ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล นิยาย บท 814

สรุปบท ตอนที่ 814 ก็แค่มุทะลุ: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

อ่านสรุป ตอนที่ 814 ก็แค่มุทะลุ จาก ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 814 ก็แค่มุทะลุ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 814 ก็แค่มุทะลุ

บางที ชายชราที่ทำความสะอาดพร้อมกับสอดแนมอยู่ข้างล่างคนนั้น เขาก็คงคิดไม่ถึงว่า นาทีนี้ชีวิตของเขาเทียบเท่ากับการบ้านภาษาอังกฤษในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวเท่านั้น

เพิ่มมีดแทงใจอีกเล่มแล้วกัน เป็นการบ้านของนักเรียนชั้นประถมอีกต่างหาก

สาวน้อยโลลิเดินไปริมโต๊ะและนั่งลง พลางเอ่ยกำชับ “ความหมายของทางเถ้าแก่คือ จัดการได้ก็จัดการเลย ถ้าสืบสวนได้เบาะแสก็อาศัยเบาะแสติดตามเรื่องราวต่อ เอาเป็นว่าไม่ต้องเกรงใจนั่นแหละ ในเมื่อพวกมันกล้ามา เช่นนั้นเราก็กล้าทำให้พวกมันกลับไปไม่ได้”

“ได้”

เด็กชายพยักหน้าบอกใบ้ว่าตัวเองรับทราบแล้ว และโบกไม้โบกมือ พลาง ‘สะกิด’ การ์ฟิลด์ที่นอนหมอบอยู่บนตู้ข้างเตียง จนมันเหาะมาที่ไหล่ของเขา

อาการบาดเจ็บที่ขาของฮวาหูเตียวยังไม่หายดีนัก แต่ในความเป็นจริง สำหรับคนธรรมดานั้น ขาและเท้าที่บาดเจ็บอาจจะทำให้เดินเหินไม่สะดวก แต่สำหรับฮวาหูเตียวนับว่าไม่เท่าไร มันก็แค่รู้สึกว่าเจ็บปวดมากเท่านั้น อีกอย่างความรวดเร็วขนาดนั้นก็ไม่ได้อาศัยขาช่วยด้วย

จากมุมมองของฮวาหูเตียวนั้น มันรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมกับเด็กชายมากขึ้น ประการแรกเป็นเพราะว่าเด็กชายเป็นผีดิบสายเลือดดั้งเดิม กลิ่นกายบนตัวทำให้มันสบายตัวมาก แน่ละว่า สายเลือดผีดิบของเถ้าแก่โจวสูงกว่า แต่กลิ่นกายอื่นบนตัวเขากลับแรงยิ่งกว่าน่ะสิ

หันกลับไปเหลือบมองสาวน้อยโลลิที่นั่งคัดลอกการบ้านภาษาอังกฤษบนโต๊ะหนังสือ ในใจรู้สึกเหมือนชายทำนาหญิงทอผ้า เด็กชายยิ้มขำ และกระโดดลงจากระเบียงลงจอดที่พื้นอย่างมั่นคงทันที

ชายชราที่ทำความสะอาดอยู่ในสวนดอกไม้ด้านหน้าค่อยๆ ยืนตัวตรง พลางจ้องมองเด็กชายที่กำลังเดินมาทางนี้ เห็นได้ชัดว่าดูเหมือนจะทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าการปลอมตัวของตัวเองทำไมถึงถูกจับได้ จริงๆ แล้วไม่ใช่เพราะความประมาทเลินเล่อของเขา แต่เป็นเพราะเด็กชายเคยขอยันต์จากสวี่ชิงหล่างมาไม่น้อย และเอามาจัดวางไว้รอบๆ บ้านของอาหวังต่างหาก

ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้เหล่าสวี่ก็ยังฝึกเขียนยันต์อย่างต่อเนื่อง โดยพื้นฐานล้วนเป็นยันต์ระดับต่ำทั้งสิ้น ปริมาณก็มาก เขาใช้ไม่หมด ใครคนไหนในร้านหนังสืออยากจะเอาไปก็เอาไปได้เลย

เด็กชายก็ดันเก็บมาเยอะด้วยสิ เสมือนกับแอบเอาสวัสดิการและผลประโยชน์จากที่ทำงานกลับไปใช้ที่บ้าน

เอายันต์ที่ได้จากการฝึกหัดมาก็อย่าหวังว่ามันจะมีพลังอำนาจน่ากลัวอะไร แต่บางครั้งมันก็อาจเกิดผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ชายตรงหน้าปลอมตัวเป็นคนทำความสะอาดแก่ๆ เขาคิดไม่ถึงแน่ๆ ว่าจะมียันต์เยอะแยะมากมายฝังอยู่ในสวนที่ตัวเองทำความสะอาดอยู่

เด็กชายก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง หลังจากชายชราคนทำความสะอาดยืนตัวตรง บุคลิกพลันเปลี่ยนไป เขายื่นมือออกมากระชากใบหน้าปลอมออกไป เผยให้เห็นใบหน้าของชายหนุ่ม แถมยังยกยิ้มขี้เล่นที่มุมปากอีกต่างหาก

เขาหยิ่งผยองและหยิ่งยโสมาก แววตานี้ดูคล้ายกับเจ้าหน้าที่รัฐตัวเล็กๆ ในหน่วยงานที่ว่างงานในมณฑลมาสำรวจเขตการปกครองระดับต่ำกว่าอย่างอำเภอและตำบลอย่างไรอย่างนั้น ความจริงแล้ว ยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประเภทนี้ หลังจากลงพื้นที่ ยิ่งชอบวางท่ามากเท่านั้น และมักจะอยากทวงคืนอำนาจบารมีของเจ้าหน้าที่รัฐที่สูญเสียไปในวันปกติ พร้อมกับเก็บดอกเบี้ยไว้ชดเชยการสูญเสียสมดุลทางจิตใจไปหลังจากที่แกล้งทำตัวน่าสงสารมานาน

เขายังคงรักษาความระมัดระวังตัวสงวนท่าทีเอาไว้ เพียงแต่การสงวนท่าทีแบบนี้ต่อหน้าเด็กชายนั้น มันกลับไม่มีความหมายอะไร

เด็กชายมาแล้ว

เด็กชายชูกำปั้น

เด็กชายกระแทกหมัดลงมา

ไม่มีอะไรจะอธิบายได้มากกว่านี้อีกแล้ว เพราะนี่คือการกระทำเดียวเท่านั้น

‘ผัวะ!’

ชายหนุ่มถูกต่อยกระเด็นจนกลิ้งเกลือกบนพื้นไปไกลถึงสามสิบเมตร จากนั้นก็หน้าคว่ำ ตัวหมอบกับพื้น ทั้งขาและเท้ากระตุกไม่หยุด

แค่นี้ก็จบแล้ว

เด็กชายหันกลับไปมองระเบียงบ้านด้านหลัง ในใจรู้สึกเพียงแค่การตกลงธุรกิจนี้เขาได้กำไรนี่นา ถ้าเทียบกับคัดลอกคำศัพท์ภาษาอังกฤษนานๆ ซัดหมัดกระแทกโดยตรงมันสะใจยิ่งกว่าอีก

เด็กชายเดินไปข้างตัวชายหนุ่มแล้วกระชากเขาขึ้นมา ชายหนุ่มหน้าบวมช้ำ หอบหายใจออกมามากกว่าหายใจเข้าด้วยซ้ำ

นี่ไม่ใช่ผู้ตรวจสอบแน่นอน และอาจจะไม่ใช่แม้กระทั่งผู้จับกุม ดูจากระดับแล้วน่าจะเป็นแค่ยมทูต

ผู้ที่แปรพักตร์จากยมโลกในครั้งนี้คือเจ้าหน้าที่ทางการกลุ่มหนึ่ง จะให้เป็นระดับผู้นำทั้งหมดนั้นเป็นไปไม่ได้แน่ๆ อีกทั้งการดำรงอยู่ของระดับยมทูตแบบนี้น่าจะไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลยด้วยซ้ำ

ลองนึกภาพดู ยมทูตหนึ่งตน ไม่ว่าจะทำงานที่ศูนย์กลางหรือทำงานส่วนท้องถิ่น จะอย่างไรคุณเป็นแค่ยมทูต แต่ดันเผชิญหน้ากับหมัดของเด็กชายด้วยความหน้าด้านหน้าทนและท่าทียิ้มกริ่มนั้น มันช่างน่ารักสุดๆ ไปเลย

เรื่องราวราบรื่นยิ่งกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก พลังปราณพิฆาตผุดขึ้นกลางฝ่ามือของเด็กชาย และกดมันลงบนหน้าผากของอีกฝ่ายโดยตรง

ใบหน้าที่หวาดกลัวปรากฏขึ้นบนหน้าผากของอีกฝ่ายทันที พร้อมกับร้องด้วยความตกใจ “อย่าฆ่าข้า อย่าฆ่าข้า ข้าเป็นยมทูต ข้าเป็นยมทูต เจ้าจะฆ่าข้าไม่ได้ เจ้าฆ่าข้าไม่ได้! ข้ามาจากข้างล่าง มาจากข้างล่าง เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ฆ่าข้าไม่ได้!”

ร่างกายแตกสลาย แต่ยังมีวิญญาณ และแก่นแท้ของผู้คนในยมโลก เดิมทีก็คือวิญญาณ

เด็กชายยั้งมือและถามตามคำสั่งก่อนหน้านี้ “พวกเจ้าคนอื่นๆ อยู่ที่ไหน”

“ข้าบอก ข้าจะบอก…”

ในนั้นมีกลิ่นอายพลังของคนสามคน ฆ่าไปสอง เหลือนักโทษไว้สอบปากคำหนึ่ง สมบูรณ์แบบ

เด็กชายหยิบไพ่โป๊กเกอร์ที่ทนายอันสร้างไว้ออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง และโยนมั่วๆ ลงพื้น แต่ในตอนนี้เอง ประตูห้องดันถูกเปิดออกพอดี หญิงสาวหน้าตาจริงจังคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู ดูเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก บังเอิญเจอกับเด็กชายยืนอยู่หน้าประตูเข้า

ผู้ใหญ่หนึ่งคนและเด็กหนึ่งคน ทั้งสองสบตากัน

ครู่ต่อมา รูม่านตาของหญิงสาวหดตัวลงอย่างกะทันหัน และเริ่มผสานมือทำท่ามุทราตามสัญชาตญาณ!

แต่ความเร็วของเด็กชายไวกว่า ยื่นมือไปคว้าข้อมือของเธอ ขัดขวางกระบวนการทำมุทราของอีกฝ่ายทันที!

ปล่อยให้ผีดิบตนหนึ่งเข้ามาประชิดตัวได้อย่างอุกอาจขนาดนี้ ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น จะเปิดเผยให้เห็นโดยทั่วกันเดี๋ยวนี้แล้ว

ขณะที่เด็กชายเอื้อมมือขวาไปปิดประตู มือซ้ายก็จับข้อมือของหญิงสาวแล้วออกแรงกระชาก

‘ผัวะ!’

เรื่องไหนจัดการได้ง่ายๆ ทางที่ดีก็ควรจัดการให้ฉับไวที่สุด

ร่างของหญิงสาวกระแทกกับพื้นอย่างแรง ครู่หนึ่ง เสียงกระดูกแตกดังกร๊อบดังขึ้น

หญิงสาวจบเกมแล้ว

แม้ว่ากายหยาบของยมทูตจะไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต แต่ก็เป็นที่อาศัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกมนุษย์ ตราบใดที่ทุบตีร่างกายของพวกเขาจนบุบสลาย พวกเขายังไม่ตายทันที แต่ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากมนุษย์ผัก

ชายหนุ่มอีกสองคนยังนั่งอยู่บนโซฟาในห้อง คนหนึ่งยังถือบุหรี่อยู่เลย ทั้งคู่ต่างจ้องมองมาทางนี้อย่างตกตะลึง ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจะอยู่นอกเหนือจินตนาการของพวกเขา

เด็กชายชะงักเล็กน้อย เขากำลังครุ่นคิด คิดว่าหากเถ้าแก่อยู่ที่นี่แล้วเผชิญหน้ากับสถานการณ์นี้ในตอนนี้ เขาจะพูดว่าอะไร

จะโม้เกินไปไม่ได้ ถ้าโม้เกินไปเดี๋ยวจะกลายเป็นการตั้งเป้าหมายแล้วทำไม่ได้เอา แต่ก็ไม่อาจถ่อมตนเช่นกัน หากถ่อมตนมากไปตัวเองก็ไม่สาแก่ใจพอน่ะสิ

เด็กชายขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็นึกถึงสิ่งที่เถ้าแก่จะพูดหากอยู่ที่นี่ออกแล้ว เขากระแอมในลำคอและพูดว่า “สวัสดีครับ ทำความสะอาดห้องพักครับ”

…………………………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล