จอมมารรีบหยิบกระจกเล็กๆบนตัวออกมา มองดูตัวเองในกระจกด้วยอาการสั่นเทาเล็กน้อย
เขาไม่ได้แก่จนน่ากลัวเหมือนเจี่ยงเสวีย เพียงแค่มีรอยเหี่ยวย่นเล็กน้อยเท่านั้น
จอมมารถอนหายใจลมสกปรกออกมายาวๆ ไม่ช้าจิตใจเขากังวลขึ้นมาอีก รอยเหี่ยวย่นนี่ช่างน่าเกลียดนัก ทำให้เขาดูแก่ขึ้นไปหลายปีในพริบตา
กู้ชูหน่วนกล่าวว่า “พอแล้ว ไม่ต้องส่องแล้ว ไม่ต้องเอ่ยถึงว่าเจ้าจะมีริ้วรอยเพียงเล็กน้อยนี่ แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นตาแก่ ข้าก็ไม่รังเกียจเจ้า รอจนกลับถึงเผ่าหยก ข้าช่วยเจ้าบำรุงสักหน่อย รับรองว่าจะทำให้เจ้าสง่างามสะดุดตาผู้คนเหมือนเมื่อก่อนได้แน่นอน”
พูดก็พูดเช่นนี้ แต่จอมมารก็ยังรู้สึกรังเกียจตัวเองอยู่นิดหน่อย เขาเอาผ้าปิดหน้าออกมาชิ้นหนึ่ง คลุมหน้าของตัวเองไว้ พยายามอยู่ให้ไกลจากกู้ชูหน่วนเท่าที่จะทำได้ ปากก็บ่นพึมพำ
“น่าแปลกจัง ทำไมใบบัวกินคนและดอกบัวเหล่านี้จึงทำร้ายเพียงแค่ข้ากับเจี่ยงเสวีย หรือเป็นเพียงเพราะพวกเราไม่ใช่คนเผ่าหยกงั้นหรือ?”
“น่าจะใช่ สระบัวแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นก็เพื่อปกป้องเผ่าหยก”
กู้ชูหน่วนนั่งยองลง ช่วยตรวจชีพจรให้เจี่ยงเสวีย
เขาถูกช่วยได้ทันเวลา ชีวิตไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย แต่เขาเสียเลือดมากเกินไป สารหล่อเลี้ยงร่างกายก็ถูกดูดไปมาก เกรงว่าคงจะยากมากที่จะฟื้นตัวได้ในเวลาอันสั้น
จอมมารกล่าว “เลือดของท่านสามารถควบคุมดอกบัวได้ ทำไมท่านไม่เอาออกมาให้เร็วหน่อย ทำให้ข้าถูกดูดเลือดไปมากขนาดนั้น”
“ข้าก็แค่คิดที่จะลองดูเท่านั้น”
คิดถึงสภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ กู้ชูหน่วนก็ยังคงเหงื่อตก
หากว่าเลือดของนางใช้ไม่ได้ เช่นนั้นนางก็ไม่รู้จริงๆว่าจะช่วยพวกเขาได้อย่างไรแล้ว
“เจี่ยงเสวีย เจ้าเป็นยังไงบ้าง ยังไหวหรือไม่?”
เจี่ยงเสวียพยักหน้าอย่างยากลำบาก
เขายังไม่ตาย เพียงแค่ไร้แรงกำลังไปทั้งร่างกายเท่านั้น
“ท่าน......ท่านอ๋อง.....” เจี่ยงเสวียชี้ไปที่เจ้านายของตัวเองอย่างสั่นเทา ในตาเผยความกังวลใจออกมา
“วางใจเถอะ เขาก็เป็นคนรุ่นหลังของเผ่าหยก ดอกบัวเหล่านี้จะไม่ทำร้ายเขา เสี่ยวลู่ เจ้าพยุงเขาเดินไปพร้อมกัน”
กู้ชูหน่วนพูดพลางก็ประคองเย่จิ่งหานที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสสลบไม่ได้สติอยู่ขึ้นมา เดินไปตรงส่วนลึกของดอกบัวด้วยความยากลำบากตลอดทาง
จอมมารไม่ยอม ขวางอยู่เบื้องหน้าของกู้ชูหน่วน ชี้ใบหน้าที่เหี่ยวย่นของตัวเอง กล่าวด้วยความคับข้องใจ “พี่สาว ข้าก็บาดเจ็บ ข้าก็ต้องการให้ท่านประคองเช่นกัน”
“เจ้าจริงจังหน่อยไม่ได้หรือไง?”
“ข้าไม่จริงจังยังไงกัน ท่านดูสิว่าข้าบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน? ข้าเสียเลือดมากเกินไป ขาสองข้าก็อ่อนจนเดินไม่ได้แล้ว ไม่งั้นท่านแบกข้าสิ”
“รอให้เจ้าบาดเจ็บสาหัสเหมือนกับเย่จิ่งหานก่อน ค่อยมาหาข้าใหม่ละกัน”
กู้ชูหน่วนกลอกตาขาว สวรรค์รู้ว่าเย่จิ่งหานหนักเพียงใด นางถูกกดจนแทบจะหมดแรงแล้ว
หากไม่รีบกลับไปรักษาที่เผ่าหยกอีก อาการบาดเจ็บของเย่จิ่งหานจะต้องเลวร้ายขึ้นเป็นแน่
จอมมารยังคงหงุดหงิด ดึงเย่จิ่งหานและผลักไปบนตัวของเสี่ยวลู่
เย่จิ่งหานมีสิทธิ์อะไรมาครอบครองกู้ชูหน่วนตอนที่หมดสติอยู่
ตอนที่หมดสติก็ยังสามารถครอบครองกู้ชูหน่วนได้อีก
เสี่ยวลู่ประคองเจี่ยงเสวียก็ต้องออกแรงมากแล้ว ประคองเย่จิ่งหานด้วย ร่างกายก็แทบจะถูกกดทับจนล้มลงไปแล้ว
นางมองไปทางนายหญิงของตัวเองด้วยความน้อยใจ ใช้สายตาบอกใบ้ว่าตัวเองไม่ได้มีสามหัวและหกแขน
กู้ชูหน่วนพูดอย่างไม่พอใจ “เจ้าเฝ้าภาวนาให้ข้ากลับไปไม่ถึงเผ่าหยกเป็นที่สุดใช่หรือไม่?”
“จะเป็นไปได้ยังไง เพียงแค่พี่สาวต้องการ ก็คือสิ่งที่อาโม่ต้องการ”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็อย่าสร้างปัญหา เดินให้ดีๆ” กู้ชูหน่วนเอาเย่จิ่งหานกลับมาประคองอีกครั้ง
ดูว่าอาการบาดเจ็บของเขาสาหัสเพียงใดอีกครั้ง แบกยังจะเร็วกว่าประคองซะอีก
กู้ชูหน่วนจึงแบกเย่จิ่งหานไว้บนหลังเสียเลย
จอมมารจะยอมได้อย่างไร
ประคองก็รู้สึกว่าเย่จิ่งหานลวนลามนางแล้ว ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงแบกแล้ว
“พี่สาว เย่จิ่งหานหนักขนาดนั้น บนตัวยังมีเลือดไหลตั้งมากมายอีก จะลำบากท่านได้อย่างไร แบกคนเรื่องเล็กๆแค่นี้ให้ข้าทำละกัน”
“ก็ได้ แต่หากเจ้าทิ้งเขาไประหว่างทาง ก็อย่าโทษที่ข้าเปลี่ยนสีหน้าไม่ยอมรับเจ้าเป็นเพื่อนสนิทละกัน”
“รู้แล้วรู้แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
อ่านๆ ไปแล้วก็รู้สึก ประสาท เว่อวัง คิดว่าอ่านจะซ่อนความอะไรไว้ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่เจอเลย ลำไยมาก...
บางทีก็เบื่ออีนางเอกนี่ กำเริบเสิบสานกวนตีนได้สุดยอด ไล่ออกจากแคว้นก็ได้แล้ว...
ตอนที่1142-1190หายไปค่ะ...
ตอนที่ 1142-1190 หายไปค่ะ...