อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม นิยาย บท 726

“นายหญิง ทำเช่นไรดี เกรงว่าผู้อาวุโสใหญ่คงจะมีอันตรายแล้ว”

“พวกเราเร่งรีบเดินทางมาจนไกลเกินไป จะวนกลับไปอีกก็ไม่ทันแล้ว อีกทั้ง......”

กู้ชูหน่วนกุมแหวนมิติในมือแน่น

หากว่านางทำมุกมังกรหายเพราะการกลับไป แม้ว่าผู้อาวุโสใหญ่จะตายเขาก็จะไม่ให้อภัยตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นศักยภาพของนางยังห่างไกลกับสุดยอดผู้อาวุโสทั้งสามมากนัก

“เผ่าหยกของพวกเรายังมีผู้อาวุโสคนอื่นออกมาช่วยเหลือสนับสนุนอีกหรือไม่?”

“เผ่าหยกส่งคนออกมาเป็นกองหนุนมากเท่าไหร่กันแน่ข้าน้อยก็ไม่ชัดเจน แต่ว่าเรื่องราวพัวพันกับมุกมังกร เผ่าหยกน่าจะออกมาพร้อมกันทั้งเผ่า ข้าน้อยรู้เพียงแค่ยอดฝีมือของสำนักอสุราและหอหนึ่งในหล้าได้ถูกเคลื่อนย้ายออกมาทั้งหมดแล้ว”

“ออกมาทั้งหมดรึเปล่า? ตอนนี้ทำได้เพียงเฝ้ารอให้กองหนุนมาช่วยผู้อาวุโสใหญ่แล้ว”

ราวกับว่าจอมมารไม่ได้เห็นถึงสีหน้าอันเคร่งขรึมของกู้ชูหน่วน ขยับเข้ามาในรถม้าต่อเนื่อง มืออันขาวกระจ่างเรียวยาวชี้ไปที่เย่จิ่งหานที่หมดสติอยู่ทันที

“พี่สาว ท่านพาเขาไปด้วยทำไม ตอนนี้พวกเราคุ้มกันนำมุกมังกรกลับไปส่งสำคัญกว่า ไม่เช่นนั้นทิ้งเย่จิ่งหานลงรถม้าไปซะ จะได้แบ่งเบาภาระให้ม้าได้อีกหน่อย”

“กลัวว่ารถม้าจะหนักเกินไปใช่หรือไม่? เช่นนั้นต้องการให้ข้าทิ้งเจ้าลงไปด้วยหรือไม่ล่ะ”

“ทิ้งข้าทำไม ข้าอยู่ในรถม้า ยังสามารถปกป้องท่านได้นะ จะเหมือนคนขี้โรคนั่นได้ยังไง ทั้งวันถ้าไม่โดนพิษก็บาดเจ็บสาหัส”

“ซือ........”

แรงสังหารอันดุดันและน่าสะพรึงกลัวไล่ติดตามมาแต่ไกล

ท้องฟ้าทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยพยับเมฆดำมืด แรงสังหารคุกรุ่น

ทุกคนต่างตกตะลึง โดยเฉพาะจอมมารที่สังเกตเห็นได้เป็นคนแรก เขารีบเก็บสีหน้าท่าทางยิ้มแย้มลง เสียงจริงจังขึ้นเล็กน้อย

“ตาแก่สองคนนั้นไล่ตามมาแล้ว”

“ตาแก่สองคนไหน?” คงจะไม่ใช่สุดยอดผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองของเผ่าเทียนเฟิ่นหรอกนะ?

“เป็นลมปราณของพวกเขาทั้งสอง สุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยและสุดยอดผู้อาวุโสหยู่เย่”

“ครืน......”

ฟ้าร้องฟ้าผ่าดังขึ้นในนภา ฟ้าแลบแวบวาบผ่านขอบฟ้าไป ทำให้ท้องฟ้าที่มืดครึ้มสว่างไสวราวกับกลางวัน

ราวกับว่าพยับเมฆที่ไล่หลังมาจะก่อตัวขึ้นเป็นพายุลมฝนโหมกระหน่ำ ที่สามารถจะกระหน่ำเทลงมาได้ทุกเมื่อ

ลมนี้ เมฆนี้ล้วนมีกลิ่นคาวเลือด คาดว่าต่อจากนี้จะต้องมีพายุฝนตกกระหน่ำฝนและมีกลิ่นคาวเลือดด้วยเป็นแน่

นี่ไม่ใช่วิชาควบคุมฝน กระบวนท่าไม้ตายของสุดยอดผู้อาวุโสอั้นเฮยหรือ?

กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยความกังวล “เจี่ยงเสวีย เร็วขึ้นอีกหน่อย”

ไม่จำเป็นต้องให้กู้ชูหน่วนพูดมากมาย เจี่ยงเสวียก็สะบัดบังเหียน พยายามเพิ่มความเร็วให้ถึงที่สุด

การไล่ตามฆ่าของยอดฝีมือขั้นสุดยอดระดับหกของผู้ยิ่งใหญ่สองคน พวกเขาที่อยู่ตรงนี้รวมตัวกัน ก็ไม่เพียงพอให้คนอื่นเขาสังหาร

ไม่ว่าวิทยายุทธของจอมมารจะสูงเพียงไหน ก็เป็นเพียงแค่ระดับหกเท่านั้น

และเหมือนกับตอนนี้ได้ลดลงไปถึงขั้นสุดยอดระดับห้าแล้วด้วย ก็ยิ่งไม่ใช่คู่ต่อกรของพวกเขาเข้าไปอีก

“เสี่ยวลู่ ยังห่างไกลจากเผ่าหยกอีกมากเท่าไหร่?”

“ใกล้แล้ว ข้ามเขาไปอีกสองลูกก็ถึงแล้วเจ้าค่ะ พวกเราต้องเร็วขึ้นอีกหน่อย บางทีอาจจะมีโอกาส”

“เจี่ยงเสวีย เลี้ยวไปทางซ้าย”

“นายหญิง ถ้าพวกเราวนไปทางซ้าย จะใช้เวลาอ้อมนานมาก เช่นนี้ก็จะยิ่งไร้หนทางในการสลัดจากสุดยอดผู้อาวุโสทั้งสองของเผ่าเทียนเฟิ่น”

“เจ้ารู้หรือไหมว่าครั้งนี้เผ่าหยกของเราส่งคนมาเป็นกองหนุนมากเท่าไหร่? ในเผ่าเหลือคนคุ้มกันไว้เท่าไหร่ เจ้ารู้หรือ? หากว่าทางเข้าของเผ่าหยกถูกพวกเขาหาเจอ หากพวกเขาบุกโจมตีเผ่าหยก หรือว่ารวบรวมกองกำลังกองใหญ่โจมตีเผ่าหยก ผลจะเป็นเช่นไรอีก เจ้ารู้ได้งั้นหรือ?”

“ข้าน้อยประมาทไปแล้ว”

“ครืน......”

พายุฝนใกล้จะเทลงมา น้ำไหลล้นเหมือนดั่งเขื่อนแตก ไหลทะลักลงมา

เมื่อเห็นว่าด้านหน้าเป็นหน้าผาแล้ว เจี่ยงเสวียแทบอยากจะให้มีปีกคู่หนึ่งงอกขึ้นมา พาพวกเขาเหาะทะยานเข้าไป

แต่เขาก็กังวลมากเช่นกัน ลักษณะภูมิประเทศของที่นี่สูงเกินไป ไม่รู้ว่าหุบเขาลูกนี้ลึกกี่จั้ง จะพุ่งลงไปทั้งคนและรถจริงๆน่ะเหรอ?

ตัวเขาตายเองก็ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่

หากว่าท่านอ๋องเป็นอะไรขึ้นมา เขาจะอธิบายอย่างไร?

“เมื่อถึงยอดหน้าผา เจ้าห้ามหยุดความเร็ว พุ่งลงเหวไปโดยตรง เจ้าไม่มีเวลาลังเล หากในใจเจ้ามีความลังเลเพียงเศษเสี้ยว พวกเราทุกคนก็จะต้องตายไปพร้อมกับเจ้า”

“ขอรับ.....”

เจี่ยงเสวียสูดหายใจเฮือกหนึ่งอย่างฉับพลัน

แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าแผนการภายหลังของพระชายาคืออะไรกันแน่ แต่เขาเชื่อท่านอ๋อง สายตาของท่านอ๋องคงไม่แย่ นางจะไม่เอาชีวิตของท่านอ๋องมาล้อเล่น ยิ่งจะไม่เอาชีวิตของตัวเองมาล้อเล่นด้วย ตลอดมาพระชายาของพวกเขาฉลาดและเจ้าเล่ห์จะตาย”

ในที่สุด.......

พวกเขาพุ่งไปที่ยอดหน้าผา แรงสังหารอันน่าสะพรึงกลัวทั้งสี่ไล่ตามมา

“ฉึบ......”

เถาวัลย์สีเขียวเส้นหนึ่งทอดยาวคดเคี้ยวมา เหมือนกับว่าอยากจะปกคลุมทั้งรถม้าไว้

จอมมารยกมือขวาขึ้น ดอกลำโพงผลิบานทีละดอกๆเกาะอยู่บนดอกเถาวัลย์ และเกาะเกี่ยวเข้ากับเถาวัลย์สีเขียว

“ฉึก......”

เถาวัลย์สองต้นพัวพันกันเหมือนฝ้ายไหมสองกลุ่มก้อน เกาะเกี่ยวกันแน่น ใครก็ไม่ยอมใคร

“นายหญิง ต้องการพาจอมมารไปที่เผ่าหยกด้วยหรือ?”

“เพ้อเจ้อ แล้วจะทิ้งเขาไว้ที่นี่หรือไง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม