ในพระนคร ฮ่องเต้ที่อยู่เบื้องบน ประชาชนที่อยู่เบื้องล่าง ทุกคนล้วนกำลังแพร่กระจายเรื่องราวฮองเฮาอำมหิตจองใจทรราช
และล้วนกำลังรอคอยเรื่องราวบทใหม่ล่าสุด
มีขุนนางครอบครัวสูงศักดิ์ไม่น้อยที่จ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อซื้อเส้นสาย ให้ผู้คนส่งเรื่องราวภายหลังมาให้ที่จวนของพวกเขาในเวลาแรก
ทั้งยังมีคนบางพวกที่คิดจะหาเงิน หลังจากที่ได้รับต้นฉบับมาในตอนแรก แต่ก็ให้คนจำนวนมากมาคัดลอก แล้วขายต่อให้คนอื่นในราคาสูง
ในพระนครมีการติดตามนิยายอย่างบ้าคลั่งชนิดหนึ่งกระพือขึ้น
ในราชวิทยาลัย
กู้ชูหน่วนได้ยินข่าวนี้ ก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
นางคิดเพียงจะเขียนเรื่องนี้ให้จบอย่างเร็วที่สุด รีบชนะที่หนึ่งให้ได้เร็วที่สุด เพื่อรับปิ่นระย้าหยกขาว แต่กลับลืมไปว่ายังมีวิธีการหาเงินที่ดีขนาดนี้อยู่
นางรู้สึกว่าตัวเองพลาดเงินไปจำนวนไม่น้อย
ราชวิทยาลัยไม่ต่างไปจากก่อนหน้านี้ มีคนจำนวนมากล้อมรอบภายนอกสามชั้นภายในอีกสามชั้น ล้วนกำลังรอนิยายในเวลาแรก
ในเหตุการณ์นอกจากชิงเฟิงที่เอาคำพูดของกู้ชูหน่วนเปลี่ยนเป็นตัวอักษรแล้ว ยังมีคนอื่นที่แบ่งกันจดบันทึกอีกเก้าคน
เพราะว่ากู้ชูหน่วนอ่านเร็วเกินไป เขาคนเดียวก็ทำไม่ทันโดยสิ้นเชิง
แม้ว่าจะเพิ่มมาอีกเก้าคน เขาก็ยังคงเหนื่อยจนแทบไม่ไหว ราวกับว่ามือขวาไม่ได้เป็นของเขาแล้ว มีชีวิตมานานขนาดนี้ รวมกันขึ้นมาแล้วก็ไม่ได้เขียนมากเท่ากับตอนนี้
กู้ชูหน่วนอ่านจนคอสากปากแห้ง พูดเสียงดังว่า “ข้าทำงานยุ่งอยู่ที่นี่มาสามวันสองคืนแล้ว สามวันสองคืนนี้ข้าไม่ได้งีบแม้แต่น้อย พวกเจ้าที่มาดูความสนุกนี่ จะไม่ทุ่มเทอะไรหน่อยเลยหรือ?”
“กู้ชูหน่วนอยากได้อะไร พูดมาได้เลย”
“งั้นก็พูดง่ายหน่อย ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะเอานิยายของข้าไปหาเงินหรือไม่ คนที่อยู่ที่นี่ คนหนึ่งจ่ายมาห้าพันตำลึงละกัน”
“ห้าพันตำลึง มากขนาดนั้นเชียว?”
“ไม่ยอมจ่าย ก็ออกไปได้เลย”
คนที่สามารถอยู่ที่ราชวิทยาลัยได้ ผู้ใดบ้างที่ไม่ได้มีภูมิหลังเพียบพร้อมไปด้วยทรัพย์สิน
เงินห้าพันตำลึงมากก็จริง แต่พวกเขาก็สามารถควักออกมาได้
ภายใต้ดุลยพินิจ คนที่อยู่ตรงนั้นล้วนทยอยล้วงเงินห้าพันตำลึงออกมา คิดว่าตัวเองก็ให้คนคัดคอกบางส่วนไปขายด้วย เพื่อหาเงินก้อนใหญ่สักก้อน
กู้ชูหน่วนมองดูเงินเป็นกองดั่งภูเขาเบื้องหน้าด้วยความพอใจ เก็บทั้งหมดไว้ในแหวนมิติ
ของของนางมากมายเกินไปแล้ว แหวนมิติก็แน่นเอี๊ยด แทบไม่พอใช้
ทั้งหมดมีเพียงซ่างกวนฉู่ผู้เดียวที่ไม่จ่ายเงิน
กู้ชูหน่วนยื่นมือออกไป
ซ่างกวนฉู่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ต้องการให้ข้าจ่ายเงินก็ได้ ปิ่นระย้าหยกขาวนั่นก็ไม่เอามาเป็นรางวัลแล้ว”
“ทำไม?”
“เพราะว่านิยายของเจ้า เดิมทีก็คือข้อสอบ จ่ายเงินแล้ว เช่นนั้นความหมายของมันก็เปลี่ยนไปแล้ว ในเมื่อไม่ใช่ข้อสอบ ข้ามีเหตุผลอะไรจะต้องให้รางวัลด้วย”
กู้ชูหน่วนกัดฟัน “ได้ ท่านเก่งกาจ แต่สถานการณ์ตอนนี้ ท่านก็เห็นแล้ว ที่หนึ่งจะต้องเป็นของข้าอย่างแน่นอน ท่านควรจะมอบปิ่นระย้าหยกขาวให้ข้าได้แล้วใช่หรือไม่”
“นิยายเรื่องนี้ยังไม่มีตอนจบ ผลสอบก็ยังไม่ออก”
“ดวงตาของผู้คนล้วนเปล่งประกาย ท่านมองดูผู้ที่มุงล้อมตรงนี้ แล้วมองดูปฏิกิริยาของประชาชนในพระนครสิ”
ซ่างกวนฉู่ยิ้มแต่ไม่ได้เปล่งวาจา
แต่ท่าทางนั่นก็แสดงออกมาชัดเจนแล้ว นิยายยังเขียนไม่จบ ผลสอบไม่ออก เขาไม่มีทางหยิบออกมาเด็ดขาด
กู้ชูหน่วนทำได้เพียงกัดฟัน แล้วก็อ่านบลาๆๆต่ออีกยกใหญ่
ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วยาม กู้ชูหน่วนทนไม่ไหวแล้ว
นางมาตรงหน้าของซ่างกวนฉู่ด้วยความคับข้องใจ ชี้ไปที่รอยคล้ำใต้ตาตัวเอง “อาจารย์ซ่างกวน ท่านก็เห็นแล้วว่าข้าไม่ได้ปิดตามาสามวันสองคืนแล้ว ดวงตาสองข้างของข้ากลายเป็นตาหมีแพนด้าแล้ว อีกทั้งในตาทั้งดวงก็เป็นเส้นเลือด แทบจะเปิดตาไม่ขึ้นแล้ว เห็นแก่ความตั้งใจของข้า เอาปิ่นระย้าหยกขาวมอบให้ข้าก่อนเถอะนะ”
นางเหนื่อยล้ามากจริงๆ แม้แต่คำที่พูดออกมาก็แหบแห้งหมดแล้ว
ซ่างกวนฉู่หวั่นไหวเล็กน้อย
ผู้คนที่ราชวิทยาลัยก็หวั่นไหวแล้วเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
อ่านๆ ไปแล้วก็รู้สึก ประสาท เว่อวัง คิดว่าอ่านจะซ่อนความอะไรไว้ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่เจอเลย ลำไยมาก...
บางทีก็เบื่ออีนางเอกนี่ กำเริบเสิบสานกวนตีนได้สุดยอด ไล่ออกจากแคว้นก็ได้แล้ว...
ตอนที่1142-1190หายไปค่ะ...
ตอนที่ 1142-1190 หายไปค่ะ...