อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม นิยาย บท 200

ได้ยินข้ารับใช้พูดแบบนี้ เย่เฟิงก็แอบเงี่ยหูฟัง

ฮูหยินท่านนี้พลัดพรากกับลูกชายแท้ๆมาสิบแปดปี เขาก็พลัดพรากกับพ่อแม่มาสิบแปดปี นางเป็นแม่แท้ๆของเขาหรือเปล่านะ?

มองดูฮูหยินท่านนี้อีกที ท่าทีสง่างาม พูดจาเป็นมารยาท แม้จะอายุมากแล้ว แต่ใบหน้าก็ยังดูแลได้อย่างดี ดูยังไงก็ไม่เหมือนชาวบ้านจนๆทั่วไป

ฮูหยินชนชั้นสูงแบบนี้ จะเป็นแม่แท้ๆของเขาได้ยังไงกัน

เย่เฟิงหัวเราะเบาๆ

เขาคิดถึงพ่อแม่จนเสียสติไปแล้วหรือไงกัน

ฮองเฮาฉู่รู้สึกเศร้าโศกเสียใจ “ตอนนั้น หลินเอ๋อร์ของข้าโดนลักพาตัวตรงนอกตำบลชิงหง ราชครูบอกว่า หากข้าอยากได้หลินเอ๋อร์ของข้าคืน จะต้องไปขอพรบูชาสักการะที่วัดเมฆขาว ราชครูเชี่ยวชาญเรื่องการพยากรณ์ รู้เรื่องอดีตและอนาคต เขาไม่มีทางหลอกข้าแน่นอน”

“แต่ท่านมาจุดธูปเทียนที่นี่หลายปีแล้ว หลายปีก่อนยังมาสวดขอพรในวัดเมฆขาวทุกวัน ตอนนี้ก็ยังหาคุณชายน้อยไม่เจอเลย”

นึกถึงเรื่องที่ผ่านมา ขอบตาซิ่งเอ๋อร์แดงก่ำ

ตั้งแต่คุณชายน้อยถูกลักพาตัวไป ฮองเฮาก็คิดถึงจนนอนไม่หลับ สวดขอพรในวัดเมฆขาวมาสิบกว่าปีแล้ว แค่อยากขอพรให้คุณชายน้อย หวังให้แม่ลูกพบกันอีกครั้ง

ต่อมาฮองเฮาก็ผอมลงทุกที ก็ถึงบังคับให้ฮองเฮากลับแคว้น แต่ฮองเฮาก็ยังอดทนมาจุดธูปทุกปี และยังนอนที่นี่หนึ่งเดือนอีก เพื่อรอการกลับมาของคุณชายน้อย

ฮ่องเต้กับฮองเฮายอมทำทุกอย่างเพื่อตามหาคุณชายน้อย พวกเขาเป็นจักรพรรดิและราชินีแห่งแคว้นฉู่ผู้สูงศักดิ์ แต่ตลอดสิบแปดปีที่ผ่านมาพวกเขากินเจ ไม่กินเนื้อเลย ทำถึงเช่นนี้แล้วยังแลกความเมตตาจากฟ้าสวรรค์ไม่ได้อีกเหรอ

ฮองเฮาฉู่จุดธูปแล้วพูดไปด้วยว่า “หลินเอ๋อร์ของข้าอาจจะกลับมาแล้วก็ได้”

ทุกครั้งนางก็จะปลอบใจตัวเองแบบนี้ตลอด

แต่นางไม่รู้ว่าจะปลอบใจตัวเองได้อีกนานแค่ไหน

หลายปีมานี้เพราะคิดถึงบุตรชายจนร่างกายของนางทรุดโทรมลงทุกที หลินเอ๋อร์ก็ยังไม่ปรากฏขึ้นขึ้น เกรงว่านางจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

“ฮูหยิน……”

ซิ่งเอ๋อร์น้ำตาไหลเป็นทาง น้ำเสียงสะอึกสะอื้น กลับไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี จึงต้องด่าแทน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม