครตรงโถงทางเดินสักคน หลี่ว์เฉิงเหวินค่อยๆ ลุกขึ้น แล้วพิงผนังห้องไม่ขยับ

โจวเจ๋อกวาดตามองหลี่ว์เฉิงเหวินหนึ่งที สายตาบอกว่าให้เขาอยู่นิ่งๆ ต่อไป จากนั้นจึงเดินไปที่ริมหน้าต่าง โน้มตัวลง บนพื้นมีรอยเท้าที่เปียกชื้นอย่างชัดเจน รอยไม่ใหญ่มาก แต่กลับกว้างและหนามากกว่า เหมือนฝ่ามือของคนนอกจากนี้ยังมีสี่รอย เรียงเป็นสองแถว

โจวเจ๋อขมวดคิ้ว เขาเกลียดที่สุดคือการเล่นซ่อนแอบ แต่เห็นได้ชัดว่า ตัวตนที่คำรามเสียงสิงโตคนนั้น ดูเหมือนมีเจตนาที่จะไม่เข้ามาแน่นอน ทว่าหลังจากโจวเจ๋อถอยหลังสองสามก้าวกลับเข้าไปในห้อง กลับไม่เห็นหลี่ว์เฉิงเหวินแล้ว!

ให้ตายเถอะ! ชั่วเวลาเดียว โจวเจ๋อรู้สึกว่าตัวเองโดนหลอก! เขารู้ว่าหลี่ว์เฉิงเหวินต้องมีปัญหาแน่นอน เพราะบางเรื่องเขาไม่ได้พูดความจริง แต่โจวเจ๋อคาดคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า คนธรรมดาคนหนึ่งจะหายตัวไปต่อหน้าต่อตาตัวเองได้!

เช่นนั้นหมายความว่า เรื่องขึ้นลงบันไดก่อนหน้านี้ มีความเป็นไปได้สูงที่หลี่ว์เฉิงเหวินสร้างขึ้นมาเอง ตัวของเขามีความเข้าใจในห้องนี้ เพราะไม่ว่าอย่างไรก็เป็นบ้านที่เขาสร้างเอง!

แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง มีบางสิ่งวนเวียนอยู่ในห้องนี้ ฉวยโอกาสใช้ลูกไม้อะไร ความเคลื่อนไหวของผ้าม่านเมื่อครู่จริงๆ แล้วคือการล่อเสือออกจากถ้ำ

“อยากเล่นกับฉันใช่ไหม” โจวเจ๋อกัดริมฝีปาก เล็บงอกยาวออกมา กรีดเป็นรอยลึกห้าแถวบนผนังโดยตรง

“นายคอยดูเถอะ ฉันจะรื้อบ้านของนายเสีย ดูซิว่าถึงตอนนั้นนายจะหลบไปไหนได้!” โจวเจ๋อหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเหล่าสวี่อีกครั้ง แต่โทรไม่ออก มุมขวาบนโชว์ว่าไม่มีสัญญาณ

จู่ๆ โทรศัพท์ก็ไม่มีสัญญาณ นี่แทบจะเป็นธงสัญญาณเตือนก่อนที่จะเกิดเรื่อง! จากนั้นโจวเจ๋อเหมือนเห็นอะไรอีก จึงเดินออกจากห้องทำงานอีกครั้ง มายืนอยู่ที่ทางเดินริมระเบียง สองมือยันขอบระเบียง เมื่อเงยหน้า ท้องฟ้าพลันสว่างจ้า

ทางถนนเล็กตามชนบท ขับรถมาตามตำแหน่งจีพีเอส ในที่สุดพี่จือหลิงได้นำทางสวี่ชิงหล่างมาอยู่ในโรงเลี้ยงไก่แห่งหนึ่ง

‘สิ้นสุดการนำทางในครั้งนี้ ยินดีที่ท่านใช้…’ สวี่ชิงหล่างโยนโทรศัพท์ไปที่ตำแหน่งข้างคนขับ สองมือตบพวงมาลัยทันที อะไรวะ หรือว่าเหล่าโจวกับเหล่าจางมากินไก่ที่นี่ตอนดึกดื่น ตำแหน่งจีพีเอสตอนแรกเป็นสระน้ำ โอเค ตัวเองขอตำแหน่งมาใหม่แล้ว ผลสุดท้ายปักหมุดมาที่โรงเลี้ยงไก่

สวี่ชิงหล่างลูบเส้นผมของตัวเอง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง แล้วส่งข้อความหาเหล่าจางสองสามข้อความจากนั้นจุดบุหรี่ให้ตัวเองหนึ่งมวน แล้วสูบขึ้นมา

หมดไปหนึ่งมวน เหล่าจางก็ยังไม่ตอบกลับข้อความ สวี่ชิงหล่างจึงโทรไปหาเหล่าจาง ‘ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถคิดต่อได้ขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่…’ สวี่ชิงหล่างสูดลมหายหนึ่งที พยายามทำให้ตัวเอใจเย็น แต่ใจเย็นแล้วจะมีประโยชน์อะไร คุณมาช่วยงานแต่หาสถานที่ไม่เจอ แล้วจะช่วยได้อย่างไร

สวี่ชิงหล่างจึงได้แต่โทรหาทนายอัน “คุณอยู่ที่ร้านหนังสือไหม”

“ผมอยู่ ทำไมเหรอ”

“โทรศัพท์ของเถ้าแก่โทรไม่ติด ที่อยู่ที่ส่งให้ผมก็มีปัญหา แต่ระยะห่างของที่อยู่ที่ส่งมาผิดทั้งสองอยู่ใกล้กันมากเถ้าแก่น่าจะอยู่แถวนี้”

“ไม่มีปัญหา ผมจะพาเจ้าลิงไปด้วย”

สวี่ชิงหล่างพยักหน้า แล้วจึงตัดสาย พูดกับคนฉลาด บางครั้งช่วยลดความยุ่งยากหลายอย่างได้เยอะมาก พูดนิดเดียวก็เข้าใจแล้ว

แต่โทรศัพท์สับปะรังเคชอบเกิดปัญหาทุกครั้งที่มีเรื่องด่วน จะต้องหาวิธีหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ อย่างเช่น เลี้ยงนกพิราบในร้านหนังสือ ไม่ว่าอย่างไรโดยพื้นฐานแล้วล้วนเป็นงานที่อยู่ในขอบเขตของทงเฉิง ความเร็วของนกพิราบสื่อสารไม่น่าจะช้าเกินไป ถึงตอนนั้นก็สั่งให้เจ้าลิงน้อยฝึกฝนนกพิราบ ส่วนนกพิราบโง่ที่ฝึกฝนไม่ได้ ยังสามารถนำมาตุ๋นเป็นน้ำแกงดื่มได้

ทันใดนั้นสวี่ชิงหล่างรู้สึกว่าตัวเองคิดเพ้อเจ้อ แต่ห้ามความคิดของตัวเองไม่อยู่ว่าจะนำนกพิราบมาทำเมนูอะไร

‘ปึ้ง!’

“ไอ้โง่ แกกล้า!”

‘ปึ้ง!’

“ไอ้เลว แกกล้า!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล