บทที่ 108 ข้าบินได้?
เดิมทีเย่เทียนต้องการฝึกฝนจนถึงจุดสูงสุดของขอบเขตปรมาจารย์ก่อนที่จะ ออกจากฐานทะเลมาร แต่หลังจากฝึกฝนไปเพียงยี่สิบกว่าวัน พละกําลังของเขา เพิ่มขึ้นอีก 10 ช้าง ข่าวหนึ่งก็แพร่กระจายออกมาทําให้แผนการของเย่เทียนยุ่งเหยิง
“มีบางอย่างเกิดขึ้นที่ฐานหลินไห่?”
เย่เทียนขมวดคิ้ว
ข่าวนี้มาจากเย่วหลิง ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นเพียงข่าวลือ
สําหรับฐานหลินไห่ หากพูดว่าเย่เทียนไม่มีความรู้สึกใดๆนั่นคงจะเป็นเรื่องแม้ว่าตอนนี้เขาจะตั้งรกรากที่ใหม่ที่ฐานทัพทะเลมารแล้ว แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่าเขาจะลืมบ้านเกิดของตัวเอง เขายังไม่ได้ขายวิลล่าของเขาที่ฐานหลินไห่ เพื่อว่าเขาจะสามารถกลับไปบ้างเป็นบางครั้ง
แต่ตอนนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นที่ฐานหลินไห่
เย่เทียนจึงรีบติดต่อเย่วหลิงทันที เขาต้องการข้อมูลที่ถูกต้องและรายละเอียด มากกว่านี้จากปากของเย่วหลิง เพราะก่อนหน้านี้เย่วหลิงส่งข่าวมาให้เขาเพียงประโยคสั้นๆ โดยไม่มีรายละเอียดใดๆ
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
เย่เทียนพบกับเย่วหลิงอีกครั้ง
“เย่วหลิง เกิดอะไรขึ้นที่ฐานหลินไห่?” เย่เทียนขมวดคิ้วและถาม
สีหน้าของเย่วหลิงเคร่งขรึม “คลื่นสัตว์อสูรกําลังก่อตัว และฐานหลินไห่ก็อยู่ ในระยะที่มันได้รับผลกระทบ หากสถานการณ์ปกติ ฐานทัพทะเลมารคงจะไม่ ปล่อยให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นเพราะตําแหน่งของฐานหลินไห่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สําคัญ มันเป็นประตูสู่ฐานทะเลมาร แต่ตอนนี้ฐานทัพทะเลมารไม่สนใจฐานหลิน ไห่อีกต่อไป เพราะคลื่นสัตว์อสูรในครั้งนี้ได้กวาดผ่านฐานทัพใหญ่หลายฐาน โดยตรง การสูญเสียฐานทัพหลินไห่สร้างกระทบเพียงเล็กน้อยต่อฐานทะเลมาร เท่านั้น เรื่องนี้มีเพียงสมาชิกหลักของตระกูลใหญ่ของฐานทะเลมารเท่านั้นที่รู้ เพราะฉันกลายเป็นปรมาจารย์สถานะของฉันจึงเพิ่มขึ้นอย่างมากจึงรู้ข้อมูลนี้มา เมื่อคุณรู้แล้วอย่าได้แพร่งพรายออกไปมิฉะนั้นมันจะเกิดความสับสนวุ่นวายใน“น่ากลัวยิ่งกว่าสี่สิบปีก่อนอีก!”
เย่เทียนหรี่ตาลง เขาตระหนักได้อย่างแท้จริงว่าทําไมฐานทะเลมารถึงต้อง ละทิ้งฐานหลินไห่ เพราะฐานทะเลมารกําลังตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน แล้วพวกเขาจะสนใจฐานหลินไห่ได้อย่างไร!
ในการเผชิญหน้ากับคลื่นสัตว์อสูรครั้งนี้ ฐานหลินไห่ทําได้เพียงพึ่งพาตนเองเท่านั้น
“เย่วหลิง คุณคิดว่ามีโอกาศมากแค่ไหนที่ฐานหลินไห่ถึงจะล่มสลาย” เย่ เทียนถาม
“เกือบ 100%!” เย่วหลิงถอนหายใจ “เย่เทียน คุณไม่รู้หรอกว่าฐานทัพถูกทํา ลายไปกี่ฐานในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ตระกูลเย่วของฉันรู้สิ่งต่างๆมากมาย อย่า มองว่าฐานทัพใหญ่จะรุ่งเรืองมันสามารถล่มสลายได้ทุกเมื่อ และสถานการณ์ ของมนุษย์ก็ยิ่งแย่ลง ว่ากันว่ารอยแยกของมิติยังคงขยายใหญ่ขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป จะมีสัตว์อสูรที่ทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ บางทีสักวันหนึ่งมนุษยชาติอาจจะจบ สิ้นเลยก็ได้ ”
กลิ่นอายที่หนักหน่วงแผ่กระจายไปทั่ว ระหว่างเขากับเย่วหลิง
ในตอนนั้นเอง เย่เทียนก็เอ่ยปากขึ้นว่า
“ผมจะไปที่ฐานหลินไห่ ผมหวังว่าคุณจะช่วยข้าดูแลน้องสาวของผม นับว่า ครั้งนี้ผมติดค้างคุณแล้ว!”
“ฉันช่วยเจ้าดูแลน้องสาวของคุณได้ นี่แค่เรื่องเล็กน้อย แต่คุณแน่ใจแล้วหรอเย่วหลิงพูดด้วยใบหน้าที่ดูไม่ดีนัก
แม้ว่าฐานทะเลมารจะตกอยู่ในอันตราย แต่ก็ยังมีโอกาศสูงที่จะรับมือกับคลื่นสัตว์อสูรได้ หากรับมือไม่ไหวจริงๆฐานทัพทะเลมารยังสามมารถขอความช่วยเหลือจากฐานระดับสูงสุดได้
แต่ฐานหลินไห่ไม่มีแม้แต่ค่ายกลป้องกัน เมื่อฝูงสัตว์อสูรพุ่งเข้าโจมตี มันจะ กลายเป็นเศษซากในพริบตา แม้แต่ระดับราชาก็ยังยากที่จะต่อกรกับคลื่นสัตว์อสูรเพียงลําพัง
แล้วเย่เทียนเทียนแข็งแกร่งแค่ไหนกัน? เขายังเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธระดับปรมาจารย์ต้องการต่อสู้กับคลื่นสัตว์อสูร แม้แต่กลุ่มเล็ก ๆ ของฝูงสัตว์อสูรก็ ไม่ใช่สิ่งที่ปรมาจารย์จะรับมือได้
“เย่เทียน คุณทําแบบนี้มันอันตรายเกินไป ไม่คุ้มที่จะเสี่ยงเลย!”เย่เทียนยิ้มเล็กน้อย “วางใจเถอะ ผมไม่ได้โง่นะ หากผมต้องการจะหนีไม่มี อะไรที่สามารถขวางผมได้
คําพูดของเย่เทียนไม่ได๋โอ้อวด ด้วยระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันของเขาบวก กับพรสวรรค์ด้านความเร็วระดับสูงสุด เขายังมีความเร็วมากกว่าระดับราชาบาง คน นอกจากนี้เขายังมีพรสวรรค์ด้านการบินระดับสูง เขายังสามารถบินหนีได้เขาที่มีพรสวรรค์พิเศษมากมาย และอาจจะเป็นหนึ่งในผู้ฝึกยุทธที่ฆ่าได้ยากที่สุดในโลก
มังกรโลหิตตื่นขึ้นมาและได้ยินคําพูดของเย่เทียน มันเชิดหน้าขึ้นแล้วพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์