เธอพุ่งไปข้างหน้าและคว้าแขนปรียาดาไว้ก่อนที่จะดึงร่างเรียวออกจากอ้อมกอดของวาโยอย่างแรง
เมื่อรู้สึกถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นและความอบอุ่นบนหน้าอกถูกดึงออกไป วาโยก็กระสับกระส่าย เขาขมวดคิ้วเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว
การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในการแสดงออกของเขามิอาจรอดพ้นสายตาของยลดาได้
วาโยเริ่มรู้สึกอะไรกับเธอเหรอ ไม่ ฉันปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ไม่งั้นฉันจะสูญเสียทุกอย่างไป
คุณหญิงจับแขนของปรียาดาไว้แน่น พร้อมออกแรงดึงหญิงสาวไปด้านข้าง ตาจ้องมองที่เธอ “เธอเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลวงษ์รักษาเหรอ คนที่โดนไล่ออกจากบ้านน่ะนะ? หึ ดูเธอสิ เหมือนนังจิ้งจอกซะไม่มี เคยมองตัวเองในกระจกบ้างไหม อะไรทำให้เธอคิดว่าตัวเองดีพอจะเข้าใกล้ลูกชายกับหลานชายของฉัน”
เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แขน ปรียาดาเริ่มหมดความอดทน แววแห่งความรำคาญฉายผ่านดวงตา “คุณหญิงพูดถูกค่ะ ทุกคนในครอบครัวธนโสภณเป็นพุดเดิ้ลพันธุ์แท้ที่มีค่าและมีราคาแพง ดังนั้นคุณหญิงก็ควรดูแลสุนัขสองตัวของคุณให้ดี” ปรียาดากล่าวเยาะเย้ย ทุกคำที่เธอพูดเต็มไปด้วยการเสียดสีและดูถูกเหยียดหยาม
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ วาโยก็เงียบไป ในใจลึก ๆ เขาก็กลัวว่าเธอจะสามารถทำลายใครซักคนลงได้โดยไม่ต้องเอ่ยคำพูด
“เธอ—” ด้วยความโกรธ คุณหญิงนฤดีสะบัดแขนของปรียาดาออกอย่างแรงก่อนจะเริ่มทุรนทุรายจากการหายใจไม่ทันจากความโกรธ
“ปากแข็งอย่างที่คิด มาดูกันว่าเธอจะยังทำตัวจอหองในคุกได้อยู่ไหม!”
คุก?
ปรียาดาหรี่ตา ความจริงของเรื่องยังไม่ถูกเปิดเผย แต่พวกเขากำลังกล่าวหาว่าเราเป็นผู้กระทำความผิด พวกเขาวางแผนจะโยนเราและให้เราติดคุกตลอดชีวิตงั้นเหรอ
ปรียาดาเลื่อนสายตาไปยังวาโยก่อนจะเลิกคิ้ว “คุณลมคิดว่าฉันเป็นคนวางยาพวกเขาด้วยเหรอคะ?”
ในการตอบสนอง วาโยมองดูเธออย่างใจเย็น “ตำรวจจะเปิดโปงผู้กระทำความผิดที่อยู่เบื้องหลังการวางยาทันทีที่เริ่มสืบสวน” เขากล่าวอย่างสบาย ๆ
ปรียาดาอ้าปากค้าง
เฮอะ! เราคงจะปฏิเสธอะไรไม่ได้สินะ
หลังจากที่เด็ก ๆ ได้รับพิษตอนอยู่คอนโดมิเนียมของเธอ ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ
เมื่อเห็นว่าปรียาดาเงียบไปโดยไม่มีความตั้งใจที่จะอธิบายตัวเอง วาโยก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
ผู้หญิงคนนี้นิ่งจริง ๆ เธอสามารถสงบสติอารมณ์ได้แม้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น ทั้งเธอและบีมเป็นลูกสาวของตระกูลวงษ์รักษา แล้วทำไมถึงต่างกันได้ขนาดนี้? ถ้าบีมเทียบได้สักเสี้ยวหนึ่งของปรียาดา บีมก็คงไม่พยายามเอาชนะลูกชายตัวเองหรอก
ติ๊ง!
ทันใดนั้นประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก ชายหนุ่มในชุดกาวน์เดินออกมาจากประตู
เมื่อเห็นแพทย์ คุณหญิงนฤดีก็จรลีไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกันยลดากำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัวและภาวนาในใจอย่างเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้ช่วยเด็กทั้งสองสำเร็จ เธอไม่ต้องการอะไรเลยนอกจากให้ทั้งสองคนนั้นตาย
“หมอมิว หลานชายของฉันเป็นยังไงบ้าง”
หมอมิวใช้มือไปลูบหน้าผากก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน “มันเป็นยาพิษที่รุนแรงมากครับ ถ้าพวกเขาถูกส่งตัวมาที่นี่ช้าไปสิบนาที เด็กทั้งสองคนคงจะไม่รอด ผมได้ทำการล้างท้องเด็กทั้งสองและให้ยาแก้พิษแก่พวกเขาแล้ว ตอนนี้อาการของพวกเขาคงที่แล้วครับ”
คำพูดของหมอสร้างความโล่งใจให้กับทุกคนในห้อง ยกเว้นยลดา
คุณหญิงนฤดีตบหน้าอกปลอบโยนตัวเอง เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ถือว่าฟาดเคราะห์ไป” เธอพึมพำ “หลังเรื่องร้าย ๆ มักจะมีเรื่องดี หลานที่ดีของฉันจะปลอดภัยและมีสุขภาพดีในอนาคต”
จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
ปรียาดาเป็นห่วงลูกชายของเธอเช่นกัน หลังจากยืนไม่ไหวติงเป็นเวลาสามวินาที เธอก็เดินตามคุณหญิงนฤดีเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว
วาโยเอ่ยพลางเหลือบมองหมอ “หมอมิว รบกวนไปที่ห้องทำงานหน่อยครับ ผมมีเรื่องจะถาม”
“ได้ครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นสาม
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสได้มั้ยคะ บัตรอื่น ๆ ไม่มี ต้องซื้อเป็นครั้ง ๆ ไป...
สนุกค่ะ...
ชอบจังแนวลูกแฝดกับคุณแม่คนเก่ง...