อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นสาม นิยาย บท 4

ดาวเหนือเปรียบเทียบรูปภาพของเขากับวาโยอย่างใกล้ชิด

เราดูเหมือนกันมากเกินไป พ่อของเราเป็นคนหัวโล้นอายุหกสิบกว่าแล้ว เขาห่างไกลจากความหล่อเหลาและร่ำรวย เราต้องหลับฝันดีแน่ถ้ามีพ่ออย่างคุณลม

เอี๊ยด! ประตูเปิดออก ปรียาดาเข้ามาพร้อมจานผลไม้

เด็กชายรีบปิดแล็ปท็อป เรายังมีหลายอย่างที่ต้องทำ จะปล่อยให้แม่รู้ไม่ได้

“หึ! ลูกคิดว่าแม่ไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าลูกกำลังทำอะไรอยู่? แม่พนันได้เลยว่าลูกกำลังส่องสาว ๆ อีกแล้ว แม่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกจะทำตัวแบบนี้ตั้งแต่อายุเท่านี้” หญิงสาวหยอกเย้า

“ทำไมผมต้องทำแบบนั้นครับ ผมมีน้องสาวที่น่ารักทั้งคนนะ” เขาตอบพลางกลอกตา

ปรียาดาวางจานบนโต๊ะ “แล้วตอนนี้น้องอยู่ที่ไหนล่ะ ยังทัวร์อยู่เหรอ เธอจะกลับมาเมื่อไหร่”

“ทำไมเธอต้องกลับด้วย” เด็กชายถามและมองไปที่ผู้เป็นแม่

“อีกสองสัปดาห์ก็ถึงวันครบรอบวันตายของยายแล้ว แม่ไม่เคยพาพวกลูกไปเจอยายมาก่อน ดังนั้นแม่แค่คิดว่าเราสองคนน่าจะไปเยี่ยมเธอสักครั้ง”

“อ๋อครับ ผมจะส่งข้อความหาน้องวันพรุ่งนี้ แล้ว... แม่จะไม่พาเราไปที่ตระกูลเวชภักดีเหรอครับ ผมรู้ว่ามันแปลกที่มีพ่ออายุหกสิบปี แต่อย่างน้อยผมก็สามารถไถเงินจากพ่อได้”

“เขาไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ลูก แม่เจาะระบบธนาคารเลือดเมื่อสามปีที่แล้วและเปรียบเทียบดีเอ็นเอของเขากับลูกแล้ว ดังนั้นลูกควรจะเลิกคิดที่จะรีดไถเงินจากเขา”

เด็กน้อยทำหน้าบึ้งและพึมพำ “พ่อผมคงจะอยู่ที่ไหนซักแห่ง ไม่มีทางที่ผมจะไม่มีพ่อ ผมจะตามหาเขาหลังจากจัดการเจ้าวายร้ายลมเสร็จ การตามหาพ่อจะไม่เป็นปัญหาสำหรับผม ผมฉลาดมากอยู่แล้ว”

สองวันผ่านไป วาโยเข้าไปในห้องของภูผาด้วยใบหน้าแห่งผู้มีชัย

รอยยิ้มที่หยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมเมื่อเห็นเด็กชายที่อ่อนแอและหิวโหยนอนอยู่บนเตียง

“ยังอยู่ไหม ถ้าลุกไหว พ่อจะพาไปหาผู้หญิงคนนั้น” วาโยเสนอ

เขาได้ทำการตรวจสอบประวัติของปรียาดา และตามที่เขาคาดไว้ เธอคือปรียาดา วงษ์รักษา ลูกสาวคนโตของครอบครัววงษ์รักษา และเป็นพี่สาวคนละแม่ของยลดาด้วย

แปดปีที่แล้วเธอขายตัวเองให้ชายวัยห้าสิบกว่า ๆ ในราคาห้าล้าน หลังจากนั้นข่าวเกี่ยวกับการคลอดลูกแล้วลูกตายของเธอก็ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ แล้วเธอก็ไปต่างประเทศเนื่องจากไม่สามารถอยู่ในฮอลส์เบย์ได้อีกต่อไป

วาโยพยายามเมินภูผาในช่วงสองวันที่ผ่านมาเพราะเขาไม่อยากให้ลูกชายไปยุ่งกับผู้หญิงแบบนั้น แต่เด็กคนนั้นกลับดื้อรั้นเกินกว่าที่เขาคิดไว้

ถ้าวาโยปล่อยไปแบบนั้น มีหวังภูผาคงอดตายแน่

เนื่องจากตระกูลธนโสภณยังต้องการทายาท และวาโยไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลย ผู้เป็นพ่อจึงคิดว่าตนควรประนีประนอมและตามใจผู้เป็นลูก

เมื่อภูผาได้ยินว่าวาโยยอมอ่อนข้อ เขาพยายามลุกขึ้นจากเตียงทั้ง ๆ ที่รู้สึกหัวหมุนไปหมด

“ไปกันเถอะครับ” เขากระซิบ

วาโยเดินเข้าไปใกล้เพื่ออุ้มเด็กชายที่อ่อนแอก่อนจะดุ “พ่อไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกกำลังทำตัวปรปักษ์กับแม่ แต่ร้องเรียกหาป้าแทน เรานี่มันไม่ไหวเลย”

ที่ชั้นล่าง ยลดาตื่นตระหนกเมื่อเห็นวาโยอุ้มภูผาไปทางประตูตรงข้ามห้องนั่งเล่น เธอพุ่งไปขวางหน้าพวกเขาไว้

“คุณลมจะพาผาไปไหนคะ” เธอถาม

“ผมจะพาเขาไปหาปาย” เขาตอบอย่างเย็นชาโดยไม่หันมามองเธอ

“ไม่นะ!” ยลดาเอื้อมมือออกไป อยากจะกระชากตัวเด็กชายมาให้รู้แล้วรู้รอด

ไม่อยากเชื่อเลย คุณลมบอกว่าอยากพาไอ้เด็กนี่ไปหานังปายงั้นเหรอ เขาต้องการอะไร? เธอเป็นพี่สะใภ้เขานะ!

บ้าไปแล้ว! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอ้ตัวแสบนี่ยังมีชีวิตอยู่

ถึงเวลาที่เราต้องพิจารณาหาคนอื่นมาเลี้ยงผา เราไม่อยากให้ลูกโตมากับแม่แบบนี้

นังปาย หนทางยังอีกยาวไกล ฉันจะฆ่าแกให้ได้

อะไรกันนี่ผู้หญิงคนนี้ เธอเพิ่งใช้หมามาเปิดประตูงั้นเหรอ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นสาม