ตอนที่ 827 หาวจื้อ
……….
โจวเจ๋อตกใจกับการทักษะขั้นเทพของเหล่าจาง
เขาหิวจัดเสียจนหน้าอกแทบติดกับหลังอยู่ด้านนี้เอาแต่ชะเง้อคอมองการมาถึงของอาหารเดลิเวอรี่อย่างใจจดใจจ่อ แต่ปรากฏว่าคนส่งอาหารตามหาพื้นที่เล็กๆ เพื่อตามหาประตูอย่างลำบากและขณะเคาะประตูนั้นเอง เหล่าจางไปเปิดประตูและจู่ๆ ไปบอกคนเขาว่ายกเลิกออเดอร์แล้ว!
ทำอะไรลงไปเนี่ย!
เหล่าจางเกาหัว รู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อกี้ตัวเองทำไมถึงทำอย่างนั้น บอกได้เพียง มันเป็นสัญชาตญาณน่ะ
คำสั่งสอนที่ว่าใกล้ก่อนแล้วค่อยยิงเพื่อประหยัดกระสุนประเภทนั้น ไม่มีอยู่จริงสำหรับทหารใหม่
เมื่อเห็นว่าเจ้านั่นกำลังมุดออกมา เหล่าจางซัดหมัดลงไปโดยไม่รู้ตัวและไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย ยิ่งกว่านั้น เขาก็ไม่คาดคิดว่าหลังจากเจ้านั่นโดนเขาต่อยหมัดลงไปแล้วดันไม่โผล่ออกมาแล้วจริงๆ!
ทนายอันถอนหายใจเฮือกและเดินไปข้างเหล่าจางก่อนพร้อมส่งสัญญาณให้เหล่าจางถอยหลังมาหน่อย เขาเตรียมรุดขึ้นมาเอง แต่ว่าก็ยังหันหน้าไปชำเลืองมองเหล่าจางและกำชับ “ค่อยระวังคุ้มกันผมด้วยนะ”
“อืม!” เหล่าจางพยักหน้าแรงๆ
ทนายอันเลียฝีปาก มือกระดูกปรากฏขึ้น แต่ว่า เขาไม่ได้ใช้มือกระดูกทำผ่าตัดกายวิภาคอะไร เมื่อครู่นี้บางอย่างที่ขนปุกปุย ดูเหมือนจะมุดออกมาจากปากของผู้หญิงคนนี้ แต่ความจริงแล้วเจ้าสิ่งนั่นไม่ได้อยู่ในร่างกายของหญิงสาวจริงๆ ด้วยซ้ำ
ถ้าพูดให้ถูกต้องก็คือ เหมือนกับที่เขาแบกทารกไว้บนหลัง จิตวิญญาณของพวกเขาเป็นเหมือนสื่อกลางเชื่อมโยงระหว่างโลกและนรกมากกว่า เป็นแค่จุดเปลี่ยนสถานี และหากเพียงชำแหละร่างกายหญิงสาวอย่างง่ายดายย่อมไร้ผล ด้วยเหตุนี้หากกระทบต่อจิตวิญญาณของหญิงสาวขึ้นมาจะดับสลายหรือไม่ก็เกิดปัญหาร้ายแรงอื่นๆ เท่ากับว่าปิดตายประตูที่เจ้าสิ่งนั้นจะออกมา
หาก ‘ผดุงธรรมแทนสวรรค์’ หรือ ‘ปกป้องมนุษย์โลก’ ธรรมดาละก็คงปิดตายไปแล้ว ทุกคนก็จะยิ่งมีความสุข แต่ปัญหาคือ ตอนนี้เถ้าแก่เหมือนจะกินหอยโข่งและคุณต้องใช้ไม้จิ้มฟันแคะเนื้อมันออกมาแทนที่จะใช้ตะเกียบจิ้มข้างในแรงๆ นะสิ!
ทนายอันประสานมือ หมอกควันชมพูสายแล้วสายเล่าเริ่มก่อตัวบนปลายนิ้ว
เกิงเฉินถูกทนายอันผูกไว้ข้างหลังยิ้มพลางเอ่ย “เหลือความสามารถเท่านี้เองหรือ”
ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองย่ำแย่มากจริงๆ แม้ว่าจะทิ้งความขัดแย้งไปชั่วคราวเพราะมีเป้าหมายเดียวกันก็ตามแต่ยังไม่วายเสียดสีกระแทกกระทั้นกันด้วยวาจาอยู่ดี
“เจ้าอย่าได้ใจไป คาดว่าฝั่งยมโลกคงจะถอดยศคืนตำแหน่งพวกเจ้าแล้ว รอผ่านพ้นช่วงนี้ไปเจ้าก็จะรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากพลังในร่างกายที่ค่อยๆ หายไป จนถึงตอนนั้นเย้ยหยันคนหัวอกเดียวกัน ไม่แน่ว่าจะสู้ข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ”
ควันสีชมพูเริ่มทะลุเข้าไปในโพรงจมูกหญิงสาว ทนายอันหลับตาลง ในเวลานี้ทั้งสองคนเข้าถึงความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดมาก ไม่ใช่ทั้งการควบคุมจิตใจหรือการแทรกซึมจิตสำนึก
ตอนนี้จิตสำนึกแห่งจิตวิญญาณของหญิงสาวแทบจะเป็นหลอมกลายเป็นหนองน้ำแล้ว ทนายอันไม่อยากเข้าไปจมอยู่ในนั้น
อันที่จริงสิ่งที่เขาอยากทำคือเต้นร่ายรำอยู่ตรงนั้น คุยกันนิดหน่อย เกี่ยวนิ้วกัน ยกต้นขาตัวเองกระดกขึ้นโน้มตัวตะโกนว่า “ข้าต้องการนายท่าน”
จุดประสงค์เพียงแค่ล่อลวงเจ้าสิ่งนั้นที่เพิ่งถูกกำปั้นเหล่าจางซัดกลับเข้าไป
ผลลัพธ์ชัดเจนมาก
ไม่นานนัก ร่างกายหญิงสาวเริ่มสั่นเทิ้มขึ้นมาอีกระลอก ตรงหน้าผากของหญิงสาวค่อยๆ นูนขึ้นมา คนที่มีหน้าผากสูงมักจะทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเข้ากันได้ยาก ในตอนนี้หน้าผากของหญิงสาวนูนขึ้นจนขนาดเท่าสองกำปั้น ราวกับมีเนื้องอกก้อนใหญ่
ทนายอันถอนตัวออกไปทันเวลา ลืมตาพร้อมกับก้าวถอยหลังเยื้องไปโดยไม่รู้ตัว เหล่าจางเดินหน้าไปครึ่งก้าวและคุ้มครองทนายอันอยู่ด้านหลัง
รอ
รอไปเรื่อยๆ
เพียงแต่ว่าหลังจากรอประมาณสิบนาทีแล้ว
เพียงแต่เนื้องอกนี้บวมขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่กลับไร้ความเปลี่ยนแปลงอื่น ไม่มีรอยแตกและยิ่งไม่มีตัวอะไรมุดออกมา คล้ายกับหยอกคุณเล่นเสียอย่างนั้น เอาแต่พยายามยื้อเพียงช่วงแรก แต่กลับไม่เข้าประเด็นสักที
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” ทนายอันก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรเช่นกัน ตามหลักแล้วมันไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เขาทั้งกระตุ้นทั้งล่อลวงก็แล้ว เจ้าสิ่งนั้นน่าจะถูกกระตุ้นออกมาอีกครั้งสิ
“บนตัวคนผู้นั้นข้างกายเจ้ามีพลังแห่งการผนึกอยู่หรือไม่” จู่ๆ เกิงเฉินก็เอ่ยถาม
ทนายอันได้ยินดังนั้นก็เข้าใจฉับพลัน เซี่ยจื้อเป็นอสูรวิเศษ สิ่งที่อสูรวิเศษถนัดที่สุดไม่ใช่ร่างกายอันทรงพลังของมันแต่เป็นพลังต้องห้าม!
เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะหมัดก่อนหน้าของเหล่าจางมีกลิ่นอายอสูรวิเศษ หลังจากกระแทกหมัดลงไป เท่ากับว่าไม่ใช่แค่อุดเนื้อหอยโข่งกลับไปต่อหน้าเถ้าแก่โจวเท่านั้น ขณะเดียวกันยังติดเทปปิดสนิทอีกต่างหาก โชคดีที่ตอนนี้เถ้าแก่อยู่ห่างไปไกลก็เลยไม่รู้รายละเอียดสถานการณ์ที่นี่ตอนนี้เท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นหลังจากเหล่าจางกลับไปอาจจะต้องมีส่วนช่วยในการสร้างพลังให้เมืองถูกสุขลักษณะและมีอารยธรรมด้วยกันกับนักพรตเฒ่าก็เป็นได้
“ข้าทำเอง”
เกิงเฉินบนหลังทนายอันเอื้อมมืออวบอ้วนของตัวเอง ทั้งงอทั้งยืดนิ้วสลับกันต่อเนื่องจนมีรัศมีสีดำกะพริบพึ่บพั่บที่ปลายนิ้วของเขา เขาคลายผนึกส่วนหนึ่งของตัวเองออก ปลดปล่อยกลิ่นอายเจ้านั่นที่ผนึกบนร่างตัวเองออกมา
พวกเขามีต้นกำเนิดเดียวกันจึงดึงดูดกันโดยธรรมชาติ ซึ่งเห็นผลชัดเจนมาก
เนื้องอกบนหน้าผากของหญิงสาวค่อยๆ ถูกฉีกออก นี่เป็นฉากที่น่าตกตะลึงมาก แต่โชคดีที่คนและอสูรในที่นี้ล้วนผ่านพายุร้อนหนาวมาจนชินแล้วจึงไม่รู้สึกตกใจใดๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล